1. ตั้งเป้าหมายที่ท้าทาย
ตั้งเป้าหมายที่สูงกว่าเดิม มองหาโอกาสในการพัฒนาตัวเอง เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ
2. รักษาความสม่ำเสมอ
ทบทวนบทเรียนเป็นประจำ ฝึกฝนทักษะอยู่เสมอ จัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ
3. ช่วยเหลือผู้อื่น
สอนเพื่อน แบ่งปันความรู้ เป็น mentor ให้กับผู้อื่น
1. หาสาเหตุของปัญหา
เข้าใจจุดอ่อนของตัวเอง หาแรงบันดาลใจ ตั้งเป้าหมายที่สามารถทำได้
2. พัฒนาทักษะการเรียนรู้
เรียนรู้เทคนิคการจดจำ ฝึกฝนทักษะการอ่าน ฝึกฝนทักษะการคิดวิเคราะห์
3. หาเพื่อนร่วมเรียน
เรียนเป็นกลุ่ม แบ่งปันความรู้ ช่วยเหลือผู้อื่น
4. หาความช่วยเหลือ
ถามครู ปรึกษาเพื่อน เรียนพิเศษ
1. รู้จักตัวเอง
วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน สไตล์การเรียน ค้นหาความสนใจ ความชอบ เป้าหมายในชีวิต
2. วางแผน
ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน ท้าทาย ที่สามารถทำได้ แบ่งเป้าหมายใหญ่เป็นเป้าหมายย่อย จัดลำดับความสำคัญ กำหนดเวลาที่ชัดเจน
3. เทคนิคการเรียน
- จดบันทึกอย่างมีประสิทธิภาพ
- ฝึกฝนทักษะการอ่านจับใจความ
- ทบทวนบทเรียนเป็นประจำ
- หาเพื่อนร่วมเรียน
- เรียนพิเศษ
4. ตั้งใจทำให้สำเร็จ
มีวินัย จัดการเวลา อดทน มุ่งมั่น ไม่ยอมแพ้ หาแรงบันดาลใจ
น้องแนน นักเรียนชั้นมัธยมปลาย อ่านหนังสือวันละ 10 ชั่วโมง เป็นเวลา 1 ปี จากการขยันอ่านหนังสือและทำการบ้าน มักจะได้คะแนนสอบดี มีทักษะที่ดี ขยันหาความรู้ มักจะมีความรู้ที่กว้างขวาง ผลการเรียนของน้องแนนดีขึ้นมาก สอบติดมหาวิทยาลัยชั้นนำในคณะที่ใฝ่ฝัน
การขยัน อดทน และมุ่งมั่น เป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม การอ่านหนังสือ 10 ชั่วโมงต่อวัน ไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ความสำเร็จเสมอไป สิ่งสำคัญคือ การอ่านหนังสืออย่างมีประสิทธิภาพ การอ่านหนังสือ ควบคู่ไปกับการฝึกฝนทักษะ และการลงมือทำ จะช่วยให้ประสบความสำเร็จ
1. เตรียมตัวศึกษาเนื่อหาบทเรียน ก่อนเข้าเรียนหรือไม่
ใช่: ศึกษาเนื้อหาล่วงหน้า ทำให้เข้าใจบทเรียนได้เร็วขึ้น ถามคำถามที่สงสัย และมีส่วนร่วมในชั้นเรียน
ไม่: อาจจะเข้าใจบทเรียนได้ยากตามไม่ทันเพื่อน และอาจจะพลาดเนื้อหาสำคัญ
2. เข้าใจสิ่งที่ครูสอนทั้งหมดในทั้งเรียน ทั้งที่มาที่ไป จำได้ และ นำไปประยุกต์ต่อยอดได้ทันทีหรือไม่
ใช่: เข้าใจเนื้อหาอย่างลึกซึ้ง จำเนื้อหาสำคัญ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ใหม่ ๆ ได้
