Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

คู่มือช้อปปิ้ง: ร้านค้ารับ Easy E Receipt 2.0 พร้อมสิทธิลดหย่อนภาษีปี 2025

Posted By Kung_nadthanan | 23 ม.ค. 68
631 Views

  Favorite

 

การช้อปปิ้งในปี 2025 กลายเป็นเรื่องง่ายและมีประโยชน์มากขึ้นด้วย Easy E Receipt ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคสามารถรับใบเสร็จในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้อย่างสะดวกและถูกต้องตามกฎหมาย สำหรับใครที่ต้องการข้อมูลเกี่ยวกับ ร้านค้าช้อปปิ้ง Easy E Receipt และวิธีใช้สิทธิลดหย่อนภาษี บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจทุกขั้นตอนอย่างครบถ้วน

 

Easy E Receipt คืออะไร?

Easy E Receipt คือ ระบบออกใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตดิจิทัลในปัจจุบัน ผู้ใช้สามารถนำใบเสร็จนี้ไปยื่นลดหย่อนภาษีได้อย่างถูกต้อง โดยระบบจะเก็บข้อมูลการซื้อขายไว้อย่างเป็นระเบียบ ทำให้การตรวจสอบและการยื่นภาษีง่ายดายยิ่งขึ้น

 

สิทธิลดหย่อนภาษี Easy E Receipt

ระบบ Easy E Receipt ช่วยให้การจัดการใบเสร็จและลดหย่อนภาษีเป็นเรื่องง่าย โดยรองรับในหลากหลายหมวดหมู่สินค้าและบริการ ดังนี้

โครงการ Easy E-Receipt 2.0 เปิดโอกาสให้ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสามารถหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท โดยแบ่งเป็นสองส่วน:

1. ส่วนที่ 1: 30,000 บาท สำหรับการซื้อสินค้าและบริการทั่วไป

2. ส่วนที่ 2: 20,000 บาท สำหรับการซื้อสินค้าจากวิสาหกิจชุมชนและสินค้า OTOP ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมพัฒนาชุมชน

 

ตัวอย่างร้านค้าช้อปปิ้ง Easy E Receipt มีอะไรบ้าง?

ตัวอย่างร้านค้าช้อปปิ้ง ที่รองรับ Easy E Receipt ในปัจจุบันครอบคลุมทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น

1. สินค้าอุปโภคบริโภค

Shopee

Big C

Tops Online

2. แฟชั่นและไลฟ์สไตล์

Lazada

Central Online

Pomelo

3. ร้านอาหารและเครื่องดื่ม

GrabFood

Line Man

Robinhood

4. สินค้าไอทีและอิเล็กทรอนิกส์

JD Central

Banana IT

Power Buy

5. บริการออนไลน์และดิจิทัล

Netflix

Spotify

True Money Wallet

6. OTOP

Thanyamanee Gems

CHITA HOUSE

Kingmarind

7. บริการของวิสาหกิจชุมชนและวิสาหกิจเพื่อสังคม

บริษัท เยือนเย็น วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด

บริษัท สเตปส์ วิธ ธีรา จำกัด

บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด

 

หมายเหตุ:  ควรสอบถามและตรวจสอบกับร้านค้าที่คุณใช้บริการเข้าร่วมโครงการ Easy E Receipt หรือไม่ และหาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือเพิ่มเติมเสมอเพื่อสามารถใช้สิทธิการลดหย่อนภาษีอย่างเต็มที่ เช่น เว็บไซต์ กรมสรรพากร https://www.rd.go.th/272.html

 

 

ขั้นตอนการใช้ Easy E Receipt สำหรับลดหย่อนภาษี

การใช้ Easy E Receipt เพื่อลดหย่อนภาษีในปี 2025 เป็นกระบวนการที่ง่ายและสะดวก ช่วยให้เจ้าของธุรกิจและผู้บริโภคสามารถจัดการเอกสารภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดภาระด้านการจัดเก็บเอกสารกระดาษได้

1. ตรวจสอบร้านค้าที่รองรับ Easy E Receipt

ก่อนการซื้อสินค้า คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าร้านค้าหรือแพลตฟอร์มที่คุณใช้รองรับระบบ Easy E Receipt วิธีตรวจสอบมีดังนี้:

-ออนไลน์: มองหาสัญลักษณ์ "Easy E Receipt" ในหน้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน เช่น Shopee, Lazada, JD Central

-ออฟไลน์: สอบถามพนักงานหรือมองหาสัญลักษณ์ Easy E Receipt ที่แสดงหน้าร้าน

เคล็ดลับ: คุณสามารถค้นหารายชื่อร้านค้าที่รองรับได้จากเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มที่เป็นพันธมิตรกับกรมสรรพากร

 

2. กรอกข้อมูลส่วนบุคคล

เมื่อทำการซื้อสินค้า คุณต้องกรอกข้อมูลเพื่อขอใบเสร็จ Easy E Receipt โดยมีรายละเอียดดังนี้:

-ข้อมูลผู้ซื้อ:

