Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

Life Goals

Posted By Plook TCAS | 25 ก.ค. 67
348 Views

  Favorite

Life Goal มีความสำคัญช่วยให้หลายคนมีทิศทางในชีวิต และสามารถใช้เป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน ในการใช้ชีวิตแต่ละวันได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้หลายคนมีความสุขและรู้สึกพึงพอใจกับชีวิตมากขึ้น เมื่อสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้

>> 4 เป้าหมายในชีวิตที่วัยรุ่นน่าคิดไว้แต่เนิ่นๆ


การตั้งเป้าหมายชีวิตด้าน lifestyle มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเป็นการกำหนดทิศทางในการใช้ชีวิตและการทำงานตามที่เราต้องการ ไม่ใช่การทำตามเพื่อนหรือกระแสสังคม เป้าหมายเหล่านี้ช่วยให้เรามีความชัดเจนในสิ่งที่ต้องการในอนาคต และทำให้การตัดสินใจต่าง ๆ ในชีวิตเป็นไปอย่างมีระบบและสอดคล้องกับเป้าหมายที่ตั้งไว้

ตัวอย่างเป้าหมายในชีวิตด้าน Lifestyle

- การศึกษาและการพัฒนาตนเอง การศึกษา

การพัฒนาทักษะใหม่ ๆ การเรียนรู้เพิ่มเติม เช่น ภาษาหรือทักษะด้านเทคโนโลยี

 

- การทำงานและอาชีพ

ได้ตำแหน่งงานที่ต้องการ ได้เลื่อนตำแหน่ง หรือการเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัว

 

- มีที่อยู่อาศัย

ที่อยู่อาศัยเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่ทุกคนล้วนมีความต้องการที่จะมีด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว, คอนโด, อพาร์ตเมนต์ 

 

- การเงินและการลงทุน

ตั้งเป้าออมเงิน การลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เพื่อวางแผนการเกษียณอย่างมีความสุข

 

- การเดินทางและการท่องเที่ยว

การได้ไปท่องเที่ยวในประเทศ หรือต่างประเทศ ล้วนเป็นความฝันที่หลายคนตั้งเป้าไว้ 

 

- การสร้างครอบครัว

ใช้ชีวิตมาช่วงหนึ่งหลายคนก็จะนึงเรื่อง การแต่งงานและการสร้างครอบครัว การมีบุตร รวมไปถึงการเลี้ยงดูบุตร และการวางแผนการศึกษาของบุตร ให้เติบโตและมีคุณภาพดีตามต้องการ

 

- สุขภาพและการดูแลตัวเอง

การมีสุชภาพดี ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ เป็นลาภอันประเสริฐ การตั้งเป้าออกกำลังกาย รวมไปถึงการดูแลสุขภาพจิตให้แจ่มใส จะทำให้เรามีชีวิตที่ยืนยาว

 

- ชีวิตหลังเกษียณ

การวางแผนในระยะยาวในช่วงชีวิตหลังเกษียณก็เป็นเรื่องสำคัญ การเลือกที่อยู่อาศัยหลังเกษียณ การวางแผนการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ต้องตั้งเป้าและวางแผนไว้ให้ดี

- การคำนวณเงินที่ต้องใช้สำหรับแต่ละช่วงวัย

การคำนวณเงินที่ต้องใช้ในแต่ละช่วงวัยจำเป็นต้องพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน, เป้าหมายที่ตั้งไว้, การเติบโตของรายได้ และการเก็บออมสำหรับอนาคต

การคำนวณค่าใช้จ่ายรายเดือน

ประเมินค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น ค่าที่อยู่อาศัย, ค่าอาหาร, ค่าเดินทาง, ค่าใช้จ่ายส่วนตัว คำนวณค่าใช้จ่ายรวมต่อเดือน และคูณด้วย 12 เพื่อหาค่าใช้จ่ายรายปี

 

- การเตรียมเงินสำหรับการเกษียณ

ประเมินค่าใช้จ่ายที่ต้องการหลังเกษียณ เช่น ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน, ค่ารักษาพยาบาล, การท่องเที่ยว คำนวณเงินที่ต้องเก็บสะสมในช่วงเวลาทำงานเพื่อให้เพียงพอในการใช้ชีวิตหลังเกษียณ

ทั้งนี้อาจมีการปรับเปลี่ยนแผนตามสถานการณ์ โดยปรับเปลี่ยนแผนทางการเงินตามสถานการณ์จริง เช่น การเปลี่ยนแปลงในอาชีพ, การมีครอบครัว

 

ตัวอย่างการตั้งเป้าหมายคน 3 รูปแบบ ในแต่ละช่วงวัย

- ด้าน Lifestyle

คนที่ 1 : คนอยู่ในเมืองใหญ่ (กรุงเทพฯ)

