Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

สมศ. เปิดแนวคิดการประกันคุณภาพภายนอกรูปแบบใหม่

Posted By Pimchanok Pangsoy | 12 ก.ย. 66
1,079 Views

  Favorite

สมศ. เปิดแนวคิดการประกันคุณภาพภายนอกรูปแบบใหม่ 

พร้อมเผยโฉมONESQA-V แอปพลิเคชันช่วยการประเมิน

นำร่องประสบการณ์ประเมินรูปแบบใหม่กับต้นแบบโรงเรียนวัดสันป่าค่า “จิ๋วแต่แจ๋ว”

 

สมศ. ปรับโฉมการประเมินคุณภาพสถานศึกษา ด้วยรูปแบบและวิธีการใหม่ พร้อมเปิดตัวแอปพลิเคชัน “ONESQA-V” ผู้ช่วยการประเมินภายนอกที่รวดเร็ว แม่นยำ ไม่เป็นภาระสถานศึกษาเปิดประสบการณ์การประกันคุณภาพภายนอกปีงบประมาณ พ.ศ.2567 กับโรงเรียนวัดสันป่าค่า จ.เชียงใหม่ ตัวอย่างอนุบาลที่จิ๋วแต่แจ๋ว

 

ดร.วรวิชช ภาสาวสุวัศรองผู้อำนวยการ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.)เปิดเผยว่า รูปแบบแนวทางการประกันคุณภาพภายนอก ปีงบประมาณ พ.ศ.2567 สมศ.ยังคงให้ความสำคัญกับการประกันคุณภาพภายนอกเพื่อการพัฒนาและยกระดับคุณภาพ (Quality Improvement) โดยกำหนดวิธีการประเมินที่เหมาะสมสอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออนไซต์ รวมถึงจำนวนวันประเมิน (1-3 วัน) ซึ่งระยะเวลาในการประเมินจะแตกต่างกันตามบริบทสถานศึกษาแต่ละกลุ่ม แต่ละประเภท นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้สนับสนุนการประเมินตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ ตลอดจนการนำข้อมูลสารสนเทศไปใช้ในการบริหารจัดการ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ พร้อมสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานต้นสังกัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดภาระของสถานศึกษาให้มากที่สุด

 

และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการประกันคุณภาพภายนอกในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 สมศ. ได้พัฒนาแอปพลิเคชัน ONESQA-V ช่วยให้การประเมินคุณภาพภายนอกสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น การบันทึกข้อมูลทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยลดปัญหาการร้องเรียนในกรณีต่างๆ อีกทั้งในกรณีที่เกิดการร้องเรียนก็สามารถตรวจสอบประวัติการดำเนินการผ่านแอปพลิเคชันได้ ซึ่งแอปพลิเคชันONESQA-V จะช่วยทำให้ สมศ. และหน่วยกำกับการประเมินคุณภาพภายนอกทราบการดำเนินงานของผู้ประเมินพร้อมกัน

 

สำหรับรายละเอียดการทำงานของONESQA-V สมศ.จะเปิดให้ผู้ประเมินดาวน์โหลดแอปพลิเคชันผ่านช่องทางที่กำหนด หลังจากนั้นผู้ประเมินสามารถล็อคอินเข้าระบบด้วยเลขที่บัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ และจะได้รับรหัส OTP ผ่านโทรศัพท์มือถือ หลังจากล็อคอินเรียบร้อยระบบจะแสดงข้อมูลเบื้องต้นของผู้ประเมิน และข้อมูลของสถานศึกษาและวัน เวลาที่ผู้ประเมินจะต้องลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ส่วนขั้นตอนการใช้แอปพลิเคชันเพื่อการบันทึกข้อมูลนั้นสามารถทำได้ทั้งแบบพิมพ์ข้อความและบันทึกผ่านเสียง โดยระบบจะแปลงเสียงเป็นไฟล์ข้อความ ซึ่งผู้ประเมินสามารถส่งรายละเอียดไปยังอีเมลเพื่อทำการแก้ไขรายงานสรุปได้ทันที ส่งผลให้งานการประเมินทำได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นลดความซ้ำซ้อนในการทำงาน และยังช่วยลดภาระงานของสถานศึกษาอีกด้วย

 

 

ปัจจุบัน แอปพลิเคชันONESQA-Vมีความสมบูรณ์พร้อมใช้งานแล้ว 90% ซึ่ง สมศ.จะเริ่มให้ผู้ประเมินใช้แอปพลิเคชันในกระบวนการประเมินอย่างเต็มรูปแบบกับสถานศึกษาจำนวน 4,220 แห่ง ตามแผนการประกันคุณภาพการศึกษาในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดย สมศ. ได้ทดลองนำร่องทั้ง 4 ระดับ ได้แก่ สถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย (ศูนย์พัฒนาเด็ก) จำนวน 5 แห่ง  สถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 17 แห่ง  สถานศึกษาด้านการอาชีวศึกษา จำนวน 9 แห่ง ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้เขตและอำเภอและสถานศึกษาขึ้นตรงจำนวน 10 แห่ง รวมทั้งสิ้น 41 แห่ง

