เพราะพ่อแม่หรือผู้ปกครองคือครูคนแรกของลูก การให้ลูกเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษกับคุณแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างเป็นธรรมชาติจึงเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้ลูกรู้สึกชื่นชอบ ไม่กดดัน อีกทั้งยังสามารถพัฒนาทักษะภาษาได้อย่างรวดเร็วด้วย วันนี้จึงมี 4 เคล็ดลับสอนลูกให้เก่งอังกฤษ ต้องทำอย่างไร ถ้าคุณเองก็ไม่แม่นเรื่องภาษา ถนัดแต่ศัพท์ง่าย ๆ แบบนี้ลูกจะเก่งได้มั้ย 4 เคล็ดลับนี้จะช่วยให้คุณหายกังวลได้ ไปดูกันเลย
กวีนิพนธ์ (การอ่านออกเสียงบทกลอนสั้น ๆ) เป็นส่วนหนึ่งในการศึกษาภาษาต่างประเทศที่ระบุไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในตัวชี้วัดชั้นปีตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 –ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 ซึ่งในหลักสูตรภาษาต่างประเทศในประเทศไทยได้กําหนดให้เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศการอ่านออกเสียงบทกลอนสั้น ๆ เป็นตัวชี้วัดหนึ่งของมาตรฐาน
การสอนแบบนี้ คุณอาจจะเขียนบทกลอนภาษาอังกฤษขึ้นเอง หรือเขียนบางส่วน หรือหาโหลดตามเว็บก็ได้ (เยอะแยะ) แล้วให้ลูกช่วยกันหาคํามาเติมความให้สมบูรณ์ จะเป็นการส่งเสริมให้ลูกได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการเรียนภาษาอังกฤษด้วย แล้วยิ่งคุณเห็นคุณค่าของกวีนิพนธ์หรือบทกวี/บทกลอนได้รู้คําศัพท์เฉพาะ รู้โครงสร้างและรูปแบบของบทกลอน รู้หลักในการอ่าน การสอนการอ่านบทกลอนอย่างถูกต้องจะช่วยให้ทั้งคุณและลูกวัยประถมได้สนุกกับการอ่านบทกลอนซึ่งจะนําไปสู่การคิดการเขียนอย่างสร้างสรรค์การพัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษต่อไปได้
หลายแอปฯ ได้พัฒนาขึ้นเพื่อจุดประสงค์ให้ผู้ใช้ได้ฝึกภาษา และทุกคนควรมีติดมือถือไว้ ไม่ว่าจะเป็น
1. Duolingo (Free)
2. Hello English: Learn English (Free)
3. LearnEnglish GREAT Video (Free)
4. Murphy's English Grammar in Use (Free)
5. Urban Dictionary (Free)
6. EchoEnglish (Free)
7. Tedtalk
8. Netflik
9. Youtube
10. พูดอังกฤษได้เป๊ะเวอร์
11. BBC Learning English
12. Toeic
13. Toeic Test
14. LingoKids
การสอนด้วยแอปฯ คุณต้องให้เวลากับลูกหลานของคุณอย่างมาก อันดับแรก คุณอาจต้องฝึกให้เด็ก ๆ ชินกับการฟังสำเนียงภาษาอังกฤษแท้ ๆ ก่อน และลองให้เขาพูดทับเสียงที่ได้ยินให้ทัน ทำเช่นนี้ทุกวัน อย่างน้อยวันละ 30 นาที จะทำให้เขาเริ่มคุ้นชินกับสำเนียงที่ไม่ใช่ครูไทยที่คุ้นเคย ลำดับต่อมา อาจลองให้ทำแบบทดสอบภาษาอังกฤษควบคู่กับการท่องศัพท์ โดยทำให้เด็กเชื่อว่า การมีคลังศัพท์อยู่ในหัวยิ่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้สื่อสารได้มีประสิทธิภาพมากเท่านั้น โดยแอปฯ ทั้งหมดที่นำเสนอข้างต้น จะสามารถช่วยคุณและลูกวัยประถมของคุณได้ไม่ยากเลย
แน่นอนว่าทุกคนคงได้ยิน “ดนตรีเป็นภาษาสากล” การฟังเพลงภาษาอังกฤษ คุณสามารถใช้เพลงภาษาอังกฤษ เพื่อฝึกลูกประถม ทั้งการสื่อสาร การสร้างคำศัพท์ใหม่ ๆ จากเพลง โดยทั้งหมดคุณอาจต้องใช้เทคนิคเพื่อฝึกฝนพวกเขาโดยเริ่มต้นจากกิจกรรมดังนี้
1) ชวนลูกเลือกเพลงที่เหมาะสม อาจเป็นเพลงที่พวกเขาชอบ (ห้ามเลือกเพลงที่คุณชอบ เพราะอาจทำให้ลูกเบื่อ)
2) ชวนลูกฟังเพลงอย่างตั้งใจ ในข้อนี้ คุณเองก็ต้องฟังอย่างตั้งใจเช่นกัน เคยเห็นผู้ปกครองบางท่าน ขณะที่ให้ลูกหลานพัฒนาทักษะ แต่ตนกลับก้มหน้าก้มตาทำงานอื่น หรือเล่นโทรศัพท์ การปล่อยเด็กของคุณไว้กับการเรียนรู้และฝึกฝนเพียงลำพัง ไม่เป็นผลดีต่อเขาเลย
3) ลองท้าเขาให้จำเนื้อเพลงให้ได้ โดยข้อนี้คงต้องเป็นกิจกรรมที่สนุกไม่ใช่เคร่งเครียด อาจต้องมีของรางวัล หรือสิ่งจูงใจมาหลอกล่อสักหน่อย