ช่วงอายุ 22-30

เป้าหมายที่ 1: เรียนจบปริญญาตรีและเริ่มทำงานในบริษัทใหญ่ในกรุงเทพฯ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์
งบประมาณที่ต้องเตรียม: ค่าใช้จ่ายส่วนตัวและค่าเดินทาง ประมาณ 10,000 - 15,000 บาทต่อเดือน
เป้าหมายที่ 2: ซื้อคอนโดเล็กๆ ใกล้ที่ทำงานในเมือง
งบประมาณที่ต้องเตรียม: ค่ามัดจำและผ่อนคอนโด ประมาณ 1.5 - 2 ล้านบาท
เป้าหมายที่ 3: เริ่มลงทุนในตลาดหุ้นหรือกองทุนรวม
งบประมาณที่ต้องเตรียม: เริ่มต้นลงทุนด้วยเงินประมาณ 5,000 - 10,000 บาทต่อเดือน


ช่วงอายุ 31-40

เป้าหมายที่ 1: เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการและสร้างเครือข่ายการทำงาน
งบประมาณที่ต้องเตรียม: ค่าใช้จ่ายในการเข้าสังคมและการพัฒนาตัวเอง ประมาณ 20,000 - 30,000 บาทต่อปี
เป้าหมายที่ 2: ซื้อรถยนต์ส่วนตัวเพื่อความสะดวกในการเดินทาง
งบประมาณที่ต้องเตรียม: ผ่อนรถยนต์ ประมาณ 800,000 - 1.2 ล้านบาท
เป้าหมายที่ 3: เริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ เป็นงานเสริมในเวลาว่าง
งบประมาณที่ต้องเตรียม: เงินทุนเริ่มต้นธุรกิจ ประมาณ 100,000 - 300,000 บาท


ช่วงอายุ 41-60

เป้าหมายที่ 1: ขยายธุรกิจส่วนตัวให้เติบโตมากขึ้น
งบประมาณที่ต้องเตรียม: เงินลงทุนเพิ่มเติม ประมาณ 500,000 - 1 ล้านบาท
เป้าหมายที่ 2: วางแผนเพื่อการเกษียณอย่างสบาย โดยเริ่มฝากเงินในกองทุนเพื่อการเกษียณ (RMF หรือ SSF)
งบประมาณที่ต้องเตรียม: เงินฝากกองทุนเกษียณ ประมาณ 10,000 - 20,000 บาทต่อเดือน
เป้าหมายที่ 3: ซื้อบ้านเดี่ยวในชานเมืองเพื่อการอยู่อาศัยหลังเกษียณ
งบประมาณที่ต้องเตรียม: ค่าผ่อนบ้าน ประมาณ 4 - 6 ล้านบาท


ช่วงอายุ 61-80

เป้าหมายที่ 1: ใช้ชีวิตเกษียณในบ้านเดี่ยว ชานเมืองใกล้ธรรมชาติ
งบประมาณที่ต้องเตรียม: ค่าใช้จ่ายรายเดือนสำหรับชีวิตเกษียณ ประมาณ 30,000 - 50,000 บาทต่อเดือน
เป้าหมายที่ 2: ท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศปีละ 1-2 ครั้ง
งบประมาณที่ต้องเตรียม: ค่าท่องเที่ยว ประมาณ 50,000 - 100,000 บาทต่อปี


คนที่ 2 :  คนอยู่ต่างจังหวัดเมืองเล็ก

ช่วงอายุ 22-30

เป้าหมายที่ 1: เรียนจบปริญญาตรีและทำงานในหน่วยงานราชการหรือบริษัทท้องถิ่น
งบประมาณที่ต้องเตรียม: ค่าใช้จ่ายรายเดือน ประมาณ 7,000 - 10,000 บาทต่อเดือน
เป้าหมายที่ 2: สร้างบ้านเล็กๆ ในที่ดินของครอบครัว
งบประมาณที่ต้องเตรียม: ค่าสร้างบ้าน ประมาณ 1 - 2 ล้านบาท
เป้าหมายที่ 3: เก็บเงินเพื่อซื้อรถจักรยานยนต์หรือรถยนต์เล็กๆ
งบประมาณที่ต้องเตรียม: ค่าผ่อนรถจักรยานยนต์/รถยนต์ ประมาณ 50,000 - 800,000 บาท


