มูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี ได้เข้าร่วมเสวนางานแถลงผลการปฏิรูปประเทศ ด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

มูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี ได้เข้าร่วมเสวนางานแถลงผลการปฏิรูปประเทศ

ด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

19 สิงหาคม 2565 – มูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี โดย ดร.เนตรชนก วิภาตะศิลปิน กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี ได้เข้าร่วมเสวนางานแถลงผลการปฏิรูปประเทศด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ระหว่างปี พ.ศ. 2563 – 2565  ภายใต้แนวคิด ความร่วมมือด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ พลิกโฉมประเทศไทยสู่การเปลี่ยนแปลง : CSLH Thailand Collaboration for Change ที่จัดขึ้นโดยคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมเสวนาและแบ่งปันประสบการณ์ในช่วงมุมมองเอกชน / ภาคประชาสังคมต่อประเด็น Building Human Capital for the Next Chapter of Thailand Development สานต่อ เดินหน้าพัฒนาคนไทย ในหัวข้อ การพัฒนาระบบการศึกษาไทยบนฐานความร่วมมือของภาคส่วนต่าง ๆ โดยร่วมแบ่งปