พินัยกรรม คือ เอกสารที่ใช้ระบุถึงความต้องการของเจ้ามรดก เมื่อเสียชีวิตไปแล้วต้องการมอบทรัพย์สินให้ใครบ้าง ทั้งนี้พินัยกรรมจะต้องทำตามรูปแบบที่กฎหมายกำหนด จึงจะมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย โดยผู้ทำจะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
• มีอายุครบ 15 ปีขึ้นไป
• ไม่ถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ
• มีสติสัมปชัญญะครบถ้วนในขณะที่ทำพินัยกรรม
พินัยกรรมที่ถูกต้องตามกฎหมาย (ป.พ.พ. มาตรา 1646 – 1648) จะมีทั้งหมด 5 แบบ ดังนี้
1. พินัยกรรมแบบธรรมดา (ป.พ.พ. มาตรา 1656)
2. พินัยกรรมเขียนเองทั้งฉบับ (ป.พ.พ. มาตรา 1657)
3. พินัยกรรมทำเป็นเอกสารฝ่ายเมือง (ป.พ.พ. มาตรา 1658)
4. พินัยกรรมทำเป็นเอกสารลับ (ป.พ.พ. มาตรา 1660)
5. พินัยกรรมทำด้วยวาจา (ป.พ.พ. มาตรา 1663)
พินัยกรรมทั้ง 5 แบบนี้ จะต้องไปทำที่อำเภอหรือเขต 3 แบบ คือ แบบที่ 3, 4 และ 5 ส่วนแบบที่ 1 และ 2 เราสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นพินัยกรรมแบบที่นิยมทำกัน บทความนี้จะมาบอกวิธีเขียนพินัยกรรมแบบธรรมดาและพินัยกรรมแบบเขียนเองทั้งฉบับ ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
1. ต้องทำเป็นหนังสือ โดยจะเขียนหรือพิมพ์ก็ได้ (จะเขียนหรือพิมพ์เป็นภาษาไทยหรือภาษาต่างประเทศก็ได้)
2. ต้องลงวัน เดือน ปี ในขณะที่ทำ เพื่อพิสูจน์ความสามารถของผู้ทำ
3. ผู้ทำพินัยกรรมต้องลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าพยานอย่างน้อยสองคนพร้อมกัน จะลงลายมือชื่อหรือพิมพ์นิ้วมือก็ได้ แต่จะใช้ตราประทับแทนการลงชื่อหรือเครื่องหมายแกงได*ไม่ได้ และพยานที่จะลงลายมือชื่อในพินัยกรรมจะพิมพ์ลายนิ้วมือหรือใช้ตราประทับ หรือลงแกงได หรือลงเครื่องหมายอย่างอื่นแทนการลงชื่อไม่ได้ จะต้องลงลายมือชื่อเท่านั้น
4. การขูด ลบ ตก เติม หรือการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างอื่น จะส่งผลให้พินัยกรรมนั้นย่อมไม่สมบูรณ์ เว้นแต่ในขณะ ที่ขูด ลบ ตกเติม หรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงนั้น ได้ลงวัน เดือน ปี และผู้ทำพินัยกรรมต้องลงลายมือชื่อ หรือพิมพ์นิ้วมือต่อหน้าพยานอย่างน้อยสองคนพร้อมกัน และพยานอย่างน้อยสองคนนั้นต้องลงลายมือชื่อรับรองลายมือชื่อของผู้ทำพินัยกรรมในขณะนั้น (ต้องเป็นพินัยกรรมแล้ว) ลายพิมพ์นิ้วมือของผู้เป็นโรคเรื้อน (ไม่มีลายนิ้วมือ) หากมีพยานลงลายมือชื่อรับรองถูกต้องย่อมใช้ไม่ได้
*เครื่องหมายแกงได คือ รอยขีดเขียนซึ่งบุคคลทำไว้เป็นสำคัญแทนการลงลายมือชื่อ
1. ต้องทำเป็นเอกสาร คือ ทำเป็นหนังสือ โดยจะใช้ภาษาไทยหรือภาษาต่างประเทศก็ได้
