เด็ก ๆ กับการตื่นเช้าไปโรงเรียน บางครั้งก็เป็น Moment ที่วุ่นวายสำหรับคุณพ่อคุณแม่ แต่บางครั้งอาจจะไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย ถ้าเด็กได้รับการปลูกฝังสร้างนิสัยอยากไปโรงเรียน
ภารกิจร่วมกันของผู้ปกครองและลูก สุดแสนจะสนุกสนานและอบอุ่น ตั้งแต่รับอรุณกันเลยทีเดียว แม้ผู้ปกครองบางท่านอาจจะบอกว่า สนุกไม่ค่อยออกเลย เพราะไหนจะต้องเรียก ปลุก ลุก ล้ม กลิ้งเกลือก เลื่อนไถโทรศัพท์ ติดการ์ตูน ติดน้องตุ๊กตุ่นตุ๊กตา ติดสัตว์เลี้ยงแสนรักอยู่ กว่าจะแยกเจ้าตัวน้อยให้หลุดออกจากสิ่งเหล่านี้ได้ เล่นเอาผู้ปกครองหลาย ๆ ท่านหัวเสียกันเลยทีเดียว แถมเด็กบางคนเกิดอาการงอแงหงุงหงิง หงุดหงิดร้องไห้ มีอาการปวดหัวปวดท้องขึ้นมา แบบนี้งานเข้าคุณแม่คุณแม่แต่เช้าเลยค่ะ
แต่ไม่ใช่เด็กทุกคนจะเป็นแบบนี้หรอกนะ บางคนรู้สึกตื่นเต้น อยากไปโรงเรียน ไปเจอเพื่อน เจอครู มีกิจกรรมใหม่ ๆ สนุก ๆ ที่เด็กชอบ แต่จะทำอย่างไร ให้ลูกของเราอยู่ในฟิลนี้ ลองมาดูวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยทำให้การไปโรงเรียนของลูก ไม่ใช่เรื่องปวดหัวของพ่อแม่ หรือความหมดสนุกของลูก
เมื่อใกล้ถึงเวลาเปิดเทอม ในห้วงเวลาที่พักผ่อนแสนสบาย เราชวนลูกคุยเรื่องโรงเรียนใหม่/เก่า เพื่อนใหม่/เพื่อนเก่า คุณครูคนใหม่/คนเก่า หนังสือเรียนเล่มใหม่ กิจกรรมใหม่ ฯลฯ เพื่อเปิดทางให้ลูกได้รู้จักกับโลกใบใหม่และการสร้างสัมพันธภาพใหม่กับบุคคลใหม่นอกครอบครัวอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อว่าเมื่อลูกไปเจอภาวะจริง บุคคลจริงที่โรงเรียน จะได้ไม่รู้สึกแปลกแยก อีกทั้งสามารถทำความคุ้นเคยและปรับตัวได้ง่ายขึ้น
สอนลูกให้รู้จักประโยชน์ของสุขนิสัยด้านนี้ ซึ่งช่วยในเรื่องการเจริญเติบโตของเด็ก ก่อนนอนให้ลูกมีส่วนร่วมในการจัดกระเป๋าเรียน ตรวจสอบการบ้านและงานที่คุณครูมอบหมายให้ทำเมื่อเปิดภาคเรียนแล้ว จัดชุดนักเรียน ชุดกีฬา ชุดลูกเสื้อเนตรนารี เตรียมพร้อมสำหรับวันใหม่ เพื่อให้ลูกรู้จักสร้างนิสัยดูแลตัวเอง และรักความเป็นระเบียบเรียบร้อยเกี่ยวกับการเรียน
สอนลูกให้รู้ถึงประโยชน์ของการเรียนหนังสือ การมีเพื่อนนักเรียนและการปฏิบัติตนกับเพื่อน ๆ วิชาต่าง ๆ ที่คุณครูสอนให้ที่โรงเรียน ฯลฯ หากลูกต้องการความช่วยเหลือหรือมีปัญหาที่เกิดจากความไม่รู้ ไม่เข้าใจ ให้ผู้ปกครองอธิบายให้เข้าใจแบบง่าย ๆ และปฏิบัติตามได้โดยไม่ยาก เพื่อสอนให้ลูกรู้ว่า ธรรมชาติของมนุษย์ย่อมต้องพบกับปัญหา ลูกจะได้ฝึกวิธีคิด การไตร่ตรอง และการแก้ปัญหาในชีวิตได้ตั้งแต่วัยเยาว์