ชื่อ-นามสกุล

เลขประจำตัวผู้เสียภาษี (เลขบัตรประชาชน 13 หลัก)

อีเมลที่ต้องการรับใบเสร็จ

-ข้อมูลการติดต่อ: เบอร์โทรศัพท์ (หากมีกรณีติดตามเพิ่มเติม)

ตัวอย่าง: หากซื้อสินค้าใน Lazada ให้กรอกข้อมูลในช่อง "ออกใบกำกับภาษี" ก่อนการชำระเงิน

 

3. ชำระเงินและขอใบเสร็จ Easy E Receipt

หลังจากกรอกข้อมูลครบถ้วน ให้ดำเนินการชำระเงินตามช่องทางที่ร้านค้ากำหนด เช่น

-โอนเงินผ่านธนาคาร

-ใช้บัตรเครดิตหรือเดบิต

-ชำระผ่านวอลเล็ต (TrueMoney, ShopeePay ฯลฯ)

เมื่อชำระเงินสำเร็จ ร้านค้าจะออกใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ให้ทันที และส่งไปยังอีเมลที่คุณระบุ

 

4. ตรวจสอบความถูกต้องของใบเสร็จ

เมื่อได้รับใบเสร็จ Easy E Receipt ผ่านทางอีเมลหรือแอปพลิเคชัน ให้ตรวจสอบข้อมูลดังต่อไปนี้:

-ชื่อ-นามสกุล และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีตรงกับที่คุณกรอก

-วันที่ออกใบเสร็จถูกต้อง

-รายการสินค้า/บริการ และจำนวนเงินรวมครบถ้วน

หากพบข้อผิดพลาด ให้รีบติดต่อร้านค้าเพื่อแก้ไขทันที

 

5. เก็บใบเสร็จในรูปแบบดิจิทัล

หลังจากตรวจสอบความถูกต้องแล้ว ให้จัดเก็บใบเสร็จ Easy E Receipt ในรูปแบบดิจิทัลเพื่อง่ายต่อการใช้งานในอนาคต เช่น

-บันทึกไฟล์ PDF ใบเสร็จในโฟลเดอร์แยกบนคอมพิวเตอร์

-อัปโหลดไฟล์เข้าสู่ Google Drive, Dropbox หรือ OneDrive

-ใช้แอปพลิเคชันจัดการใบเสร็จ เช่น myTax หรือโปรแกรมบัญชี

เคล็ดลับ: ตั้งชื่อไฟล์ให้จำง่าย เช่น "ใบเสร็จ_ช้อปดีมีคืน_Shopee_2025"

 

6. ยื่นภาษีด้วย Easy E Receipt

ในขั้นตอนการยื่นภาษีช่วงปลายปี (หรือปีถัดไป) คุณสามารถใช้ Easy E Receipt เพื่อลดหย่อนภาษีตามมาตรการช้อปดีมีคืนหรือมาตรการอื่น ๆ ของรัฐบาลได้ดังนี้:

-เข้าเว็บไซต์ กรมสรรพากร (e-Filing)

-เลือกเมนูยื่นแบบภาษี (แบบ ภ.ง.ด.90/91)

-แนบไฟล์ Easy E Receipt (ในรูปแบบ PDF หรือไฟล์ที่รองรับ)

-ตรวจสอบยอดลดหย่อนที่ระบบคำนวณให้อัตโนมัติ

-ยืนยันการยื่นภาษี

 

7. เก็บประวัติการยื่นภาษี

หลังจากยื่นภาษีเรียบร้อยแล้ว ควรเก็บสำเนาใบเสร็จ Easy E Receipt และหลักฐานการยื่นภาษีไว้เป็นเวลาอย่างน้อย 5 ปี เพื่อใช้ตรวจสอบย้อนหลัง

 

ข้อดีของ Easy E Receipt

-ลดการใช้กระดาษ: ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม

-สะดวกและรวดเร็ว: ไม่มีความยุ่งยากในการจัดเก็บ

-ปลอดภัย: ข้อมูลถูกเก็บไว้ในระบบที่มีการป้องกันอย่างดี

 

การช้อปปิ้งกับร้านค้าที่รองรับ Easy E Receipt ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการลดหย่อนภาษี แต่ยังช่วยสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย หากคุณต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในปี 2025 อย่าลืมตรวจสอบร้านค้าที่คุณเลือกช้อปว่าเข้าร่วมระบบ Easy E Receipt หรือไม่

เริ่มต้นช้อปปิ้งอย่างมั่นใจ พร้อมสิทธิลดหย่อนภาษีง่าย ๆ กับ Easy E Receipt วันนี้!

 

ข้อมูลอ้างอิง

กรมสรรพากร

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Kung_nadthanan
  • 0 Followers
  • Follow
Thailand Web Stat
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราต้องการให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ เราจึงนำคุกกี้ที่บันทึกการเข้าชม และการใช้งานบนหน้าเว็บไซต์จากเครื่องของคุณมาวิเคราะห์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพต่างๆ รวมทั้งนำเสนอคอนเทนต์ที่ตรงใจคุณยิ่งขึ้น
ยอมรับรายละเอียด
x