ช่วงอายุ 31-40

เป้าหมายที่ 1: สร้างครอบครัวและมีลูก 1-2 คน
งบประมาณที่ต้องเตรียม: ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตร ประมาณ 5,000 - 10,000 บาทต่อเดือน
เป้าหมายที่ 2: ลงทุนในธุรกิจขนาดเล็กในชุมชน
งบประมาณที่ต้องเตรียม: เงินลงทุนเริ่มต้น ประมาณ 200,000 - 500,000 บาท
เป้าหมายที่ 3: เก็บเงินเพื่อส่งลูกเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย
งบประมาณที่ต้องเตรียม: เงินเก็บเพื่อการศึกษา ประมาณ 200,000 - 500,000 บาท


ช่วงอายุ 41-60

เป้าหมายที่ 1: พัฒนาธุรกิจส่วนตัวให้เป็นแหล่งรายได้หลักของครอบครัว
งบประมาณที่ต้องเตรียม: เงินลงทุนเพิ่มเติม ประมาณ 300,000 - 1 ล้านบาท
เป้าหมายที่ 2: วางแผนการเกษียณในบ้านที่อยู่เดิม และปรับปรุงบ้านให้สะดวกสบายมากขึ้น
งบประมาณที่ต้องเตรียม: ค่าปรับปรุงบ้าน ประมาณ 500,000 - 1 ล้านบาท
เป้าหมายที่ 3: เริ่มฝากเงินในกองทุนเพื่อการเกษียณ (RMF หรือ SSF)
งบประมาณที่ต้องเตรียม: เงินฝากกองทุนเกษียณ ประมาณ 5,000 - 10,000 บาทต่อเดือน


ช่วงอายุ 61-80

เป้าหมายที่ 1: เกษียณจากงานและดูแลสวนหรือฟาร์มเล็กๆ ในที่ดินของครอบครัว
งบประมาณที่ต้องเตรียม: ค่าใช้จ่ายรายเดือนสำหรับชีวิตเกษียณ ประมาณ 20,000 - 30,000 บาทต่อเดือน
เป้าหมายที่ 2: เข้าร่วมกิจกรรมในชุมชนและช่วยเหลือสังคมในพื้นที่
งบประมาณที่ต้องเตรียม: ค่าใช้จ่ายในการทำกิจกรรมสังคม ประมาณ 10,000 - 20,000 บาทต่อปี


คนที่ 3: คนอยู่ต่างประเทศ

ช่วงอายุ 22-30

เป้าหมายที่ 1: เรียนจบปริญญาตรีหรือปริญญาโทในต่างประเทศ และเริ่มทำงานในองค์กรนานาชาติ
งบประมาณที่ต้องเตรียม: ค่าใช้จ่ายในการเรียนและใช้ชีวิตต่างประเทศ ประมาณ 500,000 - 1 ล้านบาทต่อปี
เป้าหมายที่ 2: เช่าหรือซื้ออพาร์ตเมนต์เล็กๆ ใกล้ที่ทำงานในเมืองใหญ่
งบประมาณที่ต้องเตรียม: ค่ามัดจำและค่าเช่าที่พัก ประมาณ 50,000 - 100,000 บาทต่อเดือน
เป้าหมายที่ 3: เก็บเงินเพื่อท่องเที่ยวหรือเรียนภาษาเพิ่มเติม
งบประมาณที่ต้องเตรียม: ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวและการเรียนรู้เพิ่มเติม ประมาณ 100,000 - 300,000 บาทต่อปี


ช่วงอายุ 31-40

เป้าหมายที่ 1: ได้รับการเลื่อนตำแหน่งและย้ายไปทำงานในประเทศใหม่ๆ เพื่อประสบการณ์และโอกาสที่ดีขึ้น
งบประมาณที่ต้องเตรียม: ค่าใช้จ่ายในการย้ายที่อยู่และการตั้งหลักใหม่ ประมาณ 200,000 - 500,000 บาท
เป้าหมายที่ 2: ซื้อบ้านหรืออพาร์ตเมนต์ที่ใหญ่ขึ้นในต่างประเทศ
งบประมาณที่ต้องเตรียม: ค่าผ่อนที่พัก ประมาณ 3 - 5 ล้านบาท
เป้าหมายที่ 3: เริ่มลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือธุรกิจในต่างประเทศ
งบประมาณที่ต้องเตรียม: เงินลงทุนเริ่มต้น ประมาณ 1 - 3 ล้านบาท


ช่วงอายุ 41-60

เป้าหมายที่ 1: เก็บเงินเพื่อการเกษียณและย้ายกลับมาใช้ชีวิตในประเทศไทย
งบประมาณที่ต้องเตรียม: เงินเก็บสำหรับการเกษียณ ประมาณ 5 - 10 ล้านบาท
เป้าหมายที่ 2: สร้างหรือซื้อบ้านในประเทศไทยเพื่อใช้ชีวิตเกษียณ
งบประมาณที่ต้องเตรียม: ค่าใช้จ่ายในการสร้างหรือซื้อบ้าน ประมาณ 3 - 9 ล้านบาท

