เป็นศาสตร์ที่ศึกษาเพื่อให้ผู้สอนมีความรู้ความเข้าใจความแตกต่างและความต้องการของผู้เรียน ในอันที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้เรียนไปสู่แนวทางอันพึงประสงค์ได้ โดยผู้สอนควรมีความรู้ความเข้าใจ ดังนี้
ซึ่งหมายถึงความพร้อมอันเกิดจากความเป็นปกติทางร่างกาย เช่น ไม่อดนอน ไม่หิวโหย ไม่เจ็บป่วย ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป เป็นต้น
เรื่องนี้ครู อาจารย์มีความเกี่ยวข้องมากขึ้น แต่อีกส่วนหนึ่งก็เป็นความรับผิดชอบของนิสิตนักศึกษาอยู่เหมือนเดิม ส่วนที่เกิดมากจากนิสิตนักศึกษาเอง
หมายถึง การมีพื้นฐานทางวิชาการเพียงพอที่จะเรียนรู้หรือรับรู้สิ่งใหม่ๆ ทางวิชาการ
ครูที่มีความรู้ด้านจิตวิทยาสามารถวิเคราะห์และเข้าใจพฤติกรรมของนักเรียนได้ดีขึ้น ครูจะสอนโดยทราบหลักพัฒนาการทั้งทางร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม และบุคลิกภาพเป็นส่วนรวม
เช่น เหตุผลที่นักเรียนบางคนไม่กล้าพูดในห้อง หรือสาเหตุที่นักเรียนบางคนมีปัญหาด้านการเรียน
เช่น อัตมโนทัศน์ (Self concept) ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร และเรียนรู้ถึงบทบาทของครูในการที่จะช่วยนักเรียนให้มี อัตมโนทัศน์ ที่ดีและถูกต้องได้อย่างไร
ครูที่มีความรู้ด้านจิตวิทยา จะปรับวิธีการสอนให้เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคน การเข้าใจความแตกต่างของนักเรียนในด้านพัฒนาการ ความถนัด และความสนใจ จะช่วยให้ครูปรับแผนการสอนและวิธีการสอนให้ตอบโจทย์ความต้องการของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การใช้จิตวิทยาช่วยให้ครูสร้างบรรยากาศในห้องเรียนที่ส่งเสริมความมั่นใจ ลดความกดดัน และกระตุ้นให้นักเรียนอยากมีส่วนร่วมในการเรียน ครูที่มีความรู้ด้านจิตวิทยา จะรู้วิธีจัดสภาพแวดล้อมของห้องเรียนให้เหมาะสมแก่วัย และขั้นพัฒนาการของนักเรียน เพื่อจูงใจให้นักเรียนมีความสนใจและอยากจะเรียนรู้
เช่น แรงจูงใจ อัตมโนทัศน์ และการตั้งความคาดหวังของครูที่มีต่อนักเรียน
การนำจิตวิทยามาใช้ในการสอนมีประโยชน์มากมาย ไม่เพียงช่วยให้การสอนมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยังส่งผลต่อพัฒนาการของนักเรียนในหลายด้าน โดยประโยชน์ที่สำคัญ ดังนี้
จิตวิทยาสำหรับครูช่วยให้ครูเข้าใจพฤติกรรมและลักษณะนิสัยของนักเรียนได้ลึกซึ้งขึ้น เช่น สาเหตุที่นักเรียนบางคนขาดสมาธิ หรือมีพฤติกรรมต่อต้าน ครูสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการปรับปรุงวิธีการสอน และสนับสนุนนักเรียนที่ต้องการความช่วยเหลือเฉพาะทาง
การใช้จิตวิทยาช่วยให้ครูมีเทคนิคการจัดการห้องเรียนที่มีประสิทธิภาพ เช่น การรับมือกับนักเรียนที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว หรือการสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมกับการเรียนรู้ ซึ่งจะช่วยลดความขัดแย้งและส่งเสริมความสามัคคีในหมู่เพื่อนร่วมชั้น
จิตวิทยาสำหรับครูเน้นเรื่องการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ การพูดคุยที่แสดงถึงความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจช่วยให้นักเรียนรู้สึกปลอดภัยและเปิดใจ ครูจึงสามารถสื่อสารแนวทางการเรียนรู้ หรือให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคน
ครูที่เข้าใจจิตวิทยาสามารถกระตุ้นให้นักเรียนมีแรงจูงใจในการเรียน เช่น การตั้งเป้าหมายที่เหมาะสม การให้รางวัลหรือคำชมเชยในเวลาที่เหมาะสม จะช่วยให้นักเรียนมีความกระตือรือร้นและพร้อมที่จะพัฒนาตนเอง
นักเรียนหลายคนอาจมีความกดดันจากการเรียน ครอบครัว หรือเพื่อน ครูที่มีความรู้ด้านจิตวิทยาสามารถสังเกตเห็นสัญญาณเหล่านี้และให้การช่วยเหลือ เช่น การให้คำปรึกษาเบื้องต้น หรือการแนะนำแนวทางการจัดการความเครียด
จิตวิทยาช่วยให้ครูสามารถปรับวิธีการสอนให้เหมาะสมกับลักษณะการเรียนรู้ของนักเรียนแต่ละกลุ่ม เช่น นักเรียนที่เรียนรู้ได้ดีจากภาพ นักเรียนที่เรียนรู้ได้ดีจากการฟัง หรือการเรียนรู้ผ่านกิจกรรม นอกจากนี้ยังช่วยให้ครูออกแบบกิจกรรมที่กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และการแก้ปัญหา
เมื่อครูเข้าใจและยอมรับความแตกต่างของนักเรียน ความสัมพันธ์ที่ดีจะเกิดขึ้น นักเรียนจะรู้สึกว่าสามารถพึ่งพาและปรึกษาครูได้เมื่อมีปัญหา ซึ่งจะช่วยสร้างความไว้วางใจและความเคารพซึ่งกันและกัน
จิตวิทยาสำหรับครูช่วยให้นักเรียนพัฒนาทักษะทางสังคม เช่น การทำงานร่วมกับผู้อื่น การแก้ปัญหาความขัดแย้ง และการควบคุมอารมณ์ ครูสามารถจัดกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมทักษะเหล่านี้ได้ เช่น การทำงานกลุ่มหรือการเล่นบทบาทสมมติ
แหล่งข้อมูล