คาปิบาร่า (Capybara) สัตว์ฟันแทะขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกึ่งสัตว์น้ำ มีถิ่นกำเนิดอยู่ทางตอนเหนือและตอนกลางของอเมริกาใต้ มีรูปร่างลักษณะคล้ายหมู หรือหนูตะเภาตัวใหญ่ หูสั้น ไม่มีหาง อาศัยอยู่บนบกแต่มักใช้เวลาไม่น้อยในแต่ละวันอยู่ในน้ำ
ข้อเท็จจริงของคาปิบาร่า
ชื่อสามัญ : Capybara
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hydrochoerus hydrochaeris
ชื่ออื่น : หมูน้ำ (Water Hog)
ประเภท : สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
อาหาร : หญ้า พืชน้ำ เปลือกไม้
พฤติกรรมกลุ่ม : เป็นสัตว์สังคม ชอบอยู่รวมตัวกันเป็นฝูง
พฤติกรรมแปลก : กินอุจจาระตัวเอง
ลักษณะเด่น : ตา หู และรูจมูกอยู่บนหัว
ความสามารถ : ว่ายน้ำและดำน้ำเก่ง
ระยะตั้งครรภ์ : 150 วัน
ลักษณะทางกายภาพของคาปิบาร่า
สี : น้ำตาล, เทา, เหลือง, แดง
ประเภทผิว : ขน
ความเร็วสูงสุด : 22 ไมล์/ชั่วโมง
อายุขัย : 8 – 10 ปี
น้ำหนัก : 30 – 70 กก. (66 – 154 ปอนด์)
ขนาด : ความยาว 100 – 130 ซม. (39 – 51 นิ้ว)
อายุโตเต็มวัย : 17 – 19 เดือน
วัยหย่านม : 16 สัปดาห์
แม้จะมีขนาดใหญ่แต่จริงๆ แล้วเจ้าหนูยักษ์มีลักษณะนิสัยที่เชื่องมาก และมักถูกเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง คาปิบาร่าขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ที่เป็นมิตรและชอบเข้าสังคมมากที่สุดในตระกูลสัตว์ฟันแทะ จึงมักเห็นภาพพวกอยู่กับสัตว์อื่นๆ แม้แต่สัตว์ดุร้ายอย่างจระเข้ก็ตาม อีกทั้งพวกมันยังไม่ใช่สัตว์ที่เป็นเป้าหมายที่จะถูกล่าเพื่อเอาเนื้อหนังจากมนุษย์ ทำให้เป็นสัตว์ที่เสี่ยงสูญพันธุ์ต่ำ ในทางกลับกัน ด้วยการแสดงสีหน้านิ่งๆ น่าเอ็นดู ดวงตาโตและจมูกฟุดฟิดน่ารัก พวกมันจึงดูเหมือนยิ้มแย้มอยู่เสมอ จึงทำให้ผู้คนตกหลุมรักเจ้าหนูยักษ์ได้ไม่ยาก
อย่างไรก็ตาม ด้วยความสามารถที่คาปิบาร่าดำน้ำและว่ายน้ำเก่ง พวกมันมักใช้เวลาพักผ่อนตามแหล่งน้ำอยู่เสมอ และจะรู้สึกสบายตัวเมื่ออยู่ในน้ำ เจ้าหมูน้ำสามารถอยู่ในน้ำได้นานถึง 5 นาที ดังนั้นจึงใช้เป็นเกราะป้องกันตัวและเป็นทางหนีจากผู้ล่าอีกด้วย
ตอบเลยว่าใช่! คาปิบาร่าเป็นสัตว์สังคมที่น่าทึ่งมาก และยังเป็นเพื่อนที่ดีของมนุษย์ด้วย พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่รักสงบ กินพืช และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการกินหญ้าและพืชน้ำ ไม่มีนิสัยก้าวร้าวกับมนุษย์และสัตว์อื่นๆ แถมยังเป็นมิตรด้วย จึงสามารถเลี้ยงร่วมกับสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขและแมวได้ อย่างไรก็ตาม ก็ไม่สนับสนุนให้ซื้อเจ้าหนูยักษ์มาเลี้ยงหากไม่มีความพร้อมและยังรู้จักเจ้าคาปิบาร่าไม่ดีพอ
อยากเลี้ยงคาปิบาร่าต้องทำอย่างไร
ในประเทศไทยไม่มีข้อห้ามในการเลี้ยง แต่ใครคิดจะเลี้ยงคาปิบาร่าต้องมีความพร้อมและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าหนูยักษ์ให้ดี เพราะเราจะต้องดูแลน้องไปตลอดช่วงอายุขัยเช่นเดียวกับการเลี้ยงสัตว์อื่นๆ ดังสิ่งควรรู้และเตรียมพร้อมสำหรับการเลี้ยงคาปิบาร่า ได้แก่
1. เตรียมเงิน ราคาคาปิบาร่าตกตัวละ 40,000 – 50,000 บาท
2. เตรียมบริเวณพื้นที่เลี้ยงเป็นพื้นดินให้กว้าง และควรเป็นพื้นดินเหนียว
3. ควรเลี้ยงเป็นคู่ เพราะคาปิบาร่าเป็นสัตว์สังคม ไม่ชอบอยู่ตัวเดียว
4. ต้องทำบ่อน้ำ เพื่อให้น้องได้ว่ายและดำน้ำเล่น
5. ไม่ควรเลี้ยงใส่กรง เพระจะทำให้น้องเครียด
6. ให้อาหารจำพวกผักและผลไม้ ควรล้างทำความสะอาดให้ปลอดสารเคมีและยาฆ่าแมลงก่อน
ปัจจุบันมีฟาร์มเพาะพันธุ์คาปิบาร่าในประเทศไทยเช่นกัน แต่สำหรับคนที่ไม่พร้อมเลี้ยงสามารถไปเจอน้องตัวเป็นๆ ได้ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี และล่าสุดสวนสัตว์พาต้าได้เปิดตัวเจ้าหนูยักษ์มาเป็นสมาชิกใหม่อีกแล้วเช่นกัน
แหล่งที่มาข้อมูล
AZPetVet, Capybaras: Friendly Giants of the Rodent Community, สืบค้นข้อมูลเมื่อ 28 เมษายน 2566 จากเว็บไซต์: https://www.azpetvet.com/
AZ Animals, Capybara, สืบค้นข้อมูลเมื่อ 28 เมษายน 2566 จากเว็บไซต์: https://a-z-animals.com/
National Geographic, Capybara, สืบค้นข้อมูลเมื่อ 28 เมษายน 2566 จากเว็บไซต์: https://www.nationalgeographic.com/
Britannica, capybara, สืบค้นข้อมูลเมื่อ 28 เมษายน 2566 จากเว็บไซต์: https://www.britannica.com/