Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

สังคมศึกษา ม. 5 เทอม 1 เรียนเรื่องอะไรบ้าง

Posted By Plook Knowledge | 02 ต.ค. 67
798 Views

  Favorite

สังคมศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เทอม 1 เป็นวิชาที่มีความหลากหลายทางเนื้อหา ครอบคลุมทั้งด้านศาสนา จริยธรรม หน้าที่พลเมือง และประวัติศาสตร์ นักเรียนจะได้ศึกษาเรื่องความสำคัญของศาสนาในสังคม การเสริมสร้างจริยธรรมและค่านิยมที่ดี รวมถึงการเข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตนเองในฐานะพลเมือง นอกจากนี้ยังมีการศึกษาเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์พื้นฐาน ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบเศรษฐกิจ สถานการณ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนในการเป็นส่วนหนึ่งของสังคมอย่างมีคุณภาพ

 

สังคมศึกษา ม. 5 เทอม 1 เรียนอะไรบ้าง
1. ประวัติศาสตร์
2. เศรษฐศาสตร์
3. ภูมิศาสตร์
4. หน้าที่พลเมือง
5. ศาสนาและศีลธรรม

 

เนื้อหาการเรียนแต่ละเรื่อง

1. ประวัติศาสตร์

- ศึกษาประวัติศาสตร์ไทย เช่น เหตุการณ์สำคัญในยุครัตนโกสินทร์

- ประวัติศาสตร์โลก เช่น สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2, การล่าอาณานิคม, การปฏิวัติอุตสาหกรรม

ประวัติศาสตร์ไทย และ ประวัติศาสตร์โลก โดยเนื้อหาจะเน้นไปที่เหตุการณ์สำคัญที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม การเมือง และเศรษฐกิจ เพื่อให้เข้าใจถึงบริบทที่ก่อให้เกิดการพัฒนาและความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน

ประวัติศาสตร์ไทย: เหตุการณ์สำคัญในยุครัตนโกสินทร์

ยุครัตนโกสินทร์เป็นยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งในด้านการเมืองและสังคม ตัวอย่างเหตุการณ์สำคัญ เช่น การสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ในปี พ.ศ. 2325 ซึ่งนำโดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 อีกทั้งยังมีการปฏิรูปการปกครองในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศสู่ความทันสมัย เช่น การเลิกทาส การสร้างทางรถไฟ และการพัฒนาระบบราชการ ซึ่งทำให้สังคมไทยก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเศรษฐกิจและการปรับตัวของไทยในช่วงที่มหาอำนาจตะวันตกเริ่มแผ่ขยายอิทธิพลเข้ามา

ประวัติศาสตร์โลก: สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2, การล่าอาณานิคม, การปฏิวัติอุตสาหกรรม

สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 เป็นเหตุการณ์ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อโลก การเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี ค.ศ. 1914-1918 มีสาเหตุจากความขัดแย้งทางเศรษฐกิจและการเมืองของชาติมหาอำนาจ สงครามครั้งนี้ส่งผลให้เกิดการล่มสลายของราชวงศ์ต่าง ๆ และการเปลี่ยนแปลงขอบเขตดินแดน ในขณะที่ สงครามโลกครั้งที่ 2 (ค.ศ. 1939-1945) เป็นการสู้รบระหว่างกลุ่มพันธมิตรและฝ่ายอักษะ ซึ่งส่งผลให้เกิดการก่อตั้งองค์การสหประชาชาติและการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในหลายประเทศทั่วโลก

การล่าอาณานิคม เป็นยุคที่ชาติตะวันตก เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส และสเปน แผ่ขยายอำนาจเข้ายึดครองดินแดนในเอเชีย แอฟริกา และอเมริกาใต้ เพื่อแสวงหาทรัพยากรและตลาดการค้า ในขณะที่ การปฏิวัติอุตสาหกรรม เริ่มขึ้นในศตวรรษที่ 18 ที่อังกฤษ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม โดยเน้นการใช้เครื่องจักรแทนแรงงานคน ทำให้เกิดความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการขยายตัวของเมืองอุตสาหกรรม

ตัวอย่างโจทย์และเฉลย

1. โจทย์: เหตุการณ์ใดในยุครัตนโกสินทร์ที่มีผลให้ประเทศไทยพัฒนาเข้าสู่ความทันสมัย?