 

- ด้าน WEALTH

คนที่ 1 : คนอยู่ในเมืองใหญ่ (กรุงเทพฯ)

ช่วงอายุ 22-30 ปี

  • เป้าหมาย:

    • เริ่มต้นอาชีพการงานที่มั่นคงและสร้างรายได้
    • มีเงินเก็บ 1 ล้านบาทแรกภายในอายุ 30 ปี
  • การวางแผนที่ควรทำ:

    • การออมและการลงทุน: เริ่มออมเงินอย่างสม่ำเสมอ โดยตั้งเป้าหมายออมอย่างน้อย 20-30% ของรายได้ต่อเดือน
    • การลงทุน: ศึกษาการลงทุนในหุ้นหรือกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง เพื่อให้เงินออมงอกเงยตามเป้าหมาย
    • การพัฒนาทักษะ: ลงทุนในการเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งและเพิ่มรายได้

ช่วงอายุ 31-40 ปี

  • เป้าหมาย:

    • ซื้อบ้านหรือคอนโดในกรุงเทพฯ
    • สร้างเงินเก็บเพิ่มอีก 2 ล้านบาทภายในอายุ 40 ปี
  • การวางแผนที่ควรทำ:

    • การซื้อบ้าน: วางแผนการเงินและการผ่อนบ้าน โดยจัดการหนี้สินและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ให้สมดุล
    • การลงทุนเพิ่มเติม: ขยายพอร์ตการลงทุนไปในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงปานกลางถึงสูง เช่น อสังหาริมทรัพย์ หรือหุ้น

ช่วงอายุ 41-60 ปี

  • เป้าหมาย:

    • สร้างทรัพย์สินรวมมูลค่า 10 ล้านบาทภายในอายุ 60 ปี
    • วางแผนเกษียณอายุ
  • การวางแผนที่ควรทำ:

    • การจัดการหนี้สิน: ชำระหนี้สินทั้งหมด รวมถึงการผ่อนบ้านให้หมดภายในอายุ 50 ปี
    • การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ: เปลี่ยนพอร์ตการลงทุนไปที่สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น พันธบัตร หรือกองทุนที่เน้นรายได้ประจำ
    • การวางแผนเกษียณ: วางแผนการออมเพื่อให้มีเงินเก็บเพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตหลังเกษียณ

ช่วงอายุ 61-80 ปี

  • เป้าหมาย:

    • มีเงินใช้ช่วงเกษียณเดือนละ 30,000 บาท
    • ท่องเที่ยวต่างประเทศปีละ 1 ครั้ง
  • การวางแผนที่ควรทำ:

    • การถอนเงินลงทุน: คำนวณและวางแผนการถอนเงินจากการลงทุนเพื่อให้มีเงินเพียงพอต่อการใช้จ่ายในแต่ละเดือน
    • การลดค่าใช้จ่าย: ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับรายได้และเงินเก็บที่มีอยู่
       

คนที่ 2 : คนอยู่ต่างจังหวัดเมืองเล็ก 

ช่วงอายุ 22-30 ปี

  • เป้าหมาย:

    • สร้างธุรกิจเล็ก ๆ ในท้องถิ่น
    • มีเงินเก็บ 500,000 บาทภายในอายุ 30 ปี
  • การวางแผนที่ควรทำ:

    • การวางแผนธุรกิจ: วางแผนการเงินสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจ เช่น การกู้เงินหรือการหาทุนสนับสนุน
    • การออมเงิน: ตั้งเป้าหมายออมเงินจากรายได้ส่วนหนึ่งเพื่อใช้เป็นเงินทุนสำรอง

ช่วงอายุ 31-40 ปี

  • เป้าหมาย:

    • ขยายธุรกิจและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น 2 เท่าภายในอายุ 40 ปี
    • ซื้อที่ดินหรือบ้านในเขตชนบท
  • การวางแผนที่ควรทำ:

    • การขยายธุรกิจ: วางแผนการขยายธุรกิจและการตลาดเพื่อเพิ่มรายได้
    • การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์: วางแผนซื้อที่ดินหรือบ้านในเขตชนบท โดยเน้นการลงทุนระยะยาว

ช่วงอายุ 41-60 ปี

  • เป้าหมาย:

    • มีทรัพย์สินรวมมูลค่า 5 ล้านบาท
    • วางแผนเกษียณและส่งต่อธุรกิจให้คนรุ่นหลัง
  • การวางแผนที่ควรทำ:

    • การเตรียมตัวเกษียณ: วางแผนการออมและการลงทุนเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเกษียณ
    • การส่งต่อธุรกิจ: วางแผนการส่งต่อธุรกิจให้ลูกหลานหรือผู้สืบทอด

ช่วงอายุ 61-80 ปี

  • เป้าหมาย:

    • มีเงินใช้ช่วงเกษียณเดือนละ 15,000 บาท
    • ใช้ชีวิตสงบสุขในชนบท
  • การวางแผนที่ควรทำ:

    • การบริหารเงินเกษียณ: วางแผนการใช้เงินเกษียณและการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
    • การรักษาสุขภาพ: วางแผนการใช้จ่ายด้านสุขภาพและการรักษาพยาบาล

คนที่ 3 : คนอยู่ต่างประเทศ 

ช่วงอายุ 22-30 ปี

  • เป้าหมาย:

    • สร้างอาชีพและเริ่มต้นการลงทุนในตลาดหุ้น
    • มีเงินเก็บ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในอายุ 30 ปี
  • การวางแผนที่ควรทำ:

    • การลงทุน: เริ่มลงทุนในกองทุนรวมและตลาดหุ้นเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม
    • การจัดการหนี้สิน: จัดการหนี้สินนักศึกษาและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ

ช่วงอายุ 31-40 ปี

  • เป้าหมาย:

    • ซื้อบ้านในเมืองหรือชานเมือง
    • มีเงินเก็บเพิ่มอีก 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในอายุ 40 ปี
  • การวางแผนที่ควรทำ:

    • การซื้อบ้าน: วางแผนการซื้อบ้านและการผ่อนชำระ
    • การขยายการลงทุน: ขยายพอร์ตการลงทุนไปในอสังหาริมทรัพย์และหุ้นที่มีศักยภาพสูง

ช่วงอายุ 41-60 ปี

  • เป้าหมาย:

    • สร้างทรัพย์สินรวมมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในอายุ 60 ปี
    • เตรียมตัวเกษียณอายุ
  • การวางแผนที่ควรทำ:

    • การบริหารพอร์ตการลงทุน: ปรับสมดุลพอร์ตการลงทุนให้มีความเสี่ยงต่ำลงเมื่อเข้าใกล้ช่วงเกษียณ
    • การออมเงินเกษียณ: เพิ่มการออมในบัญชีเกษียณ 

ช่วงอายุ 61-80 ปี

  • เป้าหมาย:

    • มีเงินใช้ช่วงเกษียณเดือนละ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ
    • ท่องเที่ยวและใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย
  • การวางแผนที่ควรทำ:

    • การบริหารเงินเกษียณ: วางแผนการถอนเงินจากการลงทุนและการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ
    • การลดค่าใช้จ่าย: ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับรายได้หลังเกษียณ

 

- ด้าน HEALTH

คนที่ 1 : คนอยู่ในเมืองใหญ่ (กรุงเทพฯ)

ช่วงอายุ 22-30 ปี

  • เป้าหมาย:

    • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์
    • รักษาระดับความเครียดไม่ให้สูงเกินไปจากการทำงาน
    • ไม่สูบบุหรี่และลดการดื่มแอลกอฮอล์
  • การวางแผนที่ควรทำ:

    • การออกกำลังกาย: เข้าร่วมฟิตเนสหรือเล่นกีฬาที่ชอบ เช่น โยคะ, วิ่ง, หรือปั่นจักรยาน เพื่อรักษาความแข็งแรงของร่างกาย
    • การรับประทานอาหาร: เน้นรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก, ผลไม้, และโปรตีนที่มีคุณภาพ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงและน้ำตาลมาก
    • การดูแลจิตใจ: ฝึกการจัดการความเครียดด้วยการทำสมาธิหรือกิจกรรมที่ผ่อนคลาย เช่น การอ่านหนังสือหรือเดินเล่นในสวนสาธารณะ
       

ช่วงอายุ 31-40 ปี

  • เป้าหมาย:

    • ลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวานและความดันโลหิตสูง
    • รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
  • การวางแผนที่ควรทำ:

    • การตรวจสุขภาพประจำปี: ตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อตรวจหาความเสี่ยงจากโรคเรื้อรัง
    • การออกกำลังกายแบบผสมผสาน: รวมการออกกำลังกายที่เน้นการเผาผลาญไขมัน เช่น คาร์ดิโอ และการออกกำลังกายที่เน้นความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เช่น การยกน้ำหนัก
    • การควบคุมอาหาร: ลดการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง รักษาสมดุลระหว่างการรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย
       

ช่วงอายุ 41-60 ปี

  • เป้าหมาย:

