คะแนน SAT ที่ดีขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น มหาวิทยาลัยที่ผู้สอบต้องการสมัคร และหลักสูตรที่ต้องการเข้าเรียน เนื่องจากแต่ละมหาวิทยาลัยมีเกณฑ์การรับสมัครและมาตรฐานคะแนน SAT ที่แตกต่างกันออกไป ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่าคะแนน SAT ที่ถือว่าดีคือเท่าไร 

คะแนน SAT โดยรวม

คะแนน SAT จะมีค่ารวมระหว่าง 400 ถึง 1600 คะแนน โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักคือ Math และ Evidence-Based Reading and Writing (EBRW) แต่ละส่วนจะมีคะแนนตั้งแต่ 200 ถึง 800 ซึ่งการมีคะแนนที่สมดุลในทั้งสองส่วนจะเพิ่มโอกาสในการรับเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยมากขึ้น
 

การพิจารณาตาม Percentile สองวิชารวมกัน

เปอร์เซ็นไทล์ (Percentile) ของคะแนน SAT เป็นตัวบ่งชี้ว่าเราอยู่ในระดับใดเมื่อเทียบกับผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ หากผู้เข้าสอบทำคะแนนได้ในเปอร์เซ็นไทล์ที่สูง นั่นหมายถึงได้คะแนนดีกว่าผู้เข้าสอบส่วนใหญ่ ตัวอย่างเช่น:

- เปอร์เซ็นไทล์ 90-99: คะแนนที่อยู่ในช่วงนี้บ่งบอกว่าผู้เข้าสอบทำคะแนนได้ดีกว่า 90-99% ของผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงและแข่งขันสูงมักจะพิจารณาคะแนนในช่วงนี้
ก็คือคะแนนรวมอยู่ที่ประมาณ 1350-1600
 

- เปอร์เซ็นไทล์ 70-89: คะแนนในช่วงนี้ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีและมีโอกาสที่จะผ่านเกณฑ์การรับสมัครของมหาวิทยาลัยระดับกลางถึงสูง

ก็คือคะแนนรวมอยู่ที่ประมาณ 1170-1340
 

- เปอร์เซ็นไทล์ 50-69: คะแนนระดับนี้มักจะเพียงพอสำหรับมหาวิทยาลัยที่ไม่ต้องการคะแนน SAT สูงมาก
ก็คือคะแนนรวมอยู่ที่ประมาณ 1050-1160

คะแนนที่ถือว่าดีไปจนถึงต่ำเกินไปจะออกมาเป็นลักษณะดังนี้

- มากกว่า 1200 ถือว่าคะแนนที่ดีมาก

- 1060 คือ คะแนนที่อยู่ในค่าเฉลี่ยทั่วไป

- น้อยกว่า 910 ถือว่าคะแนนต่ำกว่าเกณฑ์

คะแนน SAT ที่ดีสำหรับหลักสูตรเฉพาะ

บางหลักสูตรอาจมีความต้องการคะแนน SAT สูงกว่าเกณฑ์ทั่วไป โดยเฉพาะหลักสูตรทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ แพทยศาสตร์ หรือบริหารธุรกิจ ซึ่งมักจะพิจารณาคะแนนในส่วนของ Math สูงกว่าปกติ หากผู้สมัครมีคะแนน Math อยู่ในช่วง 750 ถึง 800 จะมีโอกาสสูงที่จะได้รับการตอบรับเข้าหลักสูตรเหล่านี้

 อย่างไรก็ตาม ผู้เข้าสอบควรตรวจสอบข้อมูลของแต่ละมหาวิทยาลัยที่สนใจสมัคร เพื่อดูว่าคะแนน SAT ที่ต้องการเป็นเท่าไร และควรเตรียมตัวสอบให้เหมาะสมตามเป้าหมายของตนเอง

ไม่พลาดทุกคะแนนสำคัญ เตรียมพร้อมเข้าหลักสูตรอินเตอร์ ครบทุกประเด็น การสอบ SAT เนื้อหา เทคนิค โจทย์ข้อสอบ ดูรายละเอียดเลย >>Click