ทฤษฎีความได้เปรียบโดยสัมบูรณ์ อธิบายว่าเมื่อประเทศหนึ่งสามารถผลิตสินค้าได้ในต้นทุนที่ต่ำกว่าและใช้ทรัพยากรน้อยกว่าประเทศอื่น ๆ ประเทศนั้นควรเลือกที่จะผลิตสินค้านั้นและแลกเปลี่ยนกับสินค้าที่ประเทศอื่นมีความได้เปรียบโดยสัมบูรณ์ในการผลิต การทำเช่นนี้จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรในระดับโลกและเพิ่มความมั่งคั่งของทุกประเทศ
1. การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
ทฤษฎีนี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น หากประเทศ A มีความสามารถในการผลิตสินค้าประเภทเครื่องจักรที่ประสิทธิภาพสูงกว่าประเทศ B ประเทศ A ควรเน้นการผลิตเครื่องจักรเพื่อส่งออกไปยังประเทศ B แทนที่จะพยายามผลิตสินค้าที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ
2. การค้าเสรีและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
การที่แต่ละประเทศผลิตสินค้าที่ตนเองมีความได้เปรียบโดยสัมบูรณ์จะช่วยเพิ่มปริมาณการค้าเสรีระหว่างประเทศ นำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับที่สูงขึ้นสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
3. การลดต้นทุนและเพิ่มคุณภาพสินค้า
เมื่อประเทศต่าง ๆ มุ่งเน้นผลิตสินค้าที่ตนเองมีความเชี่ยวชาญ จะช่วยลดต้นทุนการผลิต ทำให้ราคาสินค้าต่ำลง และคุณภาพของสินค้าในตลาดโลกดีขึ้น
เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ลองพิจารณาตัวอย่างสมมติของประเทศ A และประเทศ B โดยที่ประเทศ A สามารถผลิตไวน์ได้มากกว่าและต้นทุนต่ำกว่าประเทศ B ในขณะที่ประเทศ B สามารถผลิตผ้าฝ้ายได้มากกว่าและมีต้นทุนต่ำกว่าประเทศ A ในกรณีนี้ ทฤษฎีความได้เปรียบโดยสัมบูรณ์จะแนะนำให้ประเทศ A ผลิตไวน์และส่งออกไปยังประเทศ B ในขณะที่ประเทศ B ผลิตผ้าฝ้ายและส่งออกไปยังประเทศ A ทั้งสองประเทศจะได้รับประโยชน์จากการค้าและสามารถเพิ่มความมั่งคั่งของตนได้