    • ป้องกันโรคกระดูกพรุนและข้อเสื่อม
    • รักษาระดับการออกกำลังกายเพื่อคงความยืดหยุ่นของร่างกาย
  • การวางแผนที่ควรทำ:

    • การเสริมแคลเซียมและวิตามินดี: เพิ่มการบริโภคแคลเซียมและวิตามินดีผ่านอาหารเสริมหรืออาหารที่มีประโยชน์ เช่น นม, ปลา, และถั่ว
    • การออกกำลังกายที่เน้นความยืดหยุ่น: เน้นการออกกำลังกายที่เพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย เช่น โยคะหรือพิลาทิส เพื่อป้องกันการบาดเจ็บและรักษาความแข็งแรงของข้อต่อ
       

ช่วงอายุ 61-80 ปี

  • เป้าหมาย:

    • รักษาความสามารถในการเคลื่อนไหวและการทำกิจกรรมต่าง ๆ
    • มีสุขภาพจิตที่ดีและไม่รู้สึกโดดเดี่ยว
  • การวางแผนที่ควรทำ:

    • การออกกำลังกายเบา ๆ: ทำกิจกรรมเบา ๆ เช่น การเดิน, ว่ายน้ำ, หรือการทำสวน เพื่อรักษาความแข็งแรงของร่างกายและลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรัง
    • การเข้าร่วมกลุ่มสังคม: เข้าร่วมกิจกรรมสังคมหรือกลุ่มเพื่อนผู้สูงอายุ เพื่อรักษาสุขภาพจิตใจให้สดใสและไม่เหงา
       

คนที่ 2: คนอยู่ต่างจังหวัดเมืองเล็ก

ช่วงอายุ 22-30 ปี

  • เป้าหมาย:

    • รักษาความแข็งแรงของร่างกายเพื่อสามารถทำงานหนักกลางแจ้งได้
    • ไม่ป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิต เช่น โรคอ้วนหรือความดันโลหิตสูง
  • การวางแผนที่ควรทำ:

    • การออกกำลังกายกลางแจ้ง: ใช้ธรรมชาติในการออกกำลังกาย เช่น การเดินเขา, ปั่นจักรยานในท้องถิ่น หรือการทำสวน
    • การรับประทานอาหารที่สดและปลอดภัย: เลือกอาหารที่ปลูกหรือผลิตในท้องถิ่นที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปที่มีสารเคมี
       

ช่วงอายุ 31-40 ปี

  • เป้าหมาย:

    • ลดน้ำหนักส่วนเกินหรือรักษาน้ำหนักให้คงที่
    • ไม่มีภาวะเครียดสะสมจากการทำงานหรือการใช้ชีวิต
  • การวางแผนที่ควรทำ:

    • การควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง: วางแผนมื้ออาหารและออกกำลังกายประจำวันเพื่อควบคุมน้ำหนักและรักษาสุขภาพ
    • การดูแลสุขภาพจิต: หมั่นทำกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น การเดินเล่นในธรรมชาติ การทำสวน หรือการเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมในท้องถิ่น
       

ช่วงอายุ 41-60 ปี

  • เป้าหมาย:

    • ป้องกันโรคกระดูกพรุนและความเสื่อมของข้อต่อ
    • รักษาความสามารถในการทำงานในชีวิตประจำวัน
  • การวางแผนที่ควรทำ:

    • การบริโภคอาหารเสริม: รับประทานอาหารเสริมที่จำเป็น เช่น แคลเซียม, วิตามินดี, และโอเมก้า-3 เพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุนและข้อเสื่อม
    • การออกกำลังกายที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ: เน้นการออกกำลังกายที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและความยืดหยุ่น เช่น การฝึกโยคะหรือการยกน้ำหนักเบา ๆ
       

ช่วงอายุ 61-80 ปี

  • เป้าหมาย:

    • รักษาความสามารถในการเดินทางและทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน
    • มีสุขภาพจิตใจที่ดีและสามารถใช้เวลาคุณภาพกับครอบครัวและเพื่อนฝูง
  • การวางแผนที่ควรทำ:

    • การออกกำลังกายเบา ๆ ที่บ้าน: ออกกำลังกายเบา ๆ ที่บ้าน เช่น การยืดกล้ามเนื้อ, การเดินภายในบ้าน หรือการทำกิจกรรมภายในสวน
    • การทำกิจกรรมที่รัก: ใช้เวลาว่างทำกิจกรรมที่รัก เช่น การทำสวน, การปลูกพืช, หรือการอ่านหนังสือ เพื่อรักษาสุขภาพจิตใจให้สดใสและไม่รู้สึกเหงา
       

