คดีแพ่ง คือ คดีที่เกิดความเสียหายระหว่างเอกชนกับเอกชน โดยทั่วไปจะเป็นคดีละเมิดและเกิดความเสียหายที่เป็นตัวเงิน เช่น เช่าซื้อ เช่าทรัพย์ ผิดสัญญา กู้ยืมเงิน จ้างทำของ จัดตั้งผู้จัดการมรดก
กรณีเป็นโจทก์ในคดีแพ่ง ผู้เสียหายจะต้องยื่นฟ้องเป็นคดีต่อศาล
1. คดีกู้ยืมเงิน ราคา 30,000 บาทขึ้นไป
2. คดีจ้างทำของ 30,000 บาทขึ้นไป
3. คดีละเมิด 30,000 บาทขึ้นไป
4. ค่าทนายคดีในชั้นศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา 40,000 บาทขึ้นไป
1. คดีกู้ยืมเงิน ราคา 30,000 บาทขึ้นไป
2. คดีจ้างทำของ 30,000 บาทขึ้นไป
3. คดีละเมิด 30,000 บาทขึ้นไป
4. ค่าทนายคดีในชั้นศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา 40,000 บาทขึ้นไป
คดีอาญาคือ คดีที่เกิดความเสียหายระหว่างเอกชนกับเอกชนแต่มีผลเสียหายแก่รัฐ เช่น ทำร้ายร่างกาย เอกชนกับเอกชนเสียหาย แต่รัฐก็เสียหายถือว่าขัดความสงบเรียบร้อยของรัฐ
เนื่องจากคดีอาญาเราเป็นได้ทั้งโจทก์และจำเลย และการดำเนินคดี ผู้เสียหายสามารถฟ้องตรงต่อศาล หรือผู้เสียหายสามารถแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีก็ได้
คดีอาญา เช่น ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์ ปลอมเอกสาร ทำร้ายร่างกาย พรากผู้เยาว์ ยาเสพติด เป็นต้น
1. ค่าทนายอาญา 60,000 บาท ขึ้นไป
ค่าจ้างทนายอาญา กรณีเป็นโจทก์และแจ้งความดำเนินคดี ต่อพนักงานสอบสวน
1. ค่าทนายอาญา 60,000 บาทขึ้นไป
2. ทนายดูแล เฉพาะในชั้นพนักงานสอบสวน 25,000 บาทขึ้นไป
1. ค่าดำเนินดูแลคดี 50,000 บาทขึ้นไป
2. ทนายประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน 25,000 บาทขึ้นไป
1. ค่าทนาย ในชั้นศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา 50,000 บาทขึ้นไป
นอกจากค่าบริการหลักแล้ว ผู้ว่าจ้างควรพิจารณาค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างกระบวนการ เช่น ค่าธรรมเนียมศาล ค่าพยาน ค่าเดินทางของทนาย ซึ่งค่าบริการบางส่วนอาจไม่ได้รวมอยู่ในค่าธรรมเนียมหลัก ดังนั้นควรถามให้ชัดเจนเพื่อวางแผนงบประมาณให้เหมาะสม
แหล่งข้อมูล