ทำความรู้จักใบประกอบวิชาชีพครู

ใบประกอบวิชาชีพครู เป็นเอกสารสำคัญที่ออกโดยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษาแห่งประเทศไทย ซึ่งใช้เพื่อยืนยันความสามารถในการประกอบอาชีพครูในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ใบประกอบวิชาชีพครูไม่ได้เป็นเพียงใบอนุญาต แต่เป็นเครื่องหมายที่บ่งบอกถึงมาตรฐานคุณภาพของผู้สอนและการปฏิบัติงานในสายอาชีพครูที่ได้รับการยอมรับ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับใบประกอบวิชาชีพครูอย่างละเอียด ตั้งแต่คุณสมบัติที่ต้องมี ข้อกำหนดในการขอใบประกอบ และความสำคัญของใบประกอบวิชาชีพครูต่อการศึกษาในประเทศไทย
 

ใบประกอบวิชาชีพครูคืออะไร?

ใบประกอบวิชาชีพครูคือเอกสารที่ครูทุกคนต้องมีเพื่อให้สามารถทำงานในตำแหน่งครูได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยใบประกอบวิชาชีพครูออกโดยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษาแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลและควบคุมมาตรฐานการศึกษาของครูในประเทศ การได้รับใบประกอบวิชาชีพครูต้องผ่านเกณฑ์การอบรม การฝึกสอน และการประเมินความสามารถในการสอน เพื่อให้แน่ใจว่าครูมีคุณภาพและทักษะที่จำเป็นต่อการสอนนักเรียน ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูเป็นหลักฐานการรับรองว่าผู้ถือใบอนุญาตมีคุณสมบัติและความรู้ความสามารถที่จำเป็นในการประกอบวิชาชีพครู ตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการรับรองความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ เพื่อการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พ.ศ. 2565 และข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ พ.ศ. 2565 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 มีนาคม 2566 ได้มีการกำหนดว่า ให้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ 4 ประเภท ได้แก่ ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู, ผู้บริหารสถานศึกษา, ผู้บริหารการศึกษา และศึกษานิเทศก์ ผู้บริหารสถานศึกษา, ผู้บริหารการศึกษา
 

ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู จำแนกเป็น 3 ระดับ ได้แก่

1. ใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่ครู (P-License)

มีคุณวุฒิปริญญาทางการศึกษาที่คุรุสภาให้การรับรองตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป ผ่านการปฎิบัติการสอนในสถานศึกษาตามหลักสูตรไม่น้อยกว่า 1 ปี ใบอนุญาต มีอายุ 2 ปี

2. ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นต้น (B-License) 

มีคุณวุฒิปริญญาทางการศึกษาที่คุรุสภาให้การรับรอง ผ่านการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูครบทุกวิชาตามประกาศ ใบอนุญาต มีอายุ 5 ปี

3. ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นสูง (A-License) 

มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูระดับ B-License มีวิทยฐานะระดับชำนาญการ หรือเทียบเท่าขึ้นไป ผ่านเกณฑ์การประเมินตามระดับคุณภาพของมาตรฐานในการประกอบวิชาชีพตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนด  ใบอนุญาต มีอายุ 7  ปี

การขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู

คุณสมบัติ

1. มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์

2. มีวุฒิปริญญาทางการศึกษา หรือเทียบเท่าหรือมีคุณวุฒิที่คุรุสภารับรอง

3. ผ่านการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาตามหลักสูตรปริญญาทางการศึกษาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี และผ่านเกณฑ์การประเมินปฏิบัติการสอนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด

ลักษณะต้องห้าม

1. เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในศีลธรรมอันดี

2. เป็นคนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ

3. เคยต้องโทษจำคุกในคดีที่คุรุสภาเห็นว่าอาจนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ

ขั้นตอนการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู

1. เตรียมเอกสาร เตรียมเอกสารที่จำเป็น เช่น ใบแสดงวุฒิการศึกษา บัตรประชาชน ใบรับรองการฝึกสอน และใบรับรองผ่านการอบรม

2. สมัครผ่านเว็บไซต์ เข้าไปสมัครขอใบประกอบวิชาชีพครูผ่านเว็บไซต์ของคุรุสภา กรอกข้อมูลและอัปโหลดเอกสารตามที่ระบุ

3. ชำระค่าธรรมเนียม ชำระค่าธรรมเนียมการสมัครตามที่กำหนด และรอผลการพิจารณาจากคุรุสภา

4. รอการตรวจสอบ หลังจากสมัครและส่งเอกสารครบถ้วน จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติและความถูกต้องของข้อมูล

5. รับใบประกอบวิชาชีพครู หากผ่านการตรวจสอบและพิจารณาเรียบร้อยจะได้รับใบประกอบวิชาชีพครูที่อนุญาตให้คุณสามารถสอนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
    

ความสำคัญของใบประกอบวิชาชีพครู

1. ยกระดับมาตรฐานการศึกษา  ใบประกอบวิชาชีพครูช่วยยกระดับมาตรฐานการศึกษาในประเทศไทย ทำให้ครูทุกคนมีความรู้และทักษะที่เพียงพอในการสอน

2. สร้างความเชื่อมั่นในวิชาชีพ ใบประกอบวิชาชีพครูเป็นการรับรองความสามารถของครู ทำให้นักเรียนและผู้ปกครองมั่นใจในคุณภาพการสอน

3. ส่งเสริมการพัฒนาวิชาชีพ การมีใบประกอบวิชาชีพครูทำให้ครูต้องพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการอบรมและการประเมิน เพื่อรักษามาตรฐานวิชาชีพ

4. ข้อกำหนดทางกฎหมาย การมีใบประกอบวิชาชีพครูเป็นข้อกำหนดทางกฎหมายที่ครูทุกคนต้องปฏิบัติตาม เพื่อป้องกันปัญหาทางกฎหมายและการดำเนินงานที่ไม่ถูกต้อง

ใบประกอบวิชาชีพครูเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างมาตรฐานและคุณภาพในวิชาชีพครู การมีใบประกอบวิชาชีพครูไม่เพียงแต่ทำให้ครูสามารถสอนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถและความทุ่มเทในการพัฒนาตนเองเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนอีกด้วย การเข้าใจถึงกระบวนการขอใบประกอบและการพัฒนาตนเองอยู่เสมอจะช่วยให้ครูสามารถเติบโตในสายงานและสร้างคุณค่าทางการศึกษาได้อย่างเต็มที่

แหล่งข้อมูล

คุรุสภา