คนที่ 3: คนอยู่ต่างประเทศ

ช่วงอายุ 22-30 ปี

  • เป้าหมาย:

    • รักษาความแข็งแรงของร่างกายเพื่อให้สามารถทำงานและออกกำลังกายได้อย่างต่อเนื่อง
    • หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูงที่อาจเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรัง
  • การวางแผนที่ควรทำ:

    • การออกกำลังกาย: เข้าฟิตเนสหรือเล่นกีฬาที่ชื่นชอบ เช่น วิ่ง, ปั่นจักรยาน, หรือเล่นบาสเก็ตบอล
    • การบริโภคอาหารสุขภาพ: รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก, ผลไม้, โปรตีนจากเนื้อสัตว์หรือปลา และหลีกเลี่ยงอาหารจานด่วนหรืออาหารที่มีไขมันสูง
       

ช่วงอายุ 31-40 ปี

  • เป้าหมาย:

    • ลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจและโรคเรื้อรังอื่น ๆ
    • รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
  • การวางแผนที่ควรทำ:

    • การตรวจสุขภาพประจำปี: เข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อตรวจหาความเสี่ยงจากโรคต่าง ๆ
    • การออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นปานกลาง: รวมการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น การวิ่งหรือการปั่นจักรยาน กับการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ 
       

ช่วงอายุ 41-60 ปี

  • เป้าหมาย:

    • ป้องกันโรคที่เกี่ยวกับกระดูกและข้อ เช่น โรคข้อเสื่อมและกระดูกพรุน
    • รักษาสุขภาพจิตใจและความสัมพันธ์กับครอบครัวและเพื่อน
  • การวางแผนที่ควรทำ:

    • การรับประทานอาหารเสริม: รับประทานอาหารเสริมที่จำเป็น เช่น แคลเซียม, วิตามินดี, และกลูโคซามีน
    • การออกกำลังกายที่เน้นความยืดหยุ่น: เน้นการออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและข้อต่อ เช่น โยคะหรือพิลาทิส
       

ช่วงอายุ 61-80 ปี

  • เป้าหมาย:

    • รักษาความสามารถในการเดินทางและทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องการ
    • มีสุขภาพจิตใจที่ดีและสามารถใช้เวลาคุณภาพกับครอบครัวและเพื่อนฝูง
  • การวางแผนที่ควรทำ:

    • การออกกำลังกายเบา ๆ: ทำกิจกรรมเบา ๆ เช่น การเดิน, ว่ายน้ำ, หรือการทำสวน เพื่อรักษาความแข็งแรงของร่างกายและลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรัง
    • การทำกิจกรรมร่วมกับชุมชน: เข้าร่วมกิจกรรมที่ชุมชนหรือการทำงานอาสาสมัคร เพื่อรักษาสุขภาพจิตใจให้สดใสและไม่รู้สึกโดดเดี่ยว

 

การคำนวณเงินที่ต้องใช้สำหรับแต่ละช่วงวัย

การคำนวณเงินที่ต้องใช้ในแต่ละช่วงอายุเพื่อการวางแผนการเงิน สามารถทำได้โดยการพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ค่าครองชีพ รายได้ อัตราเงินเฟ้อ ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ การออมเพื่อการเกษียณ และเป้าหมายส่วนบุคคล มาดูตัวอย่างการคำนวณเงินที่ต้องใช้ในแต่ละช่วงอายุโดยประมาณ

1. ช่วงวัยผู้ใหญ่ตอนต้น (20-30 ปี)

  • ค่าใช้จ่ายหลัก: ค่าครองชีพ (ที่พัก, อาหาร, การเดินทาง), ค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นอาชีพ, ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา, เงินออมเบื้องต้น

  • ตัวอย่างการคำนวณ:

    • ค่าครองชีพต่อเดือน: 20,000 - 30,000 บาท (ขึ้นอยู่กับเมืองและไลฟ์สไตล์)
    • ค่าเรียนหรือการฝึกอบรมเพิ่มเติม: 50,000 - 200,000 บาท (ต่อปี)
    • เงินออมเบื้องต้น: ควรเก็บประมาณ 10-15% ของรายได้ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายต่อปี:

    • 240,000 - 360,000 บาท (ค่าครองชีพ)
    • 50,000 - 200,000 บาท (การศึกษา)
    • เงินออม: ประมาณ 30,000 - 60,000 บาท

รวมทั้งหมด: 320,000 - 620,000 บาท ต่อปี
 

2. ช่วงวัยผู้ใหญ่กลาง (31-50 ปี)

