ดาวพลูโตถูกค้นพบในปี 1930 โดยถูกนับเป็นหนึ่งในดาวเคราะห์ทั้งเก้าของระบบสุริยะ กระทั่งปี 2006 สหพันธ์ดาราศาสตร์สากล ได้กำหนดนิยามของดาวเคราะห์ใหม่ ดาวพลูโตจึงถูกลดสถานะลงให้เป็นเพียงดาวเคราะห์แคระ เนื่องจากมันมีวงโคจรซ้อนทับกับดาวเนปจูน ไม่สามารถนับเป็นดาวเคราะห์ได้ อย่างไรก็ตาม ดาวพลูโตก็ยังคงอยู่ในความสนใจของนักดาราศาสตร์ และมีการส่งยานอวกาศไปสำรวจเช่นเดียวกับดาวดวงอื่น ๆ ซึ่งมีความน่าสนใจไม่น้อยทีเดียว

1. ดาวพลูโตใช้เวลา 248 ปีบนโลก ในการโคจรรอบดวงอาทิตย์ ซึ่งถือว่าเป็นดาวเคราะห์แคระที่ใช้เวลานานที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับบรรดาดาวเคราะห์ทั้ง 8 ดวงในระบบสุริยะ

2. บนดาวพลูโตมีอุณหภูมิสูงที่สุดคือ -223 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิต่ำสุดคือ -233 องศาเซลเซียส

3. ดาวพลูโตใช้เวลา 6 วัน 9 ชั่วโมง 17 นาทีในการหมุนรอบตัวเอง 1 รอบ นั่นทำให้ 1 วันบนดาวพลูโตมี 153 ชั่วโมง ดังนั้น บนดาวพลูโต ดวงอาทิตย์จึงขึ้นและตกสัปดาห์ละครั้ง

4. การหมุนของดาวพลูโตหมุนไปในทิศทางตรงกันข้ามกับโลก ซึ่งหมายถึงดวงอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตกและตกทางทิศตะวันออก

5. พลูโตมีดวงจันทร์บริวารจำนวน 5 ดวง ได้แก่ คารอน (Charon) นิกซ์ (Nix) ไฮดรา (Hydra) เคอร์เบรอส (Kerberos) และ สติกซ์ (Styx)

6. ดวงจันทร์คารอน เป็นดวงจันทร์ที่มีขนาดใหญ่ประมาณครึ่งหนึ่งของดาวพลูโต การค้นพบดวงจันทร์ดวงนี้ ทำให้มนุษย์สามารถหามวลของดาวพลูโตได้ในที่สุด

7. แม้ว่าดวงจันทร์คารอนของดาวพลูโตจะดูใหญ่กว่าดวงจันทร์ของโลกประมาณเจ็ดเท่า แต่มันกลับมีความสว่างเท่ากัน

8. แสงอาทิตย์เดินทางมาถึงโลกของเราใช้เวลา 8 นาที ขณะที่เดินทางไปถึงดาวพลูโต ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง

9. ท้องฟ้าบนดาวพลูโตนั้นมืดมากจนสามารถมองเห็นดวงดาวได้ในระหว่างวัน

10. เนื่องจากดวงจันทร์คารอนและดาวพลูโตโคจรรอบกันและกัน จึงดูเหมือนดวงจันทร์นั้นหยุดนิ่งบนท้องฟ้าของดาวพลูโต

11. ระยะทางจากโลกไปถึงดาวพลูโต ระยะใกล้ที่สุดคือ 4.2 พันล้านกิโลเมตร และระยะไกลที่สุดคือ 7.5 พันล้านกิโลเมตร ยานอวกาศต้องใช้เวลาประมาณ 10 ปี กว่าจะไปถึงดาวพลูโต

12. แสงจากดวงอาทิตย์ไปถึงยังดาวพลูโต ทำให้บนดาวสว่างเท่ากับ 1/900 ของความสว่างบนโลก และดวงอาทิตย์ก็เป็นเพียงจุดเล็ก ๆ บนท้องฟ้าเหนือดาวพลูโต

13. บนดาวพลูโตมีบรรยากาศเบาบาง โดยประกอบไปด้วยไนโตรเจน มีเทน และคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นส่วนใหญ่ มีบรรยากาศหนาถึง 300 กิโลเมตร ซึ่งนับว่าหนามากเมื่อเทียบกับโลกที่มีบรรยากาศหนา 40 กิโลเมตรเท่านั้น

14. ดาวพลูโต มีมวลเพียง 0.04 เท่า ของดาวพุธ หรือถ้าเทียบกับดวงจันทร์ของโลก พลูโตมีมวลเพียง 0.2 เท่า เท่านั้น นับเป็นดาวที่มีมวลน้อยมาก

15. ดาวพลูโตมีขนาดของรัศมีดาวเท่ากับ 1,151 กิโลเมตร

16. นักดาราศาสตร์คาดว่า ดาวพลูโตอาจประกอบไปด้วยส่วนผสมของหิน 70 เปอร์เซ็นต์ และน้ำแข็ง 30 เปอร์เซ็นต์ โดยแกนกลางเป็นหินและล้อมรอบด้วยชั้นน้ำแข็งปกคลุม

17. ชื่อดาวพลูโตมาจากการเสนอของเด็กหญิงชาวอังกฤษวัย 11 ปีคนหนึ่งชื่อ เวเนเทีย เบอร์เนย์ โดยเป็นชื่อของเทพแห่งใต้พิภพของโรมัน นอกจากนี้อักษรภาษาอังกฤษสองตัวแรกของชื่อพลูโต คือ พี แอล ยังตรงกับอักษรนำของชื่อและสกุลของ เพอร์ซีวาล โลเวลล์ นักดาราศาสตร์ชาวอเมริกัน ผู้ตั้งข้อสังเกตของการมีอยู่ของดาวพลูโต

18. พื้นที่รูปหัวใจบนดาวพลูโต มีชื่อเรียกว่า "พื้นที่ทอมบอ" (Tombaugh Regio) มีความกว้างประมาณ 1,590 กิโลเมตร ซีกซ้ายของรูปหัวใจเป็นที่ราบต่ำที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งกว้างประมาณ 1,000 กิโลเมตร มีชื่อว่า ที่ราบต่ำสปุตนิก (Sputnik Planitia) ส่วนซีกขวาเป็นพื้นที่สูงขรุขระและปกคลุมไปด้วยไนโตรเจนและน้ำแข็งของไนโตรเจน

19. นิวฮอไรซันส์เป็นยานสำรวจดาวพลูโตลำแรก ที่ถูกส่งไปเพื่อปฏิบัติภารกิจสำคัญคือ ศึกษาดาวพลูโต ดาวบริวารของดาวพลูโต และแถบไคเปอร์ โดยการบินผ่านดาวพลูโตและวัตถุแถบไคเปอร์ (Kuiper Belt Object)