 

“นอกจากการนำแอปพลิเคชันONESQA-V มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพให้กับการประเมินแล้ว สมศ.ยังได้พิจารณาปรับหลักเกณฑ์การประเมินรูปแบบใหม่เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับสถานศึกษา สามารถนำผลการประเมินไปใช้พัฒนาสถานศึกษาได้จริงโดยรูปแบบการประกันคุณภาพภายนอกปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 สมศ. มุ่งใช้หลักการประเมินเพื่อพัฒนาคุณภาพให้มีความสอดคล้องกับการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาและหน่วยงานต้นสังกัด โดยสถานศึกษาที่จะได้รับการประเมินคุณภาพภายนอก ต้องมีการรายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา (SAR) ให้หน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานที่กำกับดูแล เพื่อจัดส่งให้ สมศ. ใช้ในการประเมินคุณภาพภายนอกต่อไป” ดร.วรวิชช กล่าว

 

สำหรับ โรงเรียนวัดสันป่าค่า จ.เชียงใหม่ นับเป็นหนึ่งสถานศึกษานำร่องสำหรับการประกันคุณภาพรูปแบบใหม่ ในส่วนของสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัยที่มีการจัดการเรียนการสอนเพื่อมุ่งพัฒนาศักยภาพเด็กทุกด้าน ถือได้ว่าเป็นต้นแบบของโรงเรียนอนุบาลขนาดเล็กที่จิ๋วแต่แจ๋ว

 

นายสุวิทย์ มาทฤทธิ์ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสันป่าค่า จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า “หลักสูตรและรูปแบบการเรียนการสอนของโรงเรียนวัดสันป่าค่า มีเป้าหมายพัฒนาเด็กในวัย 3 ปี –6 ปี ให้มีความสมบูรณ์ทุกด้าน ทั้งร่างกาย จิตใจอารมณ์ สังคม และสติปัญญา โดยโรงเรียนเน้นให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ โดยใช้กิจกรรมเป็นฐานขับเคลื่อนในการพัฒนาเด็ก ผ่านโครงการ 1,000 วัน 1,000 กิจกรรม อาทิ กิจกรรมโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย กิจกรรมการขับเคลื่อนศิลปวัฒนธรรม และการแสดงตามแนวหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจะใช้ระยะเวลาใน
การเรียนรู้ตลอดทั้งปี ไม่ใช่เพียงแค่ช่วงเวลาเปิดภาคการศึกษาเท่านั้น เนื่องจากมองว่าเด็กนักเรียนไม่หยุด
การเจริญเติบโตทั้งทางร่างกายจิตใจสุขภาพสติปัญญา ดังนั้นสมควรต้องได้รับการพัฒนาต่อเนื่องไม่มีวันหยุดเช่นกัน”

 

และจากการที่โรงเรียนวัดสันป่าค่า เป็นสถานศึกษานำร่องสำหรับการประเมินคุณภาพรูปแบบใหม่จาก
สมศ. พบว่า กระบวนการประเมินคุณภาพภายนอกของ สมศ. มีความสะดวก รวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก โดยในการประเมินนั้นเป็นการลงพื้นที่เพื่อมาดูผลจริงในเชิงประจักษ์ โดยไม่ต้องเตรียมเอกสารเพื่อรองรับการประเมินคุณภาพภายนอกแต่อย่างใด ต่างจากในอดีตที่ต้องจัดเตรียมเอกสารซึ่งใช้ระยะเวลามากกว่า ส่วนผู้ประเมินภายนอกที่เป็นผู้แทน สมศ.นั้น นับว่ามีความเป็นกัลยาณมิตรและได้ให้คำแนะนำที่ดี กับสถานศึกษาเรียกได้ว่าเป็นการประเมินที่มีความสอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ขณะที่ผลการประเมินและข้อเสนอแนะที่ได้รับจากการประเมินคุณภาพสามารถนำมาปรับใช้ได้จริงเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีส่วนช่วยให้โรงเรียนได้รับการยอมรับให้เป็นโรงเรียนอนุบาลจิ๋วแต่แจ๋วต่อไป

 

ทั้งนี้ สิ่งที่อยากฝากสำหรับสถานศึกษาอื่นๆ คือ ขอให้เตรียมความพร้อมสำหรับการประเมินภายนอก
ในรอบใหม่ หากมีหลักสูตรหรือแนวการเรียนการสอนที่โดดเด่นและให้ผลที่ออกมาชัดเจนและเป็นรูปธรรม ภายใต้การบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น ชุมชน คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ กำหนดคุณลักษณะของเด็กนักเรียนซึ่งเป็นบุตรหลานในพื้นที่ ก็จะทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Pimchanok Pangsoy
  • 1 Followers
  • Follow