2. ผู้ทำพินัยกรรมต้องเขียนด้วยลายมือของตนเองทั้งฉบับจะพิมพ์ไม่ได้ เพราะฉะนั้นผู้เขียนหนังสือไม่ได้ จะไม่สามารถทำพินัยกรรมแบบนี้ได้ พินัยกรรมแบบเขียนเองทั้งฉบับจะมีพยานหรือไม่มีก็ได้ เพราะกฎหมายไม่ได้ห้ามไว้
3. ต้องลงวัน เดือน ปี ในขณะที่ทำลงเพื่อพิสูจน์ความสามารถ และการทำก่อนหลังฉบับอื่น
4. ต้องลงลายมือชื่อผู้ทำพินัยกรรมเท่านั้น จะใช้ลายพิมพ์นิ้วมือ หรือแกงได* หรือเครื่องหมายอย่างอื่นแทนไม่ได้
5. การขูด ลบ ตก เติม หรือการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ จะทำให้พินัยกรรมนั้นย่อมไม่สมบูรณ์ เว้นแต่ผู้ทำพินัยกรรมจะได้ทำด้วยมือตนเอง และลงลายมือชื่อกำกับไว้
6. หากมีการขูด ลบ ตก เติม หรือการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ที่มิได้ทำด้วยตนเอง หรือลงลายมือชื่อกำกับไว้เท่านั้นที่ไม่สมบูรณ์ ส่วนข้อความเดิมหรือพินัยกรรมยังคงใช้บังคับได้ตามเดิม ไม่ทำให้โมฆะทั้งฉบับ
*เครื่องหมายแกงได คือ รอยขีดเขียนซึ่งบุคคลทำไว้เป็นสำคัญแทนการลงลายมือชื่อ
ส่วนพินัยกรรมแบบอื่น ๆ เช่น พินัยกรรมทำเป็นเอกสารฝ่ายเมือง (ป.พ.พ. มาตรา 1658), พินัยกรรมทำเป็นเอกสารลับ (ป.พ.พ. มาตรา 1660) และพินัยกรรมทำด้วยวาจา (ป.พ.พ. มาตรา 1663) จะต้องไปยื่นคำร้องขอให้นายอำเภอหรือผู้อำนวยการเขต ณ อำเภอหรือเขตใดก็ได้ดำเนินการให้ จึงจะถือว่าเป็นพินัยกรรมที่สมบูรณ์และถูกต้องตามกฎหมาย
• พินัยกรรมเป็นนิติกรรมที่ต้องทำตามแบบที่กำหนดเท่านั้น
• ต้องเขียน วัน เดือน ปี ลงลายมือชื่อทั้งผู้ทำพินัยกรรมและผู้ที่เป็นพยาน
• ผู้ที่เป็นพยานจะต้องไม่เป็นผู้เยาว์หรือผู้หย่อนความสามารถ และต้องไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในกองมรดกนั้นด้วย
• ผู้ที่เป็นพยานในการทำพินัยกรรมจะไม่มีสิทธิได้รับมรดกในพินัยกรรมนั้น
• ผู้ทำพินัยกรรมต้องมีอายุ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
• พินัยกรรมควรจะตั้งผู้จัดการมรดกโดยสามารถระบุผู้ทำหน้าที่ผู้จัดการมรดกที่เจ้ามรดกไว้ใจลงในพินัยกรรมไปได้เลย
• สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบ ก็สามารถกำหนดในพินัยกรรมได้
• ทรัพย์สินที่ระบุในพินัยกรรมต้องเป็นทรัพย์สินหรือสิทธิของผู้ทำพินัยกรรมเท่านั้น โดยต้องแยกสินส่วนตัวออกจากสินสมรสด้วย
• เงินประกันชีวิต เงินบำเหน็จตกทอด เงินมีบำนาญตกทอด เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ตกทอด ไม่อาจเป็นมรดกที่ระบุลงในพินัยกรรมได้ เพราะไม่ใช่ทรัพย์ที่เจ้ามรดกมีอยู่ก่อนตาย
แหล่งข้อมูล
- เขียนพินัยอย่างไร ถูกใจ ถูกกฎหมาย