Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

Portfolio สอบเข้าหมอ เตรียมยังไง

Posted By Plook TCAS | 26 ก.ค. 66
3,590 Views

  Favorite

          รอบ Portfolio ก็เปิดรับสมัครคณะแพทย์เหมือนกัน ใครอยากเป็นหมอต้องศึกษาการทำ Portfolio ให้ดีว่าต้องทำแบบไหน เตรียมตัวยังไง ถึงจะได้คะแนนจากกรรมการ และมีโอกาสได้ที่เรียนตั้งแต่ TCAS รอบที่ 1 มาดูวิธีการที่พี่ปลูกนำมาฝากกันเลย

 

1. เตรียมผลงาน

          การเตรียมผลงานเป็นเรื่องสำคัญมากที่ต้องมี และในการเข้าแพทย์ต้องมีผลงานที่โดดเด่น ตรงกับอาชีพด้านการแพทย์อย่างชัดเจน เพราะการพิจารณาของกรรมการให้คะแนนในเรื่องนี้สูงมาก การมีจุดเด่นด้านนี้ชัดเจนจะทำให้ได้เปรียบเรื่องคะแนน ผลงานเยอะเท่าไหร่ยิ่งดีและควรต้องเกี่ยวข้องกับคณะแพทย์ด้วย อย่าใส่ผลงานที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงลงไปเยอะ เพราะนอกจากเปลืองพื้นที่แล้ว ยังไม่ได้รับคะแนนจากกรรมการอีกด้วย 

 

ตัวอย่างผลงานที่ควรมี

- แข่งขันโอลิมปิกวิชาการ สอวน.     

- แข่งขันวิชาการ กลุ่มวิทยาศาสตร์

- แข่งขันอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์

- แข่งขันตอบปัญหาวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ 

- ผลงานวิชาการด้านวิทยาศาสตร์

- คะแนนทักษะภาษาอังกฤษ เช่น TOEFL, TOEIC, IELTS, CU-TEP, TU-GET 

- คะแนนสอบ BMAT 

- โครงงานวิทยาศาสตร์

- วิจัยด้านวิทยาศาสตร์ 

 

2. เตรียมกิจกรรม 

          ควรต้องมีกิจรรมที่เกี่ยวกับทางการแพทย์ ที่เคยเข้าร่วมใส่ลงไปด้วย เพื่อการันตีว่าเรามีประสบการณ์ ได้เรียนรู้งานในสายอาชีพนี้มาแล้ว และผ่านบททดสอบระดับต้นมาว่า สามารถเรียนในด้านนี้ได้ เช่น ลองทำกิจกรรม ต้องเจอเลือด เจอภาวะกดดันเรื่องชีวิตและการเจ็บป่วยของคน ต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมสติ ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เป็นต้น นี่คือสิ่งสำคัญที่จะต้องไปเจอในการทำอาชีพแพทย์จริง ๆ ในอนาคต การทำกิจกรรมด้านการแพทย์มา เป็นเครื่องยืนยันให้กรรมการเห็นว่า น้องเหมาะสมที่จะได้รับการคัดเลือก และเรียนต่อในคณะแพทย์ได้ พร้อมที่จะเป็นแพทย์ที่ดีสร้างประโยชน์ในอนาคตให้กับสังคมได้ ม.ปลาย ที่เตรียมเข้าแพทย์ ควรหาเวลาลงไปทำกิจกรรมเหล่านี้ เพื่อเก็บเป็นผลงานใส่ Portfolio

 

ตัวอย่างกิจกรรมที่ควรทำ และได้รับคะแนนจากกรรมการ

- จิตอาสาด้านการแพทย์ ทั้งในโรงพยาบาลและภาคเอกชน

- บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม เช่น อาสาสมัคร กิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้ 

- บริจาคโลหิต

- บริจาคร่างกาย

- กิจกรรมใช้ทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อื่น 

- งานดูแลผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บ ในมูลนิธิต่าง ๆ

 

3. เตรียมการ Workshop

          ควรเข้าค่ายเตรียมตัวการเป็นแพทย์ เพื่อเรียนรู้ขั้นตอนการเป็นแพทย์พื้นฐาน ได้ฝึกสิ่งที่ต้องเรียนและต้องทำในอาชีพจริง เช่น การผ่า การเย็บ การตรวจร่างกาย การปฐมพยาบาล การช่วยเหลือผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บ ค่ายด้านวิทยาศาสตร์ และวิทยาศาสตร์การแพทย์ คือค่ายที่ควรเข้าร่วม เผื่อให้มีประสบการณ์ เป็นข้อมูลสำคัญมาก ที่จะได้รับคะแนนจากกรรมการ เป็นสิ่งที่กรรมการมองหาในตัวผู้สมัคร ถ้ามีประวัติด้านนี้ที่หลากหลายในสายงานการแพทย์และวิทยาศาสตร์ เราก็จะได้เปรียบผู้สมัครคนอื่น และได้รับการคัดเลือกจากกรรมการ

 

ตัวอย่างกิจกรรม Workshop ที่ควรเข้าร่วม

- ค่ายเรียนรู้เฉพาะด้าน (แพทย์ / ทันตะ / เภสัช / สัตวแพทย์)

- ค่ายวิทยาศาสตร์

- ค่ายวิชาการ

- กิจกรรมเรียนรู้ศึกษาดูงานในโรงพยาบาล สถานพยาบาล หรือคลินิก 

- อบรมเกี่ยวกับด้านการแพทย์ เช่น การฝึกอบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้น 

- การสอบวัดทักษะด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์

 

4. เตรียมความสามารถพิเศษ / กิจกรรมอื่น ๆ 

          นอกจากกิจกรรมที่เกี่ยวกับการแพทย์และวิทยศาสตร์ ก็ควรมีทักษะด้านอื่น ที่ช่วยเสริมการทำงานในสายอาชีพนี้ติดตัวด้วย เพราะความรู้อย่างเดียวไม่พอ หน้างานจริงต้องใช้ทักษะการเอาตัวรอดหลายด้านเข้ามาประกอบ การจะช่วยเหลือผู้ป่วยได้ ต้องมีมากกว่าแค่ความรู้ ทักษะรอบด้านเพื่อแก้ไขสถานการณ์ชีวิตเฉพาะหน้า จำเป็นที่ต้องมีติดตัว กรรมการก็มีเกณฑ์ให้คะแนนเสริมด้านนี้ด้วยเช่นกัน

 

ตัวอย่างทักษะที่ควรตมีติดตัว

- ทักษะการสื่อสารที่ดี 

- ทักษะการทำงานเป็นทีม

- ทักษะด้านศิลปะ เช่น การวาดรูป สามารถใช้อธิบาทางการแพทย์ได้

- ทักษะถ่ายภาพ ใช้ในการถ่ายหลักฐานทางการแพทย์และทำวิจัยได้

- ทักษะด้านกีฬา เช่น การว่ายน้ำ การวิ่ง สำคัญในการใช้ช่วยเหลือผู้ป่วย

- ทักษะด้านดนตรี ดนตรีบำบัดสามารถใช้รักษาผู้ป่วยได้ งานด้านจิตเวช ก็สามารถใช้ได้

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook TCAS
  • 29 Followers
  • Follow