ทั้งในเรื่องการเรียน การเล่นกับเพื่อน การเล่นเกมของโปรด การออกกำลังกาย การพักผ่อน และการนอนหลับ เพื่อให้ลูกเรียนรู้เรื่องสมดุลของชีวิต ผู้ปกครองอาจแบ่งเวลาในตอนเย็นหลังรับประทานอาหารเย็นแล้ว เดินเล่นย่อยอาหาร ที่เรียกว่า “เดินผึ่งพุง” เพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร และใช้เวลาแห่งความสุขที่ลูกได้ออกกำลังกายเบา ๆ กับพ่อแม่ และได้เดินเล่นพูดคุยกันในเรื่องราวที่เป็นสาระต่าง ๆ เหล่านี้
การกระทำสำคัญกว่าคำพูด พ่อแม่เป็นต้นแบบและเป็นกระจกเงาของลูก หากอยากให้ลูกนอนหัวค่ำ ตื่นแต่เช้า พ่อแม่ก็ควรทำเป็นตัวอย่าง หากต้องการช่วยลูกให้สร้างนิสัยอยากไปโรงเรียน ผู้ปกครองก็ต้องใส่ใจและมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับโรงเรียนและการเรียนของลูก อยากให้ลูกอ่านหนังสือและทบทวนวิชาที่คุณครูสอนมา ก็ควรอ่านหนังสือให้ลูกเห็น เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่น่าสนใจจากหนังสือให้ลูกฟัง หากมีโอกาส ลูกอาจจะขยายความรู้ต่อให้เพื่อน ๆ ในโรงเรียนหรือคุณครูฟังก็ได้ เมื่อลูกสนุกกับการใช้ชีวิตในโรงเรียน ลูกก็อยากไปโรงเรียน
เด็กทุกคนชอบที่จะให้ตัวเองเป็นคนสำคัญและมีบทบาท ชอบความสนุกและความสุข ผู้ปกครองจึงควรชี้แนะให้ลูกตระหนักถึงความสำคัญของ 3 คำนี้ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนของลูก เช่น ลูกเป็นเด็กนักเรียน จึงมีหน้าที่ไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน ต้องมีวินัยปฏิบัติตามกฎของโรงเรียน และมีความรับผิดชอบต่อตนเองในเรื่องการไปโรงเรียนและการเรียนหนังสือ ซึ่งเมื่อลูกเกิดความสนุกและมีความสุขในการกระทำ ลูกก็จะทำได้หรือทำได้ดี จึงควรค่าแก่คำชม และหากเป็นเรื่องสำคัญ ๆ อาจมีการมอบรางวัลเป็นกำลังใจให้บ้างตามสมควร
“นิสัย” คือสิ่งที่ต้องสร้างเสริมและฝึกฝน กลยุทธ์เล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ที่ช่วยลูกให้สร้างนิสัยอยากไปโรงเรียน เป็นการฝึกให้ลูกรู้จักโรงเรียนและการใช้ชีวิตในโรงเรียนอย่างมีตรรกะ ลูกเราจะซึมซับสิ่งดีงามไว้ในหัวสมองน้อย ๆ แล้วค่อย ๆ พัฒนาเมื่อเจริญวัยขึ้นไปเรื่อย ๆ ลูกจะเกิดความรู้สึกรักโรงเรียนและชีวิตในโรงเรียน มีสัมพันธภาพที่ดีกับคุณครูและเพื่อนนักเรียน ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ตัวลูกเองในภายภาคหน้าเมื่อเติบใหญ่ขึ้น เรามาช่วยลูกน้อยของเราให้สร้างนิสัยอยากไปโรงเรียนกันค่ะ
ณัณท์
แหล่งอ้างอิง: https://www.linkedin.com/pulse/back-school-how-help-your-children-you-form-good-habits-rubin Back to School: How to Help Your Children (and You) Form Good Habits.