มั่นใจ!! น้อง ๆ ที่กดคลิกเข้ามาอ่าน ทุกคนต้องอยากเรียนเก่งแน่ ๆ และต้องเก่งแบบขั้นเทพให้โลกจำด้วย พี่อ้อเลยเตรียมเทคนิคไว้ให้แบบไม่ยากเลย
เตรียมกระดาษ ปากกา ให้พร้อมแล้วมาเก่งแบบขั้นเทพกันเลย
ขั้นเทพสูตรนี้เป็นแบบพหูสูตร จำกันในวิชาพุทธศาสนาได้ใช่มั้ยคะ “พหูสูตร” เป็นหนึ่งในคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราต่างรู้ดีว่า คำสอนของพระองค์นั้นเป็นจริงอยู่อย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ไม่จำกัดด้วยกาลเวลาที่เรียกว่า “อกาลิโก” ซึ่งเราจะเห็นว่าปัจจุบัน แม้จะผ่านมาหลายพันปี โลกก้าวล้ำไปด้วยเทคโนโลยีมากแค่ไหน หลักธรรมคำสอนของท่านก็ไม่ล้าสมัยนำไปใช้จริงตลอดเวลา หลายคนนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดเป็นประโยชน์กับตัวเองไม่ว่าเรื่องเรียนหรือการทำงาน
โดยหลักทฤษฎีจริง ๆ แล้ว พหูสูตรนั้นถือเป็นการเกิดของปัญญามี 5 ระดับ ซึ่งผู้ที่เป็นพหูสูตรต้องทำให้ครบให้สำเร็จ ไม่งั้นจะไม่ใช่การเป็นพหูสูตร งั้นเรามาตั้งเป็นเป้าหมายเป็นเลเวลที่เราจะฝึกฝนให้เกิดเป็นความชำนาญเพื่อให้ผ่านแต่ละขั้นตอน
เมื่อพร้อมแล้วมาตั้งใจฝึกฝนให้ได้ทักษะขั้นเทพเพื่อเรียนเก่ง ๆ กันทุกคนเลย
เริ่มต้นขั้นตอนนี้ภาษาบาลีที่อ่านแล้วเท่มาก พระพุทธเจ้าท่านสอนให้ ฟังมาก เรียนรู้มาก ท่องจำให้มาก เมื่อปฏิบัติ 3 ข้อนี้แล้ว เราก็รวบรวมนำมาเป็นข้อมูลให้มาก ซึ่งขั้นตอนนี้น้องจะเห็นว่าชิล ๆ เราต้องทำกันเป็นประจำอยู่แล้วในการศึกษาเล่าเรียน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มาจากคุณครูในชั้นเรียน จากหนังสือเรียน เพิ่มเติมการค้นคว้าจากห้องสมุดจากหนังสือเล่มอื่น ๆ ที่อยู่ในสายวิชา น้อง ๆ ต้องขยันใฝ่หาความรู้มีวินัยฝึกฝนให้เป็นประจำ เกิดเป็นทักษะเหมือนขุมพลังอันแข็งแกร่งในด้านการฟังการเรียนรู้การท่องจำ
เห็นมั้ยไม่ยากเลยใช่มั้ยละ งั้นไปกันต่อเลย
เมื่อผ่าน 3 ข้อย่อยของขั้นตอนที่ 1 หนึ่งแล้วมาต่อยังขั้นต่อไป ซึ่งค่อนข้างจะยากขึ้น แต่ถ้ามุ่งมั่นตั้งใจแล้ว คำว่า “ยาก” ย่อมไม่อยู่ในตัวเราแน่นอน แค่ค่อย ๆ หมั่นทำให้เป็นประจำ ฝึกฝนให้มาก เมื่อกี้เราฟังค้นคว้าหาความรู้ ท่องจำแล้ว เราต้องทำความเข้าใจจับสาระสำคัญให้ได้ว่าอะไรเป็นประเด็นหลักสำคัญในแต่ละบทของวิชานั้น ๆ ควรจำได้ ในสาระที่ควรจำ แล้วนำความจำในประเด็นหลักขยายความออกมา เขียนบันทึกอธิบายถ่ายทอดให้เป็นภาษาของเราเอง หรืออธิบายแลกเปลี่ยนกับเพื่อน เพื่อตรวจสอบให้ถูกต้องตรงกัน