ไม่: อาจจะเข้าใจเนื้อหาแค่ผิวเผิน จำเนื้อหาสำคัญไม่ได้ และไม่สามารถนำไปประยุกต์ใช้
3. ทบทวนสิ่งที่เรียนรู้ ภายใน 1 สัปดาห์หลังเรียนไปแล้วหรือไม่
ใช่: ช่วยให้จดจำเนื้อหาได้ยาวนาน เข้าใจเนื้อหาอย่างลึกซึ้ง และเตรียมตัวสำหรับการสอบ
ไม่: อาจจะลืมเนื้อหาที่เรียนไป จำเนื้อหาสำคัญไม่ได้ และอาจจะทำคะแนนสอบได้ไม่ดี
4. ทำ Note สรุปความเข้าใจในสิ่งที่ได้เรียนไป เพื่อให้จดจำได้ และนำไปต่อยอดกับเรื่องอื่น ๆ ได้ ด้วยตัวเองหรือไม่
ใช่: ช่วยให้จดจำเนื้อหาได้ดีขึ้น เข้าใจเนื้อหาอย่างลึกซึ้ง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเรื่องอื่น ๆ ได้
ไม่: อาจจะจดจำเนื้อหาได้ไม่ดี เข้าใจเนื้อหาแค่ผิวเผิน และไม่สามารถนำไปประยุกต์ใช้
5. ทำการบ้านที่รับมอบหมายด้วยตัวเอง และเข้าใจข้อที่ผิดทั้งหมดแล้วหรือไม่
ใช่: ช่วยให้เข้าใจเนื้อหาอย่างลึกซึ้ง ฝึกฝนทักษะ และเตรียมตัวสำหรับการสอบ
ไม่: อาจจะเข้าใจเนื้อหาไม่ดี ฝึกฝนทักษะไม่เพียงพอ และอาจจะทำคะแนนสอบได้ไม่ดี
6. หาแบบฝึกหัด หรือได้ทำ แบบฝึกหัดเพิ่มเติม ในเรื่องที่เรียนไปเพื่อฝึกฝนทักษะหรือไม่
ใช่: ช่วยให้ฝึกฝนทักษะจนคล่องแคล่ว เข้าใจเนื้อหาอย่างลึกซึ้ง และเตรียมตัวสำหรับการสอบ
ไม่: อาจจะฝึกฝนทักษะไม่เพียงพอ เข้าใจเนื้อหาแค่ผิวเผิน และอาจจะทำคะแนนสอบได้ไม่ดี
7. ใช้เวลาทบทวนเนื้อหาทั้งก่อนเรียน และหลังเรียน ในแต่ละบทก่อนสอบ เป็นเวลา เท่ากับหรือมากกว่าเวลาที่ใช้เรียนในห้องเรียนหรือไม่
ใช่: ช่วยให้จดจำเนื้อหาได้ดี เข้าใจเนื้อหาอย่างลึกซึ้ง และเตรียมตัวสำหรับการสอบ
ไม่: อาจจะจดจำเนื้อหาได้ไม่ดี เข้าใจเนื้อหาแค่ผิวเผิน และอาจจะทำคะแนนสอบได้ไม่ดี
การวัดผลทางการเรียนที่ดี ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคะแนนสอบเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับความเข้าใจเนื้อหา ทักษะ และความสามารถในการนำไปประยุกต์ใช้ การประเมินตัวเองเป็นประจำ ช่วยให้นักเรียนรู้จุดอ่อนและจุดแข็งของตัวเอง พัฒนาการเรียนรู้ และประสบความสำเร็จ
การประสบความสำเร็จในการเรียน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ แต่ขึ้นอยู่กับความพยายามและวินัย ทุกคนสามารถเรียนเก่งได้ สิ่งสำคัญคืออย่ายอมแพ้และอย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น จงมุ่งมั่นตั้งใจ พัฒนาตัวเอง เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ
"ความขยัน" และ "ความตั้งใจ" จะนำพาไปสู่ "ความสำเร็จ"