Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

การปฏิบัติตามภาษีและการรายงานทางการเงินในธุรกิจขนาดเล็ก: แนวทางและข้อควรระวัง

Posted By Kung_nadthanan | 07 ก.ย. 67
85 Views

  Favorite

การปฏิบัติตามภาษีและการรายงานทางการเงิน  เป็นสิ่งที่ธุรกิจขนาดเล็กไม่ควรมองข้าม เนื่องจากเป็นการรับรองว่าธุรกิจของคุณดำเนินงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายและลดความเสี่ยงที่จะถูกตรวจสอบจากหน่วยงานภาษี บทความนี้จะอธิบายแนวทางในการจัดการภาษีและการรายงานทางการเงิน พร้อมกับข้อควรระวังที่ธุรกิจขนาดเล็กควรทราบเพื่อการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ

แนวทางในการปฏิบัติตามภาษี

1. การวางแผนภาษี  การวางแผนภาษีอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถลดภาระภาษีได้ การคำนวณรายได้และค่าใช้จ่ายให้ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ ควรตรวจสอบว่าธุรกิจของคุณได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีทั้งหมดที่มีสิทธิได้รับ เช่น การหักลดหย่อนภาษีจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ การลงทุน หรือการบริจาค

2. การจัดทำบัญชีและบันทึกการเงินที่ถูกต้อง  การบันทึกบัญชีที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันเป็นสิ่งที่ช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กมีข้อมูลที่ชัดเจนในการยื่นภาษี ควรจัดเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทั้งหมด เช่น ใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน และรายงานทางการเงิน เพื่อใช้ในการยื่นแบบฟอร์มภาษีและการตรวจสอบในอนาคต

3. การยื่นภาษีตามกำหนดเวลา  ธุรกิจขนาดเล็กควรให้ความสำคัญกับการยื่นแบบฟอร์มภาษีตามกำหนดเวลาเพื่อลดความเสี่ยงในการถูกปรับหรือต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มเติม ควรเตรียมเอกสารและคำนวณภาษีที่ต้องชำระให้พร้อมก่อนวันยื่นภาษี

การรายงานทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ

1. การจัดทำรายงานการเงินประจำปี  การจัดทำรายงานการเงินประจำปีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก เพราะจะช่วยให้คุณมีภาพรวมที่ชัดเจนของสถานะทางการเงิน รายงานการเงินควรมีข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ ค่าใช้จ่าย ทรัพย์สิน และหนี้สินของธุรกิจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการวางแผนธุรกิจและการยื่นภาษี

2. การปรับปรุงและตรวจสอบรายงานการเงิน  ควรตรวจสอบความถูกต้องของรายงานการเงินอย่างสม่ำเสมอ หากพบข้อผิดพลาดหรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้องควรทำการปรับปรุงโดยเร็ว เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การตรวจสอบภาษีจากหน่วยงานภาษี

3. การใช้ซอฟต์แวร์บัญชีที่เหมาะสม  การใช้ซอฟต์แวร์บัญชีที่เหมาะสมสามารถช่วยลดข้อผิดพลาดในการจัดทำบัญชีและการรายงานการเงิน ซอฟต์แวร์บางประเภทสามารถช่วยให้คุณคำนวณภาษีและจัดทำรายงานการเงินได้อัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยลดภาระงานและเพิ่มความแม่นยำในการดำเนินงาน

ข้อควรระวังในการปฏิบัติตามภาษีและการรายงานทางการเงิน

1. การละเลยการบันทึกบัญชี  การละเลยการบันทึกบัญชีอย่างถูกต้องอาจทำให้ธุรกิจขนาดเล็กพบปัญหาในการจัดทำรายงานการเงินและการยื่นภาษี ควรตรวจสอบว่าข้อมูลทุกอย่างถูกบันทึกอย่างครบถ้วนและถูกต้อง

2. การไม่ยื่นภาษีหรือการยื่นภาษีล่าช้า  การไม่ยื่นภาษีตามกำหนดเวลาหรือการยื่นภาษีล่าช้าอาจทำให้ธุรกิจถูกปรับหรือเสียค่าดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อการถูกตรวจสอบจากหน่วยงานภาษี

3. การไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานบัญชี  การไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานบัญชีอาจทำให้รายงานการเงินของธุรกิจไม่สอดคล้องกับกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลให้ธุรกิจถูกตรวจสอบและต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการปรับปรุงบัญชี

 

การปฏิบัติตามภาษีและการรายงานทางการเงินในธุรกิจขนาดเล็ก  อาจดูเป็นเรื่องที่ซับซ้อน แต่ด้วยการวางแผนที่ดีและการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง ธุรกิจของคุณจะสามารถลดความเสี่ยงในการถูกตรวจสอบและดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ

ภาษีธุรกิจขนาดเล็ก

ภาษีธุรกิจขนาดเล็ก เป็นเรื่องที่มีความสำคัญสำหรับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กในทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจค้าปลีก บริการ หรืออุตสาหกรรม การเข้าใจและปฏิบัติตามกฎหมายภาษีที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างราบรื่น และลดความเสี่ยงจากการถูกตรวจสอบหรือการเสียค่าปรับจากหน่วยงานภาษี

ประเภทของภาษีที่ธุรกิจขนาดเล็กต้องชำระ

1. ภาษีเงินได้นิติบุคคล

- ธุรกิจขนาดเล็กที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลจะต้องยื่นแบบภาษีเงินได้สำหรับนิติบุคคล (ภ.ง.ด.50) ประจำปี โดยภาษีเงินได้นิติบุคคลคำนวณจากกำไรสุทธิที่ธุรกิจได้รับหลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงาน

- นอกจากนี้ ธุรกิจอาจต้องยื่นแบบภาษีเงินได้กลางปี (ภ.ง.ด.51) เพื่อชำระภาษีตามประมาณการกำไรกลางปี

2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

- ธุรกิจที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปีจะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และต้องยื่นแบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) รายเดือน ภาษีมูลค่าเพิ่มจะถูกคำนวณจากราคาสินค้าหรือบริการที่ขายและถูกเก็บจากลูกค้าในนามของรัฐบาล

 

3. ภาษีธุรกิจเฉพาะ

- หากธุรกิจของคุณอยู่ในประเภทที่กำหนด เช่น ธุรกิจธนาคาร ธุรกิจเช่าซื้อหรือขายเงินผ่อน หรือธุรกิจการขายอสังหาริมทรัพย์ คุณอาจต้องยื่นภาษีธุรกิจเฉพาะตามอัตราที่กำหนด

4. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย

- ธุรกิจขนาดเล็กต้องทำการหักภาษี ณ ที่จ่าย เมื่อมีการจ่ายเงินเดือน ค่าจ้าง ค่าบริการ หรือค่าจ้างเหมา แล้วนำส่งภาษีที่หักไว้ให้กับกรมสรรพากรตามแบบ ภ.ง.ด.1, ภ.ง.ด.3, หรือ ภ.ง.ด.53 ขึ้นอยู่กับประเภทของรายได้

5. ภาษีป้าย

- สำหรับธุรกิจที่มีการติดป้ายโฆษณาหรือแสดงชื่อธุรกิจ เจ้าของธุรกิจต้องยื่นแบบเสียภาษีป้ายตามขนาดและเนื้อหาของป้าย

ข้อควรระวังในการจัดการภาษีสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก

1. การบันทึกบัญชีที่ถูกต้อง

- ธุรกิจขนาดเล็กต้องมีการบันทึกบัญชีที่ถูกต้องและเป็นระเบียบ เพื่อให้สามารถคำนวณภาษีได้อย่างถูกต้องและพร้อมสำหรับการตรวจสอบจากหน่วยงานภาษี

2. การยื่นแบบและชำระภาษีตรงเวลา

- การยื่นแบบภาษีและการชำระภาษีตามกำหนดเวลาเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากยื่นล่าช้าหรือไม่ยื่นเลย อาจทำให้ธุรกิจต้องเสียค่าปรับและดอกเบี้ยเพิ่มเติม

