ภาษาอังกฤษ ป. 6 เทอม 1 เรียนเรื่องอะไรบ้าง

ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เทอม 1 การเรียนภาษาอังกฤษเป็นช่วงสำคัญที่ช่วยปูพื้นฐานความรู้ทางภาษาสำหรับนักเรียนที่กำลังเตรียมตัวเข้าสู่ระดับมัธยมศึกษา บทเรียนภาษาอังกฤษในเทอมนี้จะครอบคลุมหัวข้อสำคัญหลายอย่างที่จำเป็นต่อการพัฒนาทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียนของนักเรียน โดยเนื้อหาสำคัญมีดังนี้

เรียนเรื่องอะไรบ้าง

1. Pronoun 

2. Verb 

3. Adjective 

4. Tense 

5. Passive Voice 

6. If clause 

7. Reported Speech

เนื้อหาการเรียนแต่ละเรื่อง

1. Pronoun

ความหมายและประเภทของสรรพนาม

- Personal Pronoun (I, you, he, she, it, we, they)

- Possessive Pronoun (mine, yours, his, hers, ours, theirs)

- Reflexive Pronoun (myself, yourself, himself, herself, itself, ourselves, yourselves, themselves)

- Demonstrative Pronoun (this, that, these, those)

การใช้สรรพนามในประโยค

- แทนคำนามในตำแหน่งประธาน กรรม และส่วนอื่นๆ ของประโยค

2. Verb

ประเภทของกริยา

- Regular Verbs และ Irregular Verbs

- Main Verbs และ Auxiliary Verbs

การใช้กริยาในบริบทต่างๆ

- การผันกริยาตามประธานและกาลเวลา

- การใช้ Infinitive และ Gerund (to + verb / verb + ing)

3. Adjective

ความหมายและหน้าที่ของคำคุณศัพท์

- ใช้ขยายคำนามหรือสรรพนาม

การเปรียบเทียบคำคุณศัพท์

- Positive, Comparative, และ Superlative Degree (e.g., big, bigger, biggest)

- การใช้คำว่า more และ most

การเรียงลำดับคำคุณศัพท์

- Opinion, Size, Age, Shape, Color, Origin, Material, Purpose (OSASCOMP)

4. Tense

Present Simple Tense

- การใช้บอกข้อเท็จจริงและกิจวัตรประจำวัน

Past Simple Tense

- การเล่าเหตุการณ์ในอดีต

Future Simple Tense

- การบอกเหตุการณ์ในอนาคต

Present Continuous Tense

- การแสดงถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นขณะพูด

5. Passive Voice

โครงสร้างพื้นฐาน: Subject + Verb to be + Past Participle

- ตัวอย่าง: The book is read by the student.

การเปลี่ยนจาก Active Voice เป็น Passive Voice

- ตัวอย่าง: Active: The teacher teaches English. → Passive: English is taught by the teacher.

การใช้ใน Tense ต่างๆ

- เช่น Present Simple: The cake is eaten. / Past Simple: The cake was eaten.

6. If Clause

ประเภทของ If Clause

- Type 1: If + Present Simple, will + base verb (ใช้บอกเหตุการณ์ที่เป็นไปได้)

- Type 2: If + Past Simple, would + base verb (ใช้สมมติสิ่งที่ไม่เป็นจริงในปัจจุบัน)

- Type 3: If + Past Perfect, would have + past participle (ใช้สมมติสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต)

ตัวอย่างประโยค

- If I study hard, I will pass the exam. (Type 1)

- If I were you, I would join the club. (Type 2)

7. Reported Speech

การเปลี่ยนจาก Direct Speech เป็น Reported Speech

- ตัวอย่าง: Direct: She said, “I am happy.” → Reported: She said that she was happy.

การเปลี่ยนแปลงของกาลเวลา (Tense Backshift)

- Present Simple → Past Simple

- Present Continuous → Past Continuous

- Will → Would

การเปลี่ยนคำบอกเวลาและสถานที่

- เช่น now → then, today → that day, here → there

เทคนิคการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ

- การอ่านและทำแบบฝึกหัด: ฝึกทำแบบฝึกหัดเกี่ยวกับไวยากรณ์และการแต่งประโยคให้ชำนาญ

- การฟังและพูด: ใช้แอปพลิเคชันหรือดูวิดีโอภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาการฟังและการพูด

- การท่องศัพท์: ท่องคำศัพท์และสำนวนที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่เรียน

- การเขียน: ฝึกเขียนประโยคหรือย่อหน้าโดยใช้โครงสร้างไวยากรณ์ที่เรียนมา

การเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ป.6 เทอม 1 เป็นการเตรียมความพร้อมทางภาษาให้กับนักเรียนเพื่อการเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้น เนื้อหาครอบคลุมทั้งเรื่อง Pronoun, Verb, Adjective, Tense, Passive Voice, If Clause และ Reported Speech ซึ่งเป็นหัวข้อพื้นฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในทุกด้าน หากนักเรียนตั้งใจเรียนและฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ จะสามารถนำความรู้นี้ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมั่นใจในอนาคต