  • ค่าใช้จ่ายหลัก: ค่าใช้จ่ายครอบครัว (ที่พัก, การศึกษา, การดูแลสุขภาพ), การออมเพื่อการเกษียณ, การชำระหนี้สิน (บ้าน, รถ)

  • ตัวอย่างการคำนวณ:

    • ค่าครองชีพต่อเดือน: 30,000 - 50,000 บาท
    • ค่าใช้จ่ายครอบครัว (เช่น การศึกษา): 50,000 - 300,000 บาท (ต่อปี)
    • การชำระหนี้สิน: 100,000 - 300,000 บาท (ต่อปี)
    • เงินออมเพื่อการเกษียณ: ประมาณ 15-20% ของรายได้ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายต่อปี:

    • 360,000 - 600,000 บาท (ค่าครองชีพ)
    • 50,000 - 300,000 บาท (ค่าใช้จ่ายครอบครัว)
    • 100,000 - 300,000 บาท (การชำระหนี้สิน)
    • เงินออม: ประมาณ 75,000 - 200,000 บาท

รวมทั้งหมด: 585,000 - 1,400,000 บาท ต่อปี
 

3. ช่วงวัยผู้ใหญ่ปลาย (51-65 ปี)

  • ค่าใช้จ่ายหลัก: การเตรียมตัวเกษียณ การดูแลสุขภาพ การลดหนี้สิน

  • ตัวอย่างการคำนวณ:

    • ค่าครองชีพต่อเดือน: 25,000 - 40,000 บาท
    • ค่าใช้จ่ายสุขภาพ: 20,000 - 100,000 บาท (ต่อปี)
    • การชำระหนี้สิน: 100,000 - 300,000 บาท (ต่อปี)
    • เงินออมเพื่อการเกษียณ: ประมาณ 20-25% ของรายได้ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายต่อปี:

    • 300,000 - 480,000 บาท (ค่าครองชีพ)
    • 20,000 - 100,000 บาท (ค่าใช้จ่ายสุขภาพ)
    • 100,000 - 300,000 บาท (การชำระหนี้สิน)
    • เงินออม: ประมาณ 100,000 - 250,000 บาท

รวมทั้งหมด: 520,000 - 1,130,000 บาท ต่อปี
 

4. ช่วงวัยเกษียณ (65 ปีขึ้นไป)

  • ค่าใช้จ่ายหลัก: ค่าใช้จ่ายรายวัน ค่าใช้จ่ายสุขภาพ การจัดการทรัพย์สิน

  • ตัวอย่างการคำนวณ:

    • ค่าครองชีพต่อเดือน: 20,000 - 35,000 บาท
    • ค่าใช้จ่ายสุขภาพ: 50,000 - 200,000 บาท (ต่อปี)
    • การจัดการทรัพย์สิน: ขึ้นอยู่กับทรัพย์สินและการลงทุนที่มีอยู่
  • รวมค่าใช้จ่ายต่อปี:

    • 240,000 - 420,000 บาท (ค่าครองชีพ)
    • 50,000 - 200,000 บาท (ค่าใช้จ่ายสุขภาพ)

รวมทั้งหมด: 290,000 - 620,000 บาท ต่อปี
 

สรุปจำนวนเงินที่ต้องใช้ในแต่ละช่วงอายุ (เฉลี่ยต่อปี)

  • วัยผู้ใหญ่ตอนต้น: 320,000 - 620,000 บาท
  • วัยผู้ใหญ่กลาง: 585,000 - 1,400,000 บาท
  • วัยผู้ใหญ่ปลาย: 520,000 - 1,130,000 บาท
  • วัยเกษียณ: 290,000 - 620,000 บาท
     

หมายเหตุ:

* ค่าใช้จ่ายในที่นี้เป็นค่าเฉลี่ยคร่าว ๆ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ สถานที่ที่อยู่อาศัย และเป้าหมายเฉพาะของแต่ละบุคคล

* การคำนวณนี้ไม่ได้รวมการลงทุนหรือรายได้จากการลงทุน ซึ่งเป็นอีกส่วนสำคัญของการวางแผนการเงินเพื่ออนาคต

* ควรพิจารณาอัตราเงินเฟ้อและการเพิ่มขึ้นของค่าครองชีพในอนาคตเพื่อการวางแผนที่แม่นยำมากขึ้น

การวางแผนทางการเงินและการตั้งเป้าหมายในแต่ละช่วงวัยมีความสำคัญมาก เพราะช่วยให้เราสามารถเตรียมตัวและจัดการกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ การคำนวณเงินที่ต้องใช้อย่างถูกต้องและครอบคลุมทุกหมวดที่สำคัญจะช่วยให้เรามีความมั่นคงและพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ในอนาคต

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook TCAS
  • 29 Followers
  • Follow