4) ลองชวนเขาร้องเพลงออกมาจากความจำ จำได้จำไม่ได้ก็ร้องออกมา บางทีอาจจำได้เพียงทำนองและคำเพียงบางคำ ก็ไม่เป็นไร อย่าสร้างเงื่อนไขเยอะ เพราะถ้าไปกะเกณฑ์เด็กมาก คุณจะทำกิจกรรมนี้อีกครั้งไม่ได้
5) ชวนลูกช่วยกันเปิดหาเนื้อเพลงภาษาอังกฤษ และหาความหมายของมันร่วมกันอย่างสนุกสนาน ไม่ต้องจับเวลา ที่สำคัญในกิจกรรมนี้จะไม่มีการใช้ทักษะการขีดเขียนเป็นอันขาด เพื่อความสนุกและเพลิดเพลิน คุณจะต้องให้ลูกใช้ทักษะการฟัง การอ่าน และการพูด ยกเว้นการเขียน เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้เวลามากเกินไป นำไปสู่ความเยิ่นเย้อและน่าเบื่อในที่สุด
6) ลองฟังเพลงนั้น ซ้ำไปซ้ำมาด้วยกัน โดยชวนลูกร้องเพลงร่วมกัน หลาย ๆ รอบ ในข้อสุดท้ายนี้เองคุณจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในด้านทักษะภาษาอังกฤษของลูกคุณ (ไม่ต้องรอนานหลายคอร์สเลยใช่มั้ยล่ะ เพลงเดียวจบเลย)
การสอนภาษาอังกฤษ ควรเริ่มสอนทักษะการฟังก่อนทักษะอื่น ๆ โดยยึดว่า ลูกควรเข้าใจในสิ่งที่ฟังเสียก่อนที่เขาจะพูดได้ อ่านได้ และเขียนได้ แต่ก็มีงานวิจัยที่ยืนยันผลการเล่านิทานแบบเล่าเรื่องซ้ำพบว่า ทำให้มีความรู้และทักษะทางภาษาที่สูงขึ้น งานวิจัยนี้ยืนยันมั่นเหมาะว่า เทคนิคการเล่าเรื่อง ของเขาดีจริง นำมาใช้สอนภาษาอังกฤษลูกได้
รู้อย่างนี้แล้ว คุณจะลังเลไหม อยากให้คุณลองหยิบเทคนิคนี้ไปใช้สร้างเด็ก ๆ ของคุณดู เผื่อจะช่วยทำให้คุณรู้ถึงอารมณ์และจิตวิทยาของเด็กไปด้วย คุณจะสังเกตเห็นได้จากการแสดงออกของลูก จริง ๆ แล้วคุณอาจไม่แน่ใจว่า นิทานยังคงเป็นสื่อที่เด็กวัยประถมให้ความสนใจตามธรรมชาติอยู่ และกิจกรรมการเล่าเรื่องของคุณกับลูกวัยประถมที่ออกท่าออกทางประกอบจะช่วยสร้างความสนใจให้ลูกติดตามยันจบเรื่อง จนทำให้ทักษะการฟังภาษาอังกฤษดียิ่งขึ้น
ถ้าอย่างนั้นเราควรเริ่มจากอะไรล่ะ ถ้าอยากจะใช้เทคนิคนี้
1) อันดับแรกเลย คุณต้องชวนลูกฟังเรื่องที่คุณจะเล่า คุณอาจมีเรื่องมาให้ลูกเลือก โดยคุณต้องคัดเลือกมาก่อน เลือกเรื่องที่น่าสนใจ มีภาษาที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน หลังจากลูกเลือกแล้ว
2) คุณต้องเล่าเรื่อง (เล่าเหมือนที่เล่านิทานให้ลูกฟังก่อนนอนนั่นล่ะ) โดยลูกจะทำหน้าที่เป็นผู้ฟัง แต่ลูกต้องแสดงท่าทางประกอบ ตรงนี้แหละที่จะสนุกสนานกันมากเลย
3) คุณต้องให้ลูกฟังแล้วตอบคำถามจากเรื่องเล่าให้ได้ด้วย โดยอาจถามคำถามไว้ตั้งแต่ก่อนเล่าเรื่องก็ได้
4) คุณอาจให้ลูกเรียงลำดับเหตุการณ์จากเรื่องหลังฟังจบ ดูซิว่าเขาจดจำรายละเอียดหรือคำศัพท์คำไหนได้บ้างไหม
5) คุณต้องให้ลูกฟังแล้วแสดงบทบาทสมมติไปด้วย อาจแสดงแค่สีหน้าหรืออารมณ์
6) คุณให้ลูกตอบว่า หลังฟังเรื่องเล่าจบ มีความคิดเห็นกับเรื่องที่ฟังอย่างไรบ้าง ข้อนี้ลูกคุณจะได้รับการกระตุ้นความคิดโดยเขาไม่รู้ตัวเลย
สี่เคล็ดลับที่ไม่ลับแล้วข้างต้น คงพอทำให้พ่อแม่หรือผู้ปกครองกลายเป็นครูคนแรกของลูกได้อย่างมั่นใจไร้กังวลมากขึ้น สิ่งสำคัญของการสอนภาษาอังกฤษให้ลูก ไม่ใช่การทำให้ลูกได้คะแนนเยอะ แต่เป็นการทำให้ลูกสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจและเป็นธรรมชาติ สร้างทัศนคติที่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษ เป็นการปูทางให้ลูกหาทางไปสู่โอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการเรียนรู้มากยิ่งขึ้นในอนาคตต่อไป
ปริณุต ไชยนิชย์
ข้อมูลอ้างอิงจาก
https://so06.tci-thaijo.org/index.php/UDRUAJ/article/view/251690/170900
https://www.wallstreetenglish.in.th/%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%9F%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B9%8C/%E0%B8%9D%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%87/