3. การวางแผนภาษี

- ควรทำการวางแผนภาษีอย่างรอบคอบ เช่น การหักลดหย่อนที่เหมาะสมและการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่มีอยู่ เพื่อลดภาระภาษีอย่างถูกกฎหมาย

4. การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี

- ในบางครั้ง การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีอาจช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถจัดการภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดความเสี่ยงจากการตีความกฎหมายที่ผิดพลาด

 

 

การเข้าใจและจัดการเรื่องภาษีอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กดำเนินการได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

การรายงานทางการเงินธุรกิจขนาดเล็ก

การรายงานทางการเงินสำหรับธุรกิจขนาดเล็กมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เจ้าของธุรกิจและผู้บริหารสามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยให้ธุรกิจปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องได้อย่างถูกต้อง การรายงานทางการเงินที่ดีควรมีความถูกต้อง แม่นยำ และสะท้อนถึงสถานะทางการเงินของธุรกิจได้อย่างชัดเจน

ส่วนประกอบสำคัญของการรายงานทางการเงินสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก

1. งบกำไรขาดทุน (Income Statement)

- เป็นการแสดงรายได้ ค่าใช้จ่าย และกำไรหรือขาดทุนของธุรกิจในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยจะแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจ

2. งบแสดงฐานะการเงิน (Balance Sheet)

- เป็นการแสดงสินทรัพย์ หนี้สิน และทุนของธุรกิจ ณ วันที่ระบุในงบการเงิน งบแสดงฐานะการเงินช่วยให้เห็นภาพรวมของความมั่นคงทางการเงินของธุรกิจ

3. งบกระแสเงินสด (Cash Flow Statement)

- เป็นการแสดงการเคลื่อนไหวของกระแสเงินสดในธุรกิจ แบ่งออกเป็นกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน การลงทุน และการจัดหาเงินทุน ช่วยให้เห็นภาพรวมของการบริหารจัดการเงินสดในธุรกิจ

4. รายงานส่วนของเจ้าของ (Owner's Equity Statement)

- เป็นการแสดงการเปลี่ยนแปลงของส่วนของเจ้าของธุรกิจ ซึ่งอาจเกิดจากการลงทุนเพิ่ม การถอนเงิน หรือการจัดสรรกำไรสุทธิ

5. รายงานการวิเคราะห์ทางการเงิน (Financial Analysis Report)

- นอกจากงบการเงินหลักแล้ว การทำรายงานการวิเคราะห์ทางการเงินยังช่วยให้เจ้าของธุรกิจเข้าใจถึงสถานการณ์ทางการเงินของธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น เช่น อัตราส่วนทางการเงินต่าง ๆ ที่แสดงถึงความสามารถในการทำกำไร สภาพคล่อง และประสิทธิภาพการดำเนินงาน

ข้อกำหนดและมาตรฐานที่ธุรกิจขนาดเล็กต้องปฏิบัติตาม

1. การปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชี

- ธุรกิจขนาดเล็กต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีที่กำหนดโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การรายงานทางการเงินมีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับ

2. การจัดทำงบการเงินประจำปี

- ธุรกิจขนาดเล็กจำเป็นต้องจัดทำงบการเงินประจำปีและยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและหน่วยงานภาษีตามที่กฎหมายกำหนด

3. การตรวจสอบและยืนยันงบการเงิน

- แม้ว่าในบางกรณีธุรกิจขนาดเล็กอาจไม่จำเป็นต้องมีการตรวจสอบงบการเงินโดยผู้สอบบัญชี แต่การทำการตรวจสอบภายในหรือการใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีเพื่อยืนยันความถูกต้องของงบการเงินก็ยังเป็นเรื่องที่ควรพิจารณา

