สิทธิ์ของเราในระบบ TCAS ทำอะไรได้หลายอย่าง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้หลายคนยังไม่รู้ และหลายคนยังสับสน มาศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สิทธิ์ต่าง ๆ ของเรากันดีกว่า ว่าทำอะไรได้บ้าง
TGAT มีการสอบทั้งหมด 3 Part ได้แก่
Part 1 : English Communication
Part 2 : Critical & Logical Thinking
Part 3 : Working Competencies
ข้อสอบใน Part ที่ 2, 3 เลือกสอบข้อสอบได้ตามต้องการ คือ จะเป็นภาษาไทยก็ได้ หรือภาษาอังกฤษก็ได้ ส่วนข้อสอบ Part 1 ต้องเป็นข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษอย่างเดียว
TCAS66 เป็นปีแรกที่ใช้เทคโนโลยีด้านการสอบด้วยคอมพิวเตอร์ เริ่มต้นด้วยการสอบ TGAT ความถนัดทั่วไป, TPAT2 ศิลปกรรมศาสตร์, TPAT3 วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์, TPAT4 สถาปัตยกรรมศาสตร์ และ TPAT5 ครุศาสตร์/ ศึกษาศาสตร์
โดยจะมีข้อสอบให้เลือก 2 แบบ คือ 1.Computer-based (สอบด้วยคอมพิวเตอร์) 2. Paper-based (สอบด้วยกระดาษ) ส่วนการสอบ TPAT1 กสพท ยังต้องสอบด้วยกระดาษอย่างเดียว ซึ่งค่าสมัครสอบทั้งสองแบบราคาเท่ากัน แต่การสอบแบบคอมพิวเตอร์จะประกาศผลสอบเร็วกว่า ประกาศภายในสามวัน หลังจากสอบวิชาสุดท้ายเสร็จ
สอบติดแล้ว แต่ยังไม่พอใจ สามารถใช้สิทธิ์ของตัวเอง ด้วยการ “ไม่ใช้สิทธิ์” การไม่ใช้สิทธิ์ คือ สอบติดแต่ไม่ต้องการที่จะเรียนในสาขาที่สอบติด น้องสามารถเลือกไม่ยืนยันสิทธิ์หรือไม่ใช้สิทธิ์ได้ ผลที่เกิดขึ้นคือ จะสามารถไปสมัครต่อใน TCAS รอบต่อไปได้ทันที โดยที่เราไม่โดนตัดสิทธิ์ในระบบ TCAS
TCAS รอบที่ 1, 2 และ 4 คือการรับตรงกับสถาบันเอง ทปอ. ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานที่ช่วยบริหารจัดการสิทธิ์ ในระบบ Clearing House ให้ ซึ่งน้อง ๆ สามารถเลือกสมัครกับมหาวิทยาลัยไหนก็ได้ ไม่จำกัดจำนวนสถาบัน แค่มีคุณสมบัติตรงและครบถ้วนตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด เป็นรอบที่เราสามารถมีตัวเลือกได้แบบไม่จำกัด เพิ่มโอกาสสอบติดให้ตัวเองได้มากขึ้น ใครที่มีคะแนนดี เกรดดี ผลงานเด่น ก็จะมีตัวเลือกให้สมัครเยอะมาก ๆ
จัดอันดับตามความต้องการไปเลย 10 อันดับ แต่ข้อจำกัดคือ ต่อให้คะแนนถึงทุกอันดับ ก็จะประกาศผลการสอบติดเพียง 1 อันดับเท่านั้น คืออันดับสูงสุดที่สอบติดนั้นเอง ดังนั้นการจัดวางอันดับจึงเป็นสิ่งสำคัญ อันดับที่อยู่ต้น ๆ จะได้รับคัดเลือกก่อนอันดับล่าง ถ้าติดอันดับบนแล้ว อันดับล่างก็หมดสิทธิ์ จึงเป็นเหตุผลให้จัดอันดับให้ดี อย่าเอาสิ่งที่อยากเรียนไว้ท้าย ๆ เพราะอาจจะไม่ติดตามที่หวัง เพราะได้อันดับบน ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ต้องการที่สุดก็ได้ ดังนั้นวางแผนการจัดอันดับให้ดี
คือระบบเรียกเลือกอันดับรองขึ้นมาแทนที่อันดับแรก ที่เคยสอบติดแล้วสละสิทธิ์ หรือไม่ใช้สิทธิ์ จึงทำให้เกิดที่นั่งว่าง ระบบก็จะทำการประมวลผลใหม่ครั้งที่ 2 รอบที่มีการประมวลผล 2 ครั้ง คือ TCAS รอบที่ 3 Admission (รับตรงร่วมกัน) และ รอบที่ 4 Direct Admission (รับตรงอิสระ)
ใช้ Portfolio โชว์ผลงานในการคัดเลือก และเน้นการสอบสัมภาษณ์ วัดทักษะจากผลงานและประสบการณ์ตรงสาขาที่สมัคร โดยมีเกณฑ์คัดเลือกดังนี้
- ใช้ปลงานและความถนัด ความสามารถพิเศษ
- ไม่ใช้ข้อสอบวิชาการ (A-Level) แต่ในปี 66 เป็นต้นไป สามารถใช้คะแนน TGAT และ TPAT ยื่นได้ โดยเกณฑ์ต่าง ๆ ขึ้นอยู่ที่แต่ละสาขากำหนด
- ใช้แฟ้มสะสมผลงาน จำนวน 10 หน้า (ไม่รวมปก)
- บางมหาวิทยาลัย อาจมีกำหนดสอบความถนัดเฉพาะด้าน หรือสอบภาคปฏิบัติ
- สมัครโดยตรงกับมหาวิทยาลัย หรือสมัครได้หลายที่ (ดูรายละเอียดได้จากระเบียบการรับสมัครแต่ละมหาวิทยาลัย)
- ใช้ GPAX 4 หรือ 5 ภาคเรียน (แล้วแต่โครงการกำหนด)
- ติดได้หลายที่ แต่ยืนยันสิทธิ์ได้ 1 ที่เท่านั้น
- ยืนยันสิทธิ์ผ่านระบบ My TCAS
เป็นรอบรับตรงโควตา ตามเกณฑ์ที่แต่ละมหาวิทยาลัยกำหนด โดยรอบนี้มหาวิทยาลัยแต่ละที่ จะกำหนดคุณสมบัติที่ต้องการไว้เองชัดเจน คุณสมบัติและเกณฑ์ทุกอย่างขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัย โครงการที่เปิดรับสมัครมีหลายโครงการ เช่น
โครงการ 14 จังหวัดภาคใต้
โครงการรับตรงภาคตะวันออก 12 จังหวัด
โควตาพื้นที่เขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือพิเศ
โครงการความสามารถพิเศษด้านวิชาการ
โครงการเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์
โครงการร้านยาคุณภาพ
โครงการบุตรเกษตรกร
โครงการเรียนดีในเขตชนบท
โควตาโรงเรียนมัธยมในเขตพัฒนาภาคเหนือ
โครงการชาวไทยภูเขา
โครงการโอลิมปิกวิชาการ / กีฬา / ดนตรี / ศิลปะ
โครงการทายาทธุรกิจยางพารา
โควตาโรงเรียน MOU ของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
เป็นรอบรับตรงร่วมกัน แต่ใช้เกณฑ์ต่างกัน คือ เป็นรอบที่แต่ละมหาวิทยาลัย ออกแบบเงื่อนไของค์ประกอบการรับนักศึกษาเอง ตามความต้องการของแต่ละมหาวิทยาลัย แต่นำมาเปิดรับและประมวลผลพร้อมกันผ่านระบบกลาง ซึ่งเป็นรอบที่การแข่งขันสูงมาก เป็นรอบที่สู้กันด้วยคะแนนสอบรายวิชาในแต่ละประเภทการสอบ ซึ่งเปิดรับพร้อมกัน ในเวลาเดียวกันทุกสถาบัน จำกัดจำนวนอันดับที่เลือกตามกติกาของแต่ละปี ยอดและเกณฑ์การรับสมัครต้องคอยติดตามระเบียบการให้ดี ห้ามพลาดข่าวเด็ดขาด
รูปแบบการรับสมัคร คือ
- เลือกได้ 10 อันดับ
- เรียงตามลำดับความต้องการ
- กสพท ก็อยู่ในรอบนี้เช่นกัน
- รับสมัครผ่าน ทปอ.
- มหาวิทยาลัยส่งเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และสูตรการคำนวณ ให้ ทปอ. ประมวลผล
- ทปอ.จะประกาศผลการติดเพียง 1 อันดับ คืออันดับสูงสุดที่สอบติด (จากอันดับทั้งหมดที่เราเลือกไว้)
- ประมวลผล 2 ครั้ง (Double Sorting)
- ต้องยืนยันสิทธิ์ผ่านระบบ Clearing House ในการประกาศผลครั้งที่ 1และใช้ระบบ Auto Clearing (ยืนยันสิทธิ์โดยอัตโนมัติตามที่ได้เลือกไว้ โดยไม่ต้องกดยืนยันสิทธิ์) ในการประกาศผลครั้งที่ 2
- เปิดให้สละสิทธิ์ได้ (ถ้ายังไม่เคยสละสิทธิ์มาก่อน)
เป็นรอบสุดท้ายเก็บตก เปิดโอกาสให้กับคนที่ยังไม่ติดในรอบก่อนหน้านี้ แต่จำนวนที่เปิดรับน้อยกว่าทุกรอบ ใครสมัครรอบนี้ ควรมีคะแนนสอบควรตามเกณฑ์ หรือให้ดีควรมีคะแนนสอบหลายวิชา สำรองไว้ในมือจะดีมาก ๆ เพราะจะสามารถเลือกได้หลายสาขามากขึ้น เป็นรอบสุดท้ายที่เปิดรับแล้ว ดังนั้นคะแนนต้องปัง คะแนนต้องครบ คุณสมบัติต้องเป๊ะ เพื่อให้เราติดในรอบนี้ให้ได้
รูปแบบการรับสมัครในรอบนี้ คือ
- ไม่ได้เปิดทุกสาขา / ทุกสถาบัน และเปิดรับไม่เยอะ แต่ละปีเปิดรับไม่เท่ากัน ต้องคอยตามข่าวให้ทัน
- ใช้เกณฑ์รูปแบบการคัดเลือกหลากหลาย (ศึกษาข้อมูลตามระเบียบการแต่ละมหาวิทยาลัย)
- สมัครตรงกับมหาวิทยาลัย และสามารถเลือกได้หลายที่ (ศึกษาข้อมูลตามระเบียบการแต่ละมหาวิทยาลัย)
- ประมวลผลการสมัคร 2 ครั้ง
- ติดได้หลายที่ แต่ก็ยืนยันสิทธิ์ได้ 1 ที่เท่านั้น
- ยืนยันสิทธิ์ผ่านระบบ My TCAS 2 ช่วง (ตามการประกาศผล)
- ไม่อนุญาตให้สละสิทธิ์ ถ้าไม่ต้องการ ไม่ต้องกดยืนยันสิทธิ์