การช้อปปิ้งในปี 2025 กลายเป็นเรื่องง่ายและมีประโยชน์มากขึ้นด้วย Easy E Receipt ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคสามารถรับใบเสร็จในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้อย่างสะดวกและถูกต้องตามกฎหมาย สำหรับใครที่ต้องการข้อมูลเกี่ยวกับ ร้านค้าช้อปปิ้ง Easy E Receipt และวิธีใช้สิทธิลดหย่อนภาษี บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจทุกขั้นตอนอย่างครบถ้วน
Easy E Receipt คือ ระบบออกใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตดิจิทัลในปัจจุบัน ผู้ใช้สามารถนำใบเสร็จนี้ไปยื่นลดหย่อนภาษีได้อย่างถูกต้อง โดยระบบจะเก็บข้อมูลการซื้อขายไว้อย่างเป็นระเบียบ ทำให้การตรวจสอบและการยื่นภาษีง่ายดายยิ่งขึ้น
ระบบ Easy E Receipt ช่วยให้การจัดการใบเสร็จและลดหย่อนภาษีเป็นเรื่องง่าย โดยรองรับในหลากหลายหมวดหมู่สินค้าและบริการ ดังนี้
โครงการ Easy E-Receipt 2.0 เปิดโอกาสให้ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสามารถหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท โดยแบ่งเป็นสองส่วน:
1. ส่วนที่ 1: 30,000 บาท สำหรับการซื้อสินค้าและบริการทั่วไป
2. ส่วนที่ 2: 20,000 บาท สำหรับการซื้อสินค้าจากวิสาหกิจชุมชนและสินค้า OTOP ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมพัฒนาชุมชน
ตัวอย่างร้านค้าช้อปปิ้ง ที่รองรับ Easy E Receipt ในปัจจุบันครอบคลุมทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น
Shopee
Big C
Tops Online
Lazada
Central Online
Pomelo
GrabFood
Line Man
Robinhood
JD Central
Banana IT
Power Buy
Netflix
Spotify
True Money Wallet
Thanyamanee Gems
CHITA HOUSE
Kingmarind
บริษัท เยือนเย็น วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด
บริษัท สเตปส์ วิธ ธีรา จำกัด
บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด
หมายเหตุ: ควรสอบถามและตรวจสอบกับร้านค้าที่คุณใช้บริการเข้าร่วมโครงการ Easy E Receipt หรือไม่ และหาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือเพิ่มเติมเสมอเพื่อสามารถใช้สิทธิการลดหย่อนภาษีอย่างเต็มที่ เช่น เว็บไซต์ กรมสรรพากร https://www.rd.go.th/272.html
การใช้ Easy E Receipt เพื่อลดหย่อนภาษีในปี 2025 เป็นกระบวนการที่ง่ายและสะดวก ช่วยให้เจ้าของธุรกิจและผู้บริโภคสามารถจัดการเอกสารภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดภาระด้านการจัดเก็บเอกสารกระดาษได้
ก่อนการซื้อสินค้า คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าร้านค้าหรือแพลตฟอร์มที่คุณใช้รองรับระบบ Easy E Receipt วิธีตรวจสอบมีดังนี้:
-ออนไลน์: มองหาสัญลักษณ์ "Easy E Receipt" ในหน้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน เช่น Shopee, Lazada, JD Central
-ออฟไลน์: สอบถามพนักงานหรือมองหาสัญลักษณ์ Easy E Receipt ที่แสดงหน้าร้าน
เคล็ดลับ: คุณสามารถค้นหารายชื่อร้านค้าที่รองรับได้จากเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มที่เป็นพันธมิตรกับกรมสรรพากร
เมื่อทำการซื้อสินค้า คุณต้องกรอกข้อมูลเพื่อขอใบเสร็จ Easy E Receipt โดยมีรายละเอียดดังนี้:
-ข้อมูลผู้ซื้อ:
ชื่อ-นามสกุล
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี (เลขบัตรประชาชน 13 หลัก)
อีเมลที่ต้องการรับใบเสร็จ
-ข้อมูลการติดต่อ: เบอร์โทรศัพท์ (หากมีกรณีติดตามเพิ่มเติม)
ตัวอย่าง: หากซื้อสินค้าใน Lazada ให้กรอกข้อมูลในช่อง "ออกใบกำกับภาษี" ก่อนการชำระเงิน
หลังจากกรอกข้อมูลครบถ้วน ให้ดำเนินการชำระเงินตามช่องทางที่ร้านค้ากำหนด เช่น
-โอนเงินผ่านธนาคาร
-ใช้บัตรเครดิตหรือเดบิต
-ชำระผ่านวอลเล็ต (TrueMoney, ShopeePay ฯลฯ)
เมื่อชำระเงินสำเร็จ ร้านค้าจะออกใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ให้ทันที และส่งไปยังอีเมลที่คุณระบุ
เมื่อได้รับใบเสร็จ Easy E Receipt ผ่านทางอีเมลหรือแอปพลิเคชัน ให้ตรวจสอบข้อมูลดังต่อไปนี้:
-ชื่อ-นามสกุล และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีตรงกับที่คุณกรอก
-วันที่ออกใบเสร็จถูกต้อง
-รายการสินค้า/บริการ และจำนวนเงินรวมครบถ้วน
หากพบข้อผิดพลาด ให้รีบติดต่อร้านค้าเพื่อแก้ไขทันที
หลังจากตรวจสอบความถูกต้องแล้ว ให้จัดเก็บใบเสร็จ Easy E Receipt ในรูปแบบดิจิทัลเพื่อง่ายต่อการใช้งานในอนาคต เช่น
-บันทึกไฟล์ PDF ใบเสร็จในโฟลเดอร์แยกบนคอมพิวเตอร์
-อัปโหลดไฟล์เข้าสู่ Google Drive, Dropbox หรือ OneDrive
-ใช้แอปพลิเคชันจัดการใบเสร็จ เช่น myTax หรือโปรแกรมบัญชี
เคล็ดลับ: ตั้งชื่อไฟล์ให้จำง่าย เช่น "ใบเสร็จ_ช้อปดีมีคืน_Shopee_2025"
ในขั้นตอนการยื่นภาษีช่วงปลายปี (หรือปีถัดไป) คุณสามารถใช้ Easy E Receipt เพื่อลดหย่อนภาษีตามมาตรการช้อปดีมีคืนหรือมาตรการอื่น ๆ ของรัฐบาลได้ดังนี้:
-เข้าเว็บไซต์ กรมสรรพากร (e-Filing)
-เลือกเมนูยื่นแบบภาษี (แบบ ภ.ง.ด.90/91)
-แนบไฟล์ Easy E Receipt (ในรูปแบบ PDF หรือไฟล์ที่รองรับ)
-ตรวจสอบยอดลดหย่อนที่ระบบคำนวณให้อัตโนมัติ
-ยืนยันการยื่นภาษี
หลังจากยื่นภาษีเรียบร้อยแล้ว ควรเก็บสำเนาใบเสร็จ Easy E Receipt และหลักฐานการยื่นภาษีไว้เป็นเวลาอย่างน้อย 5 ปี เพื่อใช้ตรวจสอบย้อนหลัง
-ลดการใช้กระดาษ: ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
-สะดวกและรวดเร็ว: ไม่มีความยุ่งยากในการจัดเก็บ
-ปลอดภัย: ข้อมูลถูกเก็บไว้ในระบบที่มีการป้องกันอย่างดี
ข้อมูลอ้างอิง
กรมสรรพากร