  • ก. การสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์

  • ข. การเลิกทาสในสมัยรัชกาลที่ 5

  • ค. การปฏิวัติ 2475

  • ง. การเสด็จประพาสยุโรปของรัชกาลที่ 7

เฉลย: ข. การเลิกทาสในสมัยรัชกาลที่ 5 - การเลิกทาสเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ประเทศไทยพัฒนาเข้าสู่ความทันสมัย และสร้างสังคมที่เท่าเทียมมากขึ้น

2. โจทย์: สงครามโลกครั้งที่ 2 มีผลอย่างไรต่อการเปลี่ยนแปลงการเมืองโลก?

  • ก. การสถาปนาสันนิบาตชาติ

  • ข. การเกิดกลุ่มประเทศอักษะ

  • ค. การก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ

  • ง. การปฏิวัติอุตสาหกรรม

เฉลย: ค. การก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ - สงครามโลกครั้งที่ 2 ส่งผลให้เกิดการก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ เพื่อรักษาสันติภาพและความมั่นคงในระดับโลก

2. เศรษฐศาสตร์

- หลักเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น เช่น อุปสงค์และอุปทาน, ระบบเศรษฐกิจแบบตลาดเสรี

- แนวคิดการบริหารทรัพยากร เช่น การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ, ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง

เศรษฐศาสตร์เบื้องต้น และ แนวคิดการบริหารทรัพยากร ซึ่งเป็นพื้นฐานในการเข้าใจการทำงานของเศรษฐกิจและการจัดการทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว และประเทศชาติ โดยเนื้อหาจะขยายความเกี่ยวกับอุปสงค์และอุปทาน ระบบเศรษฐกิจแบบตลาดเสรี และแนวคิดการบริหารทรัพยากร เช่น การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง

หลักเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น: อุปสงค์และอุปทาน, ระบบเศรษฐกิจแบบตลาดเสรี

อุปสงค์และอุปทาน (Demand and Supply) เป็นแนวคิดหลักที่สำคัญในเศรษฐศาสตร์ อุปสงค์หมายถึงปริมาณสินค้าหรือบริการที่ผู้บริโภคต้องการซื้อในราคาที่กำหนด ขณะที่อุปทานหมายถึงปริมาณสินค้าหรือบริการที่ผู้ผลิตพร้อมจะขายในราคาที่กำหนด ความสัมพันธ์ระหว่างอุปสงค์และอุปทานจะกำหนดราคาและปริมาณของสินค้าในตลาด เมื่ออุปสงค์มากกว่าอุปทาน ราคาสินค้าจะสูงขึ้น ในทางกลับกันเมื่ออุปทานมากกว่าอุปสงค์ ราคาจะลดลง

ระบบเศรษฐกิจแบบตลาดเสรี เป็นระบบเศรษฐกิจที่การผลิตและการกระจายทรัพยากรถูกกำหนดโดยตลาดเอง โดยมีกลไกของราคาเป็นตัวบอกถึงการจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ผลิตและผู้บริโภคมีเสรีภาพในการตัดสินใจเกี่ยวกับการผลิตและการบริโภค โดยไม่ถูกแทรกแซงจากรัฐบาลมากนัก ระบบเศรษฐกิจแบบนี้จะส่งเสริมการแข่งขัน ซึ่งช่วยกระตุ้นการพัฒนานวัตกรรมและการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

แนวคิดการบริหารทรัพยากร: การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ, ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง

การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ เป็นการบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดและยั่งยืน เช่น การจัดการน้ำ ดิน ป่าไม้ และแร่ธาตุ เพื่อไม่ให้เกิดการใช้ที่เกินกำลังและนำไปสู่การหมดสิ้นของทรัพยากร โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศกำลังเป็นปัญหาที่โลกเผชิญ การจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืนจะช่วยให้มนุษย์สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน

ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวคิดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงพัฒนาขึ้น เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตและการพัฒนาประเทศ เน้นการใช้ทรัพยากรที่มีอย่างมีประสิทธิภาพ ความพอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันในตัวเอง เพื่อสร้างความสมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม การนำทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวันจะช่วยให้บุคคลและชุมชนมีความเข้มแข็งและสามารถรับมือกับความไม่แน่นอนได้ดี

ตัวอย่างโจทย์และเฉลย

1. โจทย์: เมื่อราคาเพิ่มขึ้น ผู้บริโภคจะมีแนวโน้มอย่างไรตามหลักอุปสงค์?

  • ก. ต้องการซื้อมากขึ้น

  • ข. ต้องการซื้อน้อยลง

  • ค. ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

  • ง. ผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปซื้อสินค้าทดแทน

เฉลย: ข. ต้องการซื้อน้อยลง - เมื่อราคาสินค้าเพิ่มขึ้น อุปสงค์จะลดลง เนื่องจากผู้บริโภคต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย

2. โจทย์: หลักเศรษฐกิจพอเพียงของรัชกาลที่ 9 มีหลักการสำคัญอย่างไร?

  • ก. การลงทุนสูงเพื่อสร้างผลกำไร

  • ข. การพึ่งพาการนำเข้าทรัพยากร

  • ค. ความพอประมาณและมีเหตุผล

  • ง. การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลือง

เฉลย: ค. ความพอประมาณและมีเหตุผล - หลักเศรษฐกิจพอเพียงเน้นความพอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกัน เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและมั่นคง

 

3. ภูมิศาสตร์

- การเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ที่ส่งผลต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม

- การใช้แผนที่และการวิเคราะห์ข้อมูลทางภูมิศาสตร์

ภูมิศาสตร์ โดยมีหัวข้อสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ที่ส่งผลต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม รวมถึงการใช้แผนที่และการวิเคราะห์ข้อมูลทางภูมิศาสตร์ ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนเข้าใจลักษณะภูมิประเทศที่เปลี่ยนแปลงและผลกระทบที่เกิดขึ้น รวมถึงวิธีการใช้แผนที่เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อมูลที่สำคัญเพื่อการจัดการสิ่งแวดล้อมและการวางแผนพัฒนา

การเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ที่ส่งผลต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม

การเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ หมายถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับลักษณะทางกายภาพของโลก ซึ่งส่งผลต่อทั้งมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด เช่น การเปลี่ยนแปลงของ สภาพภูมิอากาศ ที่ส่งผลให้เกิดความแห้งแล้งหรือฝนตกหนักมากขึ้น รวมถึงการละลายของน้ำแข็งขั้วโลกที่ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชายฝั่ง

การเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ยังส่งผลกระทบต่อการเกษตรกรรม ตัวอย่างเช่น ดินถล่ม และ การกร่อนของดิน ซึ่งเกิดจากการฝนตกหนักและการขุดเจาะพื้นที่เกษตร นอกจากนี้ การตัดไม้ทำลายป่า ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์และทำลายถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยตรง ทั้งในด้านทรัพยากรธรรมชาติ ความหลากหลายทางชีวภาพ และสุขภาพของมนุษย์

การใช้แผนที่และการวิเคราะห์ข้อมูลทางภูมิศาสตร์

แผนที่ เป็นเครื่องมือสำคัญในการศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับโลกและสิ่งแวดล้อมรอบตัว การใช้แผนที่ทำให้สามารถระบุสถานที่ ทรัพยากร และข้อมูลที่จำเป็นในการวางแผนการพัฒนาได้อย่างชัดเจน แผนที่มีหลายประเภท เช่น แผนที่ทางกายภาพ ที่แสดงลักษณะภูมิประเทศ เช่น ภูเขา แม่น้ำ และทะเล และ แผนที่ทางเศรษฐกิจ ที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับทรัพยากร การเกษตร และกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ

การวิเคราะห์ข้อมูลทางภูมิศาสตร์ เป็นกระบวนการใช้ข้อมูลจากแผนที่และเทคโนโลยี เช่น ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) เพื่อทำการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา เช่น การวิเคราะห์พื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อภัยพิบัติ การวิเคราะห์ทรัพยากรที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาชุมชน การใช้ข้อมูลเหล่านี้ช่วยในการตัดสินใจและการวางแผนที่เหมาะสมเพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์

ตัวอย่างโจทย์และเฉลย

1. โจทย์: การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นเป็นผลมาจากสาเหตุใด?

  • ก. การตัดไม้ทำลายป่า

  • ข. การละลายของน้ำแข็งขั้วโลก

  • ค. การขุดเจาะน้ำมัน

  • ง. การขยายตัวของพื้นที่เมือง

เฉลย: ข. การละลายของน้ำแข็งขั้วโลก - การละลายของน้ำแข็งทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชายฝั่งและชุมชนที่อยู่ใกล้ทะเล

2. โจทย์: แผนที่ประเภทใดที่ใช้แสดงข้อมูลการใช้ทรัพยากรและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ?