4. การรายงานภาษีที่เกี่ยวข้อง

- ธุรกิจขนาดเล็กต้องรายงานรายได้และค่าใช้จ่ายต่อหน่วยงานภาษีและชำระภาษีตามที่กฎหมายกำหนด การรายงานทางการเงินที่ถูกต้องจะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกตรวจสอบภาษีและค่าปรับที่อาจเกิดขึ้น

 

วิธีการรายงานทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ

การรายงานทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ  เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถสื่อสารสถานะทางการเงินของตนเองได้อย่างชัดเจนและเชื่อถือได้ นี่คือวิธีการที่สำคัญในการทำรายงานทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ:

1. การจัดทำงบการเงินที่ถูกต้องและครอบคลุม

งบการเงินที่ดีต้องประกอบด้วยงบกำไรขาดทุน งบแสดงฐานะการเงิน (งบดุล) งบกระแสเงินสด และงบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้น ควรจัดทำให้ครอบคลุมทุกด้านและถูกต้องตามมาตรฐานการบัญชี

2. การบันทึกข้อมูลทางการเงินอย่างละเอียด

การบันทึกข้อมูลที่ละเอียดและถูกต้องในทุกๆ รายการเป็นพื้นฐานสำคัญของการรายงานทางการเงิน การใช้ซอฟต์แวร์บัญชีที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยลดความผิดพลาดและเพิ่มความรวดเร็วในการบันทึกข้อมูล

3. การใช้มาตรฐานการบัญชีที่สอดคล้องกัน

การใช้มาตรฐานการบัญชีที่ถูกต้องและสอดคล้องกับกฎหมายเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้รายงานทางการเงินมีความน่าเชื่อถือและสามารถเปรียบเทียบได้ ควรปฏิบัติตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ (IFRS) หรือมาตรฐานท้องถิ่นที่ใช้ในแต่ละประเทศ

4. การตรวจสอบข้อมูลทางการเงิน

ควรมีการตรวจสอบข้อมูลทางการเงินอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลถูกต้องและไม่มีข้อผิดพลาด การใช้ผู้ตรวจสอบบัญชีภายนอกเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของรายงานทางการเงิน

5. การจัดทำรายงานการวิเคราะห์ทางการเงิน

การทำรายงานวิเคราะห์ทางการเงิน เช่น การวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน (Financial Ratios) จะช่วยให้ผู้ใช้งานรายงานเข้าใจถึงสถานะทางการเงินและผลการดำเนินงานของธุรกิจได้ดีขึ้น

6. การนำเสนอข้อมูลที่โปร่งใสและเข้าใจง่าย

รายงานทางการเงินควรนำเสนอข้อมูลอย่างโปร่งใสและเป็นระบบ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ภาษาที่ซับซ้อนหรือข้อมูลที่ไม่จำเป็น เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าใจได้ง่าย

7. การวางแผนรายงานทางการเงินล่วงหน้า

การวางแผนการจัดทำรายงานทางการเงินล่วงหน้าช่วยให้การจัดทำรายงานเป็นไปตามกำหนดเวลา ควรมีการกำหนดตารางเวลาและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

8. การรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูล

ควรรักษาความลับของข้อมูลทางการเงินและปฏิบัติตามนโยบายความปลอดภัยในการจัดการข้อมูล เพื่อลดความเสี่ยงจากการรั่วไหลของข้อมูลที่อาจเกิดขึ้น

9. การอัปเดตข้อมูลทางการเงินอย่างต่อเนื่อง

ควรมีการอัปเดตข้อมูลทางการเงินอย่างต่อเนื่องและจัดทำรายงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ข้อมูลเป็นปัจจุบันและสะท้อนสถานการณ์ทางการเงินของธุรกิจอย่างถูกต้อง

10. การใช้เทคโนโลยีในการจัดทำรายงาน

การใช้เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์บัญชีที่ทันสมัยสามารถช่วยลดความผิดพลาด เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดทำรายงาน และทำให้การจัดทำรายงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว

 

การปฏิบัติตามวิธีการเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดทำรายงานทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับมาตรฐานบัญชีและกฎหมาย ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจมีความน่าเชื่อถือและสามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

