มีหลายเหตุผลที่น้องหมาจำเป็นต้องได้รับการถ่ายเลือดหรือให้เลือด สุนัขมีความรู้สึกไวต่อหลายสภาวะหรือโรคเช่นเดียวกับมนุษย์ เช่น ภาวะโลหิตจาง, ภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ, มะเร็งเม็ดเลือด หรือโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง และอาจจำเป็นต้องให้เลือดในระหว่างการผ่าตัดด้วย นอกจากนี้เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บ น้องหมาเองก็ต้องการเลือดในการช่วยเหลือชีวิตเช่นเดียวกับมนุษย์ ดังนั้นน้องหมาที่สุขภาพแข็งแรงสามารถบริจาคเลือดเพื่อช่วยชีวิตน้องหมาป่วยหรือบาดเจ็บได้เหมือนคนเรา แต่มีความแตกต่างบางประการที่เจ้าของจำเป็นต้องรู้ก่อนพาน้องหมาไปบริจาคเลือด
1. น้องหมาต้องมีสุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นโรคประจำตัว
2. ไม่เป็นโรคเรื้อรัง ไม่ป่วยโรคติดต่อทางเลือด หรือเป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบเลือด
3. มีอายุระหว่าง 1–8 ปี ไม่จำกัดเพศและพันธุ์
4. น้องหมาเพศเมียต้องไม่อยู่ในช่วงของการเป็นสัด (รอให้พ้นช่วงเป็นสัด 1-2 สัปดาห์)
5. น้องหมาเพศเมียต้องไม่อยู่ในช่วงตั้งท้อง ให้นมลูก หรือแท้งลูกในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
6. น้องหมาต้องมีน้ำหนัก 25 กิโลกรัมขึ้นไป
7. น้องหมาต้องฉีดวัคซีนครบ และฉีดกระตุ้นเป็นประจำทุกปี และควรเว้นระยะห่างหลังฉีดวัคซีนมาไม่น้อยกว่า 2-4 สัปดาห์ก่อนมาบริจาคเลือด
8. น้องหมาต้องไม่เคยได้รับการถ่ายเลือดมาก่อน
9. ไม่ได้รับการผ่าตัดใหญ่ในช่วง 1-2 เดือนก่อนบริจาคเลือด
10. ไม่มีเห็บหมัด
11 ไม่ได้รับยาฆ่าเชื้อ ยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ ในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนบริจาคเลือด
12. น้องหมาควรมีลักษณะนิสัยเป็นมิตร อารมณ์ดี ไม่ดุร้าย
1. ให้น้องหมาพักผ่อนอย่างเต็มที่และผ่อนคลาย
2. งดอาหารทุกชนิด 8-12 ชั่วโมงก่อนบริจาคเลือด แต่สามารถกินน้ำได้ปกติ
3. อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายน้องหมาให้เรียบร้อย
1. น้องหมามีกรุ๊ปเลือดแตกต่างกันเช่นเดียวกับมนุษย์ กรุ๊ปเลือดที่พบมากที่สุดในสุนัขคือ DEA 1.1 เป็นบวกและลบ
2. ปกติขั้นตอนการบริจาคเลือดใช้เวลาประมาณ 30 นาที โดยมีขั้นตอนดังนี้
2.1 ทำประวัติข้อมูล และแบบสอบถามความพร้อมของน้องหมาในการบริจาคเลือด
2.2 ชั่งน้ำหนัก และตรวจสุขภาพอย่างละเอียด เช่น วัดอุณหภูมิ ฟังเสียงปอดและหัวใจ เจาะเลือดตรวจสุขภาพเพื่อคัดกรอง หากสุขภาพดีก็สามารถบริจาคเลือดได้
2.3 น้องหมาบางตัวคุณหมออาจวางยาซึมเพื่อลดความกระวนกระวาย และป้องกันน้องดิ้นขณะเก็บเลือด
2.4 โกนขนบริเวณลำคอซึ่งเป็นเป็นบริเวณที่เหมาะสมที่ใช้ในการเจาะเลือดประมาณ 5 ซม. แล้วเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อ
2.5 เจาะเก็บเลือดประมาณ 350-450 ซีซี ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที
3. หลังเก็บเลือดแล้วสังเกตอาการน้องหมาหรือรอฟื้นจากยาซึมประมาณ 15-30 นาที
4. หลังบริจาคเลือดแล้ว น้องหมาควรพักผ่อนประมาณ 2-3 ชั่วโมง และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงประมาณหนึ่งหรือสองวัน
5. หลังบริจาคเลือดจะได้ยาบำรุงเลือดกลับมาให้น้องหมากินประมาณ 7-14 วัน
6. น้องหมาที่บริจาคเลือดจะได้บัตรประจำตัวผู้บริจาคเลือด หรืออาจได้ฉีดวัคซีนประจำปีฟรี
7. เลือดที่บริจาคสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 42 วัน และสามารถใช้ในการถ่ายเลือดได้หลายครั้ง
8. น้องหมาสามารถบริจาคเลือดได้สูงสุด 6 ครั้งต่อปี อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือต้องให้เวลาน้องหมาได้พักผ่อนระหว่างการบริจาคด้วย
1. ได้ช่วยชีวิตสุนัขตัวอื่น ประโยชน์หลักๆ ของการบริจาคเลือดสุนัข คือ การได้ช่วยเหลือชีวิตสุนัขตัวอื่นๆ ที่ต้องการการถ่ายเลือดเนื่องจากความเจ็บป่วยหรืออาการบาดเจ็บ
2. น้องหมามีสุขภาพแข็งแรง การบริจาคเลือดเป็นประจำทำให้มีการกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดใหม่ ซึ่งจะช่วยให้น้องหมาที่บริจาคมีสุขภาพดี อีกทั้งก่อนบริจาคเลือดจะมีการตรวจสุขภาพน้องหมาก่อน จึงช่วยในการตรวจหาปัญหาสุขภาพได้ตั้งแต่เนิ่นๆ
3. ได้รับสิทธิ์ในการดูแลรักษา หลายๆ คลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ให้สิทธิ์ส่วนลดหรือฟรีในการตรวจร่างกาย ตรวจเลือด หรือฉีดวัคซีน ให้กับน้องหมาที่บริจาคเลือด
4. สนับสนุนการวิจัยด้านสัตวแพทย์ การบริจาคเลือดของสุนัขสามารถนำมาใช้ในการวิจัยด้านสัตวแพทย์ เพื่อช่วยปรับปรุงการรักษาและค้นหมาวิธีการรักษาใหม่ๆ สำหรับโรคต่างๆ ได้
แหล่งที่มาข้อมูล
ManyPets, Irina Wells; Dog blood donation: what pet owners need to know, สืบค้นเมื่อ 5 พฤษภาคม 2566 จากเว็บไซต์: https://manypets.com/uk/
DogLike, มามะ ... พาน้องหมาไปบริจาคเลือดกัน, สืบค้นเมื่อ 5 พฤษภาคม 2566 จากเว็บไซต์: https://www.dogilike.com/
IVET Hospital, ศูนย์รับบริจาคเลือดสุนัข, แมว, สืบค้นเมื่อ 5 พฤษภาคม 2566 จากเว็บไซต์: https://www.ivethospital.com/