  • ก. แผนที่ทางกายภาพ

  • ข. แผนที่ทางเศรษฐกิจ

  • ค. แผนที่ภูมิอากาศ

  • ง. แผนที่เชิงการท่องเที่ยว

เฉลย: ข. แผนที่ทางเศรษฐกิจ - แผนที่ประเภทนี้แสดงข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากร กิจกรรมทางเศรษฐกิจ เช่น พื้นที่เกษตรกรรมและแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ

 

4. หน้าที่พลเมือง

- สิทธิและหน้าที่ของพลเมืองไทย เช่น สิทธิทางการเมือง การเลือกตั้ง

- กระบวนการประชาธิปไตยในประเทศไทย

หน้าที่พลเมือง โดยเน้นเรื่อง สิทธิและหน้าที่ของพลเมืองไทย เช่น สิทธิทางการเมืองและการเลือกตั้ง รวมถึง กระบวนการประชาธิปไตยในประเทศไทย ซึ่งเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับหลักการพื้นฐานและบทบาทที่พลเมืองไทยพึงกระทำในการรักษาและพัฒนาประเทศ

สิทธิและหน้าที่ของพลเมืองไทย

สิทธิของพลเมืองไทย คือสิ่งที่บุคคลสามารถกระทำหรือเรียกร้องได้ตามที่กฎหมายกำหนด เช่น สิทธิทางการเมือง ซึ่งเป็นสิทธิที่สำคัญของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย รวมถึง สิทธิในการเลือกตั้ง และการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง นอกจากนี้ยังมีสิทธิอื่นๆ เช่น สิทธิในการได้รับการคุ้มครองจากรัฐ สิทธิในการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสิทธิในการทำงาน

หน้าที่ของพลเมืองไทย คือการปฏิบัติที่พลเมืองทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมายและร่วมกันพัฒนาสังคมและประเทศ เช่น การเสียภาษี ซึ่งเป็นการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ การปฏิบัติตามกฎหมาย การเข้ารับการศึกษาในช่วงเวลาที่กำหนด และการช่วยเหลือทางสังคมในรูปแบบต่างๆ หน้าที่เหล่านี้ช่วยให้สังคมสามารถดำเนินไปอย่างราบรื่นและสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ทุกคน

กระบวนการประชาธิปไตยในประเทศไทย

กระบวนการประชาธิปไตย เป็นระบบที่ให้ประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศ โดยในประเทศไทย ระบบประชาธิปไตยนั้นถูกกำหนดให้มีสถาบัน รัฐสภา ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจในการออกกฎหมาย และประกอบด้วยสมาชิกที่ประชาชนเลือกตั้งมาเพื่อเป็นตัวแทนในการทำหน้าที่แทนประชาชน

การเลือกตั้งในประเทศไทยมีทั้ง การเลือกตั้งระดับชาติ เช่น การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และ การเลือกตั้งระดับท้องถิ่น เช่น การเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด การเลือกตั้งเป็นกลไกสำคัญในการแสดงออกถึงความต้องการของประชาชน และเป็นเครื่องมือในการให้ความชอบธรรมแก่ผู้ที่มีอำนาจในการปกครอง

นอกจากนี้ยังมีกระบวนการอื่นๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย เช่น การแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อสาธารณะ การร่วมลงนามหรือจัดตั้งคำร้อง และการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม กระบวนการเหล่านี้ช่วยสร้างความรับผิดชอบและความร่วมมือในการพัฒนาประเทศ

ตัวอย่างโจทย์และเฉลย

1. โจทย์: สิทธิใดที่ถือว่าเป็นสิทธิทางการเมืองของพลเมืองไทย?

  • ก. สิทธิในการเลือกตั้ง

  • ข. สิทธิในการรับการรักษาพยาบาล

  • ค. สิทธิในการทำงาน

  • ง. สิทธิในการเสียภาษี

เฉลย: ก. สิทธิในการเลือกตั้ง - สิทธิทางการเมืองเป็นสิทธิที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมในการปกครอง เช่น การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

2. โจทย์: กระบวนการประชาธิปไตยในประเทศไทยมีส่วนสำคัญอย่างไร?

  • ก. เป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อการปกครองประเทศ

  • ข. เป็นการบังคับให้พลเมืองต้องเสียภาษี

  • ค. เป็นการกำหนดให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎหมาย

  • ง. เป็นการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

เฉลย: ก. เป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อการปกครองประเทศ - กระบวนการประชาธิปไตยเป็นการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครองโดยการเลือกตัวแทนเพื่อทำหน้าที่ในการออกกฎหมายและกำหนดนโยบาย

 

5. ศาสนาและศีลธรรม

- ศึกษาคำสอนทางศาสนาและการนำหลักธรรมมาใช้ในการดำเนินชีวิต

- การเรียนรู้ศาสนาต่าง ๆ และความเชื่อในสังคมไทย

ศาสนาและศีลธรรม ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการสร้างชีวิตที่ดี โดยเนื้อหาจะครอบคลุม คำสอนทางศาสนา และวิธีการนำหลักธรรมมาใช้ในการดำเนินชีวิต รวมถึงการเรียนรู้เกี่ยวกับ ศาสนาต่างๆ และความเชื่อในสังคมไทย เพื่อเข้าใจความหลากหลายทางศาสนาและความเชื่อที่มีอยู่ในสังคม

ศึกษาคำสอนทางศาสนาและการนำหลักธรรมมาใช้ในการดำเนินชีวิต

คำสอนทางศาสนา มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมที่ดีให้กับบุคคล โดยศาสนาพุทธจะสอนหลัก อริยสัจ 4 ซึ่งประกอบไปด้วย ทุกข์ (ความทุกข์ในชีวิต), สมุทัย (เหตุแห่งทุกข์), นิโรธ (การดับทุกข์), และมรรค (แนวทางการดับทุกข์) เพื่อให้บุคคลเข้าใจและนำไปปฏิบัติในการดำเนินชีวิต

นอกจากนี้ยังมี ศีล 5 ซึ่งเป็นกฎข้อบังคับสำหรับบุคคลทั่วไป เพื่อให้การใช้ชีวิตเป็นไปอย่างเหมาะสมและมีความสุข ศีล 5 ประกอบด้วย การไม่ฆ่าสัตว์ การไม่ลักทรัพย์ การไม่ประพฤติผิดในกาม การไม่พูดปด และการไม่ดื่มสุราหรือเสพสารเสพติด

การนำหลักธรรมเหล่านี้มาใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การปฏิบัติตามศีล 5 จะช่วยเสริมสร้างความสงบสุขในสังคมและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน นอกจากนี้ หลัก เมตตา และ กรุณา ยังช่วยให้เรามีความเมตตาต่อผู้อื่น มีความเห็นอกเห็นใจ และร่วมกันสร้างสังคมที่ดีและยั่งยืน

การเรียนรู้ศาสนาต่าง ๆ และความเชื่อในสังคมไทย

การเรียนรู้ศาสนาต่าง ๆ มีความสำคัญในการสร้างความเข้าใจและการเคารพในความหลากหลายทางศาสนา ศาสนาที่สำคัญในประเทศไทยได้แก่ ศาสนาพุทธ ซึ่งเป็นศาสนาหลักของประชากรส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังมี ศาสนาอิสลาม และ ศาสนาคริสต์ ที่เป็นศาสนาสำคัญในบางภูมิภาค ความเข้าใจในหลักคำสอนของแต่ละศาสนาจะช่วยให้เราสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมที่มีความหลากหลายได้อย่างสันติ

ในสังคมไทยยังมีความเชื่อทางวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมที่มีความสัมพันธ์กับศาสนา เช่น การทำบุญเพื่อเสริมสิริมงคล การสวดมนต์เพื่อเสริมสร้างความสงบในจิตใจ และการปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมต่างๆ ที่เชื่อว่าช่วยให้ชีวิตเป็นไปอย่างราบรื่นและมีความสุข ความเชื่อเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น

ตัวอย่างโจทย์และเฉลย

1. โจทย์: หลักธรรมในศาสนาพุทธที่สอนเกี่ยวกับสาเหตุและวิธีการดับทุกข์คือหลักใด?

  • ก. ศีล 5

  • ข. อริยสัจ 4

  • ค. เมตตา

  • ง. สมาธิ

เฉลย: ข. อริยสัจ 4 - อริยสัจ 4 เป็นหลักธรรมที่สอนเกี่ยวกับทุกข์ สาเหตุของทุกข์ การดับทุกข์ และวิธีการดับทุกข์

2. โจทย์: การไม่ฆ่าสัตว์และการไม่พูดปดเป็นข้อใดในศีล 5?

  • ก. ศีลข้อที่ 1 และข้อที่ 3

  • ข. ศีลข้อที่ 2 และข้อที่ 4

  • ค. ศีลข้อที่ 1 และข้อที่ 4

  • ง. ศีลข้อที่ 3 และข้อที่ 5

เฉลย: ค. ศีลข้อที่ 1 และข้อที่ 4 - ศีลข้อที่ 1 คือการไม่ฆ่าสัตว์ และศีลข้อที่ 4 คือการไม่พูดปด

 

เทคนิคการเรียนวิชาสังคมศึกษา ม. 5 เทอม 1 ให้เข้าใจและสนุก

วิชาสังคมศึกษา ม. 5 เทอม 1 เป็นวิชาที่มีความหลากหลายในเนื้อหา ทั้งด้านประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ศาสนา และหน้าที่พลเมือง เพื่อให้การเรียนวิชานี้เป็นเรื่องง่ายและสนุก เรามีเทคนิคการเรียนรู้ที่จะช่วยให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาได้อย่างลึกซึ้งและนำไปใช้ได้จริง

1. สรุปเนื้อหาสำคัญ

การเรียนวิชาสังคมศึกษาในแต่ละบทมักมีเนื้อหาจำนวนมาก เทคนิคที่ช่วยให้จำได้ง่ายขึ้นคือการทำ สรุปย่อ หรือ Mind Map สรุปเนื้อหาสำคัญ เช่น การสรุปเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ หรือหลักเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น การเขียนสรุปจะช่วยให้นักเรียนเข้าใจและเชื่อมโยงเนื้อหาที่เรียนได้ดียิ่งขึ้น

2. อ่านและฝึกทำโจทย์

การอ่านทบทวนและฝึกทำโจทย์ท้ายบทเรียนหรือแบบทดสอบต่าง ๆ จะช่วยให้นักเรียนรู้วิธีการคิดวิเคราะห์และเตรียมตัวสอบได้ดีขึ้น การทำโจทย์จะทำให้นักเรียนคุ้นเคยกับรูปแบบคำถามและสามารถจับจุดสำคัญได้ว่าต้องให้ความสำคัญกับเนื้อหาส่วนใดบ้าง

3. ใช้สื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย

การเรียนสังคมศึกษาไม่จำเป็นต้องเรียนผ่านหนังสือเท่านั้น สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ผ่าน วิดีโอสารคดี การดูวิดีโอหรือสารคดีเกี่ยวกับประวัติศาสตร์หรือภูมิศาสตร์จะช่วยให้เข้าใจได้ง่ายและเห็นภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถอ่านบทความหรือใช้สื่ออินเทอร์เน็ตในการค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมได้

4. จับกลุ่มเรียนรู้

การเรียนเป็นกลุ่มกับเพื่อน ๆ ช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเติมเต็มความเข้าใจที่ขาดหาย นักเรียนสามารถอธิบายเนื้อหาให้เพื่อนฟังหรือฟังเพื่อนอธิบาย จะทำให้มีความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และช่วยให้การทบทวนเนื้อหาเป็นเรื่องสนุก

5. จำแนกเนื้อหาเป็นหมวดหมู่

วิชาสังคมศึกษามีเนื้อหาที่หลากหลาย เช่น ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ ศาสนา และ หน้าที่พลเมือง ควรแบ่งเวลาในการทบทวนแต่ละหมวดหมู่และให้ความสำคัญกับแต่ละหมวดอย่างเท่าเทียมกัน การจำแนกเนื้อหาจะช่วยให้นักเรียนสามารถทบทวนได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่สับสน

6. ตั้งคำถามให้กับตัวเอง

การตั้งคำถามให้กับตัวเองเกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียน เช่น "ทำไมสงครามโลกครั้งที่ 1 ถึงเกิดขึ้น?" หรือ "ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงมีความสำคัญอย่างไร?" จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการคิดวิเคราะห์และเข้าใจเนื้อหาในระดับที่ลึกซึ้งมากขึ้น

7. เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน

การเรียนสังคมศึกษาไม่ใช่เพียงเพื่อจำเนื้อหา แต่เพื่อเข้าใจและนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต เช่น การเรียนรู้เกี่ยวกับหน้าที่พลเมืองหรือสิทธิและหน้าที่ของเราในฐานะประชาชน จะช่วยให้เราเป็นคนที่มีความรับผิดชอบและมีความรู้เท่าทันสังคม

 

          ด้วยเทคนิคเหล่านี้ นักเรียนจะสามารถเรียนวิชาสังคมศึกษา ม. 5 เทอม 1 ได้อย่างสนุกและเข้าใจเนื้อหาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Knowledge
  • 0 Followers
  • Follow