Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

การวางแผนและการกำหนดเป้าหมาย

Posted By Plook TCAS | 12 มี.ค. 67
1,576 Views

  Favorite

           การวางแผนและการกำหนดเป้าหมาย เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเรียนมัธยม ช่วยให้นักเรียนมีเป้าหมายที่ชัดเจน  จัดการเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ  และประสบความสำเร็จในชีวิต

 

1. การกำหนดเป้าหมาย

SMART เป็นหลักการกำหนดเป้าหมายที่ช่วยให้เป้าหมายของเรา มีประสิทธิภาพ  บรรลุผล  และ วัดผลได้  โดยย่อมาจาก

S - Specific (เฉพาะเจาะจง)
- เป้าหมายควร ชัดเจน ไม่คลุมเครือ
- ระบุ รายละเอียด เงื่อนไข ข้อจำกัด
- ตัวอย่าง: "ลดน้ำหนัก 5 กิโลกรัมภายใน 3 เดือน" ดีกว่า "ลดน้ำหนัก"

M - Measurable (วัดผลได้)
- เป้าหมายควร วัดผลได้ มีตัวชี้วัด
- ตัวชี้วัดควร เป็นรูปธรรม เปรียบเทียบได้
- ตัวอย่าง: "เพิ่มยอดขาย 20% จากไตรมาสก่อนหน้า" ดีกว่า "เพิ่มยอดขาย"

A - Achievable (ทำได้)
- เป้าหมายควร ท้าทาย แต่ เป็นไปได้
- พิจารณา ทรัพยากร ความสามารถ เวลา
- ตัวอย่าง: "เรียนจบปริญญาโทภายใน 2 ปี" ดีกว่า "เรียนจบปริญญาโทภายใน 1 ปี"

R - Relevant (เกี่ยวข้อง)
- เป้าหมายควร สอดคล้อง กับ เป้าหมายใหญ่ ความต้องการ ศักยภาพ
- ตัวอย่าง: "ฝึกภาษาอังกฤษเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย" ดีกว่า "ฝึกภาษาอังกฤษ"

T - Time-bound (มีกรอบเวลา)
- เป้าหมายควรมี กรอบเวลา กำหนดเสร็จสิ้น
- ช่วยให้ วางแผน ติดตามผล จัดการเวลา
- ตัวอย่าง: "เก็บเงิน 100,000 บาทภายใน 1 ปี" ดีกว่า "เก็บเงิน"

 

ตัวอย่างการใช้ SMART

เป้าหมาย: "ต้องการมีสุขภาพดี"

SMART Goal: "ออกกำลังกาย 30 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ทานผักผลไม้ 5 มื้อต่อวัน นอนหลับ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน ภายใน 3 เดือน"

ข้อดีของ SMART
- ช่วยให้ มีเป้าหมายที่ชัดเจน วัดผลได้ บรรลุผล
- ช่วยให้ วางแผน ติดตามผล จัดการเวลา
- ช่วยให้ มีแรงจูงใจ มุ่งมั่น ประสบความสำเร็จ

 

2. การวางแผน

แบ่งเป้าหมายใหญ่เป็นเป้าหมายย่อย

- เริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าหมายใหญ่ของคุณ เช่น "อยากได้เกรดเฉลี่ย 4.0" หรือ "อยากเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำ"

- แบ่งเป้าหมายใหญ่ลงเป็นเป้าหมายย่อยที่ achievable มากขึ้น เช่น "ทำคะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร์ให้ได้ 80%" หรือ "เข้าร่วมกิจกรรม extracurricular 2 กิจกรรม"

- เขียนเป้าหมายย่อยของคุณลงบนกระดาษหรือแอปพลิเคชั่น เพื่อติดตามความคืบหน้า

กำหนดกิจกรรมที่จะทำ

- ระบุกิจกรรมที่คุณต้องทำเพื่อบรรลุเป้าหมายย่อยแต่ละข้อ เช่น "อ่านหนังสือคณิตศาสตร์ 1 ชั่วโมงต่อวัน" หรือ "ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับเพื่อน 30 นาทีต่อวัน"

- เขียนรายละเอียดของกิจกรรม เช่น หัวข้อที่จะเรียน เนื้อหาที่ต้องฝึก รูปแบบการฝึก

กำหนดเวลา

- กำหนดตารางเวลาที่ชัดเจนสำหรับการทำกิจกรรม each

- แบ่งเวลาอย่างเหมาะสมให้กับแต่ละกิจกรรม โดยคำนึงถึงเวลาเรียน เวลาส่วนตัว และเวลาพักผ่อน

- ยืดหยุ่นตารางเวลาตามความเหมาะสม แต่ควรมีวินัยในการปฏิบัติตาม

กำหนดทรัพยากร

- ระบุทรัพยากรที่คุณต้องการเพื่อบรรลุเป้าหมาย เช่น หนังสือเรียน อุปกรณ์การเรียน คอมพิวเตอร์ หรือติวเตอร์

- หาวิธีเข้าถึงทรัพยากรเหล่านั้น เช่น ยืมจากห้องสมุด ซื้อ หรือหาทุนการศึกษา

 

ตัวอย่าง

เป้าหมายใหญ่: ได้เกรดเฉลี่ย 4.0

เป้าหมายย่อย
- ทำคะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร์ให้ได้ 80%
- เขียนเรียงความภาษาไทยได้คะแนนดี
- เข้าร่วมกิจกรรม extracurricular 2 กิจกรรม

 

3. ลงมือทำตามแผนที่วางไว้

มุ่งมั่น

- ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและท้าทาย

- คิดบวก มองโลกในแง่ดี

- เชื่อมั่นในตัวเอง

- มองหาแรงบันดาลใจ

- ตั้งรางวัลให้ตัวเอง

อดทน

- เข้าใจว่าความสำเร็จต้องใช้เวลา

- เผชิญความท้าทายด้วยความใจเย็น

- เรียนรู้จาก mistakes

- ไม่ล้มเลิกง่ายๆ

- มองหาความช่วยเหลือเมื่อจำเป็น

มีวินัย

- ปฏิบัติตามแผนอย่างสม่ำเสมอ
- จัดลำดับความสำคัญ
- จัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ
- ฝึกฝนทักษะการจัดการตัวเอง
- หลีกเลี่ยง distractions

 

4. ตรวจสอบและประเมินผล

ตรวจสอบความคืบหน้า

- กำหนดวิธีการติดตามความคืบหน้า เช่น จดบันทึก ใช้แอปพลิเคชั่น หรือสร้างตาราง
- กำหนดระยะเวลาในการตรวจสอบ เช่น รายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน
- ตรวจสอบว่าบรรลุเป้าหมายย่อยหรือไม่
- วิเคราะห์สาเหตุของความสำเร็จหรือความล้มเหลว

ปรับแผนตามความจำเป็น

- ปรับเป้าหมายย่อยหรือกิจกรรมให้เหมาะสม
- ปรับตารางเวลา
- เปลี่ยนแปลงทรัพยากร
- หาวิธีแก้ไขปัญหา

 

ตัวอย่าง

ด้านครอบครัว

เป้าหมาย: ใช้เวลากับครอบครัวมากขึ้น

กิจกรรม: ทานข้าวเย็นด้วยกัน เล่นเกม ดูหนัง

เวลา: 2 ชั่วโมงต่อวัน

ด้านสุขภาพ

เป้าหมาย: ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

กิจกรรม: วิ่ง ว่ายน้ำ เล่นบาสเก็ตบอล

เวลา: 30 นาทีต่อวัน

ด้านไลฟ์สไตล์

เป้าหมาย: นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

กิจกรรม: เข้านอนเวลา 22.00 น. ตื่นนอนเวลา 6.00 น.

เวลา: 8 ชั่วโมงต่อวัน

ด้านการพัฒนาทักษะ

เป้าหมาย: เรียนภาษาอังกฤษ

กิจกรรม: เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ ดูหนังภาษาอังกฤษ

เวลา: 1 ชั่วโมงต่อวัน

ด้านการเรียน

เป้าหมาย: เรียนได้เกรดเฉลี่ย 3.5

กิจกรรม: ทบทวนบทเรียน ทำโจทย์ ติวหนังสือ

เวลา: 2 ชั่วโมงต่อวัน

ด้านทักษะอาชีพ

เป้าหมาย: เรียนรู้การเขียนโปรแกรม

กิจกรรม: เรียนเขียนโปรแกรมออนไลน์ ฝึกเขียนโปรแกรม

เวลา: 1 ชั่วโมงต่อวัน

 

ภาพรวมการแบ่งเวลาของตัวเองใน 1 วัน

06.00 น. - 07.00 น.: ตื่นนอน อาบน้ำ แต่งตัว ทานอาหารเช้า

07.00 น. - 08.00 น.: เดินทางไปโรงเรียน

08.00 น. - 15.00 น.: เรียนหนังสือ

15.00 น. - 16.00 น.: ทำกิจกรรม ที่สนใจ

16.00 น. - 17.00 น.: เดินทางกลับบ้าน

17.00 น. - 18.00 น.: ทานอาหารเย็น พักผ่อน

18.00 น. - 19.00 น.: พัฒนาทักษะ

19.00 น. - 20.00 น.: ทำการบ้าน

20.00 น. - 22.00 น.: ทบทวนบทเรียน เตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้

22.00 น.: เข้านอน

 

          การวางแผนและการกำหนดเป้าหมาย  ช่วยให้นักเรียนมัธยมประสบความสำเร็จในชีวิต  นักเรียนควรพยายามทำตามแผน อาจเปลี่ยนแปลงได้ ต้องปรับแผนให้เหมาะกับตัวเอง ไม่ควรเครียดจนเกินไป ตรวจสอบความคืบหน้า และปรับแผนตามความจำเป็น

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook TCAS
  • 29 Followers
  • Follow