1. การรู้จักตนเอง
การรู้จักตนเองเป็นสิ่งแรกและเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำ โดยทำความเข้าใจและเรียนรู้เกี่ยวกับทักษะ ความสามารถ และจุดที่ต้องปรับปรุงของตนเอง เมื่อรู้จักตนเองดีแล้วจึงจะตอบคำถาม “อย่างไร” และ “ทำไม” ที่อยู่เบื้องหลังแรงจูงใจในตนเองและเป้าหมายของแรงจูงใจที่สำคัญได้
2. เริ่มวางแผนส่วนตัว
การวางแผนส่วนตัวเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในวิชาชีพและการประสบความสำเร็จ เราจะสามารถรักษาสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวกับชีวิตการทำงานได้ และจะรู้ว่าต้องเริ่มต้นที่ไหนและต้องการไปถึงจุดไหน
3. ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายทำให้สุขภาพกายของเราดีขึ้น การก้าวไปสู่เป้าหมายอื่น ๆ ก็จะดีขึ้นด้วย การทำงานหลังออกกำลังกายมีแนวโน้มที่จะทำให้เราพร้อมสำหรับการทำงานมากขึ้น ดังนั้น การออกกำลังกายจึงเป็นวิธีกระตุ้นตนเองให้พร้อมสำหรับการทำงานที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง
4. มีความมั่นใจในตนเอง
ความมั่นใจในตนเองเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรามีแรงจูงใจในตนเอง ความกลัวที่จะเสี่ยง กลัวทำผิดพลาด กลัวถูกเยาะเย้ย เป็นสิ่งที่ทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้น เราจึงต้องพัฒนาความมั่นใจในตนเองโดยเข้าใจตนเองให้มากขึ้น รู้จุดแข็งและจุดอ่อนของตนเอง แล้วพยายามใช้สิ่งเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์
5. เข้าใจถึงการบรรลุเป้าหมาย
พัฒนาระดับการรับรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกมีความสุข เข้าใจความฝันของตนเองและรับรู้สิ่งที่ตนเองต้องการจะประสบความสำเร็จเป็นพื้นฐานให้มีแรงจูงใจอยู่เสมอ
6. ตั้งเป้าหมายที่ทำได้จริง
การกำหนดเป้าหมายเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จ แรงจูงใจในตนเองจะเกิดขึ้นเมื่อได้ตระหนักว่าทุกอย่างนั้นสมเหตุสมผล การตั้งเป้าหมายช่วยให้รับรู้ถึงทักษะของตนเองและค้นพบพลังงานที่จะก้าวต่อไป และหากติดตามเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ เราก็จะเห็นภาพความสำเร็จนั้นได้อย่างรวดเร็ว
7. พัฒนาความฉลาดทางอารมณ์
ด้วยความฉลาดทางอารมณ์ ทำให้สามารถระบุและเข้าใจอารมณ์ ความรู้สึก และสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ความฉลาดทางอารมณ์ยังชี้ให้เห็นถึงการจัดการอารมณ์ของเรา การระบุ ทำความเข้าใจ และเคารพความแตกต่างของผู้คนที่คุณติดต่อด้วย สามารถช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ความพึงพอใจจากความสัมพันธ์เชิงบวกนี้จะช่วยกระตุ้นแรงจูงใจได้
8. อย่าหลุดโฟกัส
ความท้าทายนั้นเกิดขึ้นได้เสมอ แต่สิ่งสำคัญคืออย่าให้ความท้าทายเหล่านั้นรบกวนเราจนหลุดจากเป้าหมายไป ระวังสิ่งรบกวนและตั้งสติให้จดจ่ออยู่กับเป้าหมายของเรา
9. เรียนรู้ที่จะคิดบวก
การเรียนรู้ที่จะคิดบวกและฝึกฝนเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญต่อความสำเร็จ ทัศนคติเชิงบวกไม่เพียงแต่จะทำให้เราเผชิญกับความท้าทายตรงหน้า บรรลุเป้าหมายและไปได้ไกลขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างอารมณ์ขัน ความรู้สึกเชิงบวก และความรู้สึกผ่อนคลายกับเพื่อนร่วมงานอีกด้วย
10. ลงทุนในความสัมพันธ์
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม และเราต้องการคนอื่น ๆ เพื่อจะไปให้ถึงเป้าหมาย แบ่งปันปัญหา และแบ่งปันความสุข ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบุคคลต่าง ๆ มีผลต่อแรงจูงใจ
11. อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง
บางครั้งเราก็ปล่อยชีวิตของเราให้อยู่ในคอมฟอร์ตโซนนานเกินไป เพราะความสบาย โดยที่บางครั้งงานที่ทำอยู่นั้นไม่สร้างความพึงพอใจในอาชีพให้เราเลย ออกจากกรอบหรือพื้นที่เดิม ๆ โดยไม่ต้องกลัวการเปลี่ยนแปลง เพราะมันอาจจะช่วยผลักดันให้เราบรรลุเป้าหมายในที่สุด
นักสังคมสงเคราะห์
หัวใจหลักของการทำงานสังคมสงเคราะห์ คือ “การทำงานร่วมกับมนุษย์” เพื่อสนับสนุนให้เขาได้รับสวัสดิการสังคมในสิ่งที่เขาพึงมี พึงได้ เช่น สิทธิการรักษาพยาบาล สิทธิในการศึกษา สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ได้รับการบำบัดฟื้นฟู ตลอดจนสนับสนุนให้พวกเขาตระหนักถึงคุณค่าความเป็นมนุษย์ของตนเอง และดำเนินชีวิตโดยพึ่งพาตนเองได้อย่างปกติสุข นักสังคมสงเคราะห์จำเป็นต้องมีทักษะการสร้างแรงจูงใจในตนเอง เพื่อจะช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป
พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน
พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน มีหน้าที่หลักคือ ดูแลรักษาความปลอดภัยบนเครื่องบิน ตรวจเช็กอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร เพื่อให้ผู้โดยสารเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพ ส่วนหน้าที่รองลงมาคือช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารบนเครื่องบิน เช่น ตรวจสอบที่นั่งให้ผู้โดยสาร เสริฟอาหารและเครื่องดื่ม คอยดูแลเมื่อผู้โดยสารป่วยหรือต้องการความช่วยเหลือระหว่างบินจนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง