อยากเรียนต่อด้านไหน อยากทำอาชีพอะไร คือโจทย์ท้าทายของเด็กที่ต้องเข้ามหาวิทยาลัย การตัดสินใจเลือกเป็นสิ่งที่ต้องทำ และเกิดความลังเลสูงมาก วิธีที่จะช่วยให้เราคัดกรอง และตัดสินใจเลือกได้ดีขึ้น คือการค้นหาตัวตนของตัวเองให้ดีในหลาย ๆ ด้าน จะมีวิธีอะไรบ้าง ศึกษาได้เลย
มีวิชาไหนบ้างที่เราชอบและถนัด วิชาไหนเราทำได้ดีและโดดเด่นที่สุด แยกประเภทเลยว่า เราเก่งวิชาหมวดไหน ระหว่างวิทย์หรือศิลป์ เพื่อรู้ความถนัดของเราว่าจัดอยู่ในหมวดไหน และสอดคล้องกับการเรียนในกลุ่มคณะไหน ซึ่งจะทำให้หาคณะเฉพาะทางได้มากขึ้น
ตัวตนของเราคืออะไร มีความชอบหรือไม่ชอบอะไร มีทักษะเรื่องไหนเด่นบ้าง จะช่วยให้เราแยกแยะได้ว่า ตัวตนของเราเหมาะกับอะไร ใช้เวลาอยู่กับสิ่งไหนแล้วมีความสุข ซึ่งความชอบและความถนัด จะเชื่อมโยงกับสิ่งที่เราเลือกเรียน สาขาที่เราถนัดคืออะไร เราจะสามารถหาความเชื่อมโยงได้มากขึ้น
สังเกตตัวเองว่า เรื่องไหนที่เราชอบดูหรือหาข้อมูล ให้ความสนใจในสิ่งนั้นมากเป็นพิเศษ ซึ่งสิ่งที่เราให้ความสนใจและมีความสุขสนการทำ ช่วยให้เรามองเห็นว่า คณะไหนบ้างที่มีการเรียนการสอน ใกล้เคียงกับกิจกรรมที่เราสนใจ
ลองไปเข้าค่ายเพื่อค้นหาคณะที่ใช่ ซึ่งค่ายต่าง ๆ เปิดเพื่อให้เราเข้าไปเรียนรู้การเรียนแต่ละคณะ ให้ได้เห็นเนื้อหาและรูปแบบการเรียนในคณะมากขึ้น ประโยชน์ของการเข้าค่ายคือ เราจะสามารถรับรู้ได้ว่า ในระหว่างกิจกรรมเข้าค่าย เรามีความสุข รู้สึกว่าใช่คณะเป็นตัวเราไหม ถ้าหากไม่ใช่ ก็กลับมาทบทวนตัวเองได้ว่า คณะไหนคือตัวตนและสิ่งที่เราจะสามรถเรียนได้บ้าง
ต้องมองตัวเองในอนาคตว่า อยากจะทำอาชีพอะไร เมื่อรู้อาชีพที่สนใจ เราก็จะสามารถเลือกคณะที่สอดคล้องต่อได้ เพราะการเรียนในมหาวิทยาลัย คือการเรียนในหลักสูตรที่ถูกผลิตมาเพื่อสอดคล้องกับอาชีพจริงในตลาดงาน ดังนั้นถ้าเรารู้ตัวเร็วว่า สนใจอาชีพไหน ก็สามารถเลือกสาขาที่ตรงกับอาชีพที่สนใจได้เลย
ลองทดสอบตัวเอง ด้วยการทำแบบทดสอบ เพื่อวิเคราะห์ตัวเอง ผลการทดสอบเป็นหนึ่งในแนวทาง ให้พบเจอตัวตน บุคลิกภาพ ความสนใจของเรา อาชีพไหนที่เราทำได้ดี คณะไหนที่สอดคล้องกับข้อมูลของผลการทำแบบทดสอบ เป็นหนึ่งในวิธีที่เรานำมาตรวจเช็คตัวเองได้ แต่ไม่ควรเชื่อแบบทดสอบ 100% เน้นนำผลมาประกอบการตัดสินใจเท่านั้น