เทคนิคสำคัญคือน้อง ๆ ต้องค่อย ๆ อ่านหนังสือช้า ๆ ขณะเดียวกันก็ทำความเข้าใจ ตรงไหนไม่เข้าใจลองอ่านทบทวนด้วยตัวเอง แต่ถ้ายังไม่เข้าใจชัดเจน อาจสอบถามคุณครูเพิ่ม การตั้งคำถามเกิดจากความคิดในสิ่งที่เราไม่รู้ ถือเป็นการจัดระเบียบความคิดนั้น ๆ ต่อยอดให้เป็นความคิดสร้างสรรค์ของเราเอง กระตุ้นให้เกิดเป็นความคิดใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นได้อีก
เมื่อแน่ใจชัดเจนว่าอะไรเป็นประเด็นหลักของเนื้อหาของแต่ละบทที่นำเสนอ คราวนี้เราก็ปิดหนังสือ เขียนสรุปสาระสำคัญออกมาให้ได้ โดยไม่ต้องกลับไปเปิดหนังสืออีก
พระพุทธเจ้าท่านทรงสอนไว้ว่า ถ้าเราสามารถทำอย่างนี้ได้ แสดงว่าเป็นผู้แสวงหาความรู้ที่ถูกทางถูกต้อง
ส่งกำลังใจให้ทุกคนที่ฝึกฝน เราผ่านมาครึ่งทางแล้ว คราวนี้เราต้องท่องสาระสำคัญที่อ่านจับใจความมาให้คล่องปาก พูดถึงบ่อย ๆ ถกประเด็นสาระสำคัญนี้กับเพื่อน ๆ ยิ่งอ่านมากท่องมากก็ยิ่งจำได้มากขึ้นนั่นเอง สมัยก่อนการเรียนนั้นมีการให้ท่องอาขยาน ท่องคำศัพท์ภาษาอังกฤษทุกเช้า น้องจะลองเอาเทคนิคนี้มาใช้กับตัวเอง อ่านออกเสียงทบทวนวิชาเรียนก่อนและหลังเข้าเรียนในชั้นจะช่วยเพิ่มทักษะให้เราได้มากยิ่งขึ้น น้อง ๆ ไฮเทคจะอัดเป็นไฟล์เสียง หรืออัดเป็นคลิปวิดีโอ เพื่อเพิ่มความสนุกสนานเพิ่มความเร้าใจตามความถนัดของแต่ละคน
ภาษาบาลีขั้นนี้อาจจะจำยากขึ้นมาหน่อย เช่นเดียวกันการฝึกฝนขั้นตอนนี้ก็ไม่ง่ายนัก ต้องใช้เวลาฝึกฝนพอสมควร น้อง ๆ คงเคยได้ยินมาบ้างว่า การจำอะไรให้ง่ายคือให้มองเห็นเป็นภาพ ให้เหมือนถ่ายรูปบันทึกไว้ในสมองของเรา แล้วสร้างภาพในใจในความคิดให้มองเห็นว่าข้อความนั้น ๆ ว่าอยู่บรรทัดไหนย่อหน้าที่เท่าไร หน้าไหนของหนังสือ
หลายคนคงส่ายหัว ไม่ยากหน่อยละ ยากเยอะเลย 55 แต่น้อง ๆ มั่นใจได้ว่าถ้าเราลองทำลองฝึกฝนไปเรื่อย ๆ ความยากก็ย่อมหายไป เพราะขั้นตอนที่ 4 นี้ถือว่าเป็นทักษะสุดยอด มันจะเป็นจุดแข็งติดตัวเราไปตลอดชั่วชีวิต ซึ่งเรานำไปใช้จดจำทุกเรื่องทุกเหตุการณ์ให้เห็นเป็นภาพ ซึ่งต้องใช้อย่างมากเมื่อเราทำงานในอนาคต
ภาษาบาลีอ่านยาก ๆ นี้ คือวิทยายุทธ์ขั้นสุดยอดขั้นตอนสุดท้ายของการเป็นพหูสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนไว้ การขบให้แตกนั้นด้วยทฤษฎีหมายถึง สิ่งที่เราเรียนรู้จำมาแล้ว สิ่งที่ท่องจนคล่องปากแล้ว สิ่งที่คิดในใจวาดภาพออกมาได้ชัดเจนแล้ว ทั้งหมดนั้นจะต้องนำมาขบมาคิดตีความให้แตก สามารถนำมาสรุปเป็นแนวคิดของตัวเอง ถ่ายทอดออกมาได้ แล้วนำไปประยุกต์ใช้ต่อให้เกิดแนวคิดใหม่ ๆ ได้ ซึ่งถ้ารู้แล้วแต่เรายังประยุกต์เอาไปใช้ไม่ได้ก็ถือว่ายังไม่เป็น “พหูสูตร”
สรุปขั้นตอนปฏิบัติให้ได้เทคนิคขั้นเทพแบบ 5 ขั้นตอนกับการเป็นพหูสูตรเพื่อให้เราเรียนเก่งแบบเข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ฟังจากชั้นเรียนให้มาก อ่านศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม ทบทวนให้มาก ทำความเข้าใจมองให้เห็นเป็นภาพ แล้วกลั่นกรองมาเป็นสรุปข้อเขียนและบันทึกนำเสนอในภาษาของเราเอง และสุดท้ายนำความรู้ที่เราได้มาขบคิดวิเคราะห์นำไปประยุกต์ต่อยอดเพิ่มขึ้นให้เป็นความคิดใหม่ ๆ ไอเดียใหม่ ๆ จากความรู้พื้นฐานเดิม
เทคนิคเหล่านี้หลายส่วนเรามีอยู่ในตัว ฝึกหัดกันมาอย่างดีแล้ว เพียงแค่เพิ่มเติมตามคำสอนของพระพุทธองค์ ประยุกต์นำไปปฏิบัติให้เกิดเป็นวินัยจนทักษะเหล่านี้อยู่กับตัวเราเกิดขึ้นเป็นอัตโนมัติทุกครั้งที่เรียนไม่ว่าวิชาใด ๆ ซึ่งทักษะเหล่านี้ใช้ได้มากในการเรียนการสอบระดับมหาวิทยาลัย ทั้งยังมีความสำคัญใช้ต่อยอดในการทำงานประกอบอาชีพให้เก่งให้ชำนาญในสายงานอาชีพที่เราเลือกได้อีกในอนาคต
ทั้งหมดต้องจำไว้ว่า เราต้องหมั่นฝึกฝนทำอย่างสม่ำเสมอทำไปตลอดชีวิตนั่นเลยทีเดียว และเมื่อถึงเวลานั้นมันจะไม่ยากสำหรับการเป็นคนเก่งอีกต่อไป เอาละงั้นอย่าได้เสียเวลา ด้านใดฝึกกันอยู่แล้วก็หมั่นฝึกพยายามให้เป็นจุดแข็งของเรามากยิ่งขึ้น ส่วนด้านใดอ่อนอยู่ก็ใช้เวลาฝึกให้เป็นจุดแข็งในลำดับต่อ ๆ ไป
เมื่อเพิ่มเติมฝึกฝนทักษะการเรียนรู้แบบพหูสูตรครบทุกขั้นตอนดีแล้วอย่างนี้ เราจะไม่เรียนเก่งขั้นเทพได้อย่างไร
พี่อ้อ อังสนา
ข้อมูลอ้างอิง
พหูสูตร 5 ระดับ https://www.tungsong.com/Read/prayuak/p_8.htm
บุคคลใดเป็นพหูสูตร https://www.dhammahome.com/audio/topic/4390