 

ข้อควรระวังภาษี

ข้อควรระวังเกี่ยวกับภาษีเป็นสิ่งสำคัญที่ธุรกิจทุกขนาดควรให้ความสำคัญ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการปฏิบัติผิดกฎหมายหรือการขาดการจัดการภาษีที่เหมาะสม นี่คือบางข้อควรระวังที่สำคัญ:

1. การรายงานรายได้ไม่ครบถ้วน

การไม่รายงานรายได้ทั้งหมดหรือการปกปิดรายได้เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจนำไปสู่การตรวจสอบและการเสียค่าปรับจากหน่วยงานภาษี การจัดทำบัญชีที่ถูกต้องและโปร่งใสจึงเป็นสิ่งจำเป็น

2. การจัดการค่าใช้จ่ายอย่างไม่เหมาะสม

การบันทึกค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือการบันทึกค่าใช้จ่ายที่เกินความจริง อาจทำให้ธุรกิจเสี่ยงต่อการถูกตรวจสอบภาษี ควรจัดการค่าใช้จ่ายให้ถูกต้องและสอดคล้องกับกฎหมาย

3. การไม่ชำระภาษีตามกำหนดเวลา

การชำระภาษีล่าช้าหรือไม่ชำระภาษีตามกำหนดจะทำให้ธุรกิจต้องเสียค่าปรับและดอกเบี้ยที่สูง ควรจัดการภาษีให้ตรงตามกำหนดเวลาและเก็บรักษาเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องอย่างดี

4. การขาดการปรับปรุงความรู้ด้านภาษี

กฎหมายภาษีมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ หากไม่อัปเดตความรู้ด้านภาษี อาจทำให้ธุรกิจไม่ปฏิบัติตามกฎหมายใหม่และเกิดปัญหาภายหลัง การติดตามข่าวสารและเข้าร่วมการอบรมด้านภาษีจะช่วยให้ธุรกิจปรับตัวได้ทัน

5. การไม่แยกบัญชีระหว่างธุรกิจและส่วนตัว

การไม่แยกบัญชีระหว่างธุรกิจและการใช้ส่วนตัวอาจนำไปสู่ความสับสนและการรายงานภาษีที่ไม่ถูกต้อง ควรมีการแยกบัญชีธุรกิจออกจากบัญชีส่วนตัวอย่างชัดเจน

6. การไม่เก็บรักษาเอกสารหลักฐานที่เพียงพอ

การขาดเอกสารหลักฐานที่ชัดเจนสำหรับรายได้และค่าใช้จ่าย อาจทำให้ธุรกิจมีปัญหาในการยื่นภาษีหรือถูกตรวจสอบย้อนหลัง ควรเก็บรักษาเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องไว้อย่างน้อย 5 ปี

7. การขาดการวางแผนภาษีระยะยาว

การวางแผนภาษีเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อให้ธุรกิจสามารถจัดการภาระภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ การขาดการวางแผนที่ดีอาจทำให้ธุรกิจจ่ายภาษีมากเกินไปหรือประสบปัญหาทางการเงิน

8. การทำธุรกรรมระหว่างบริษัทในเครือที่ไม่เหมาะสม

การทำธุรกรรมระหว่างบริษัทในเครือหรือการตั้งราคาที่ยุติธรรม (Transfer Pricing) ควรทำให้ถูกต้องและสอดคล้องกับกฎหมายภาษี เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกตรวจสอบ

 

การจัดการภาษีอย่างถูกต้องและระมัดระวัง  เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินการได้อย่างราบรื่นและลดความเสี่ยงจากปัญหาทางภาษีในอนาคต

การปฏิบัติตามภาษีและการรายงานทางการเงินในธุรกิจขนาดเล็ก  อาจดูเป็นเรื่องที่ซับซ้อน แต่ด้วยการวางแผนที่ดีและการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง ธุรกิจของคุณจะสามารถลดความเสี่ยงในการถูกตรวจสอบและดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Kung_nadthanan
  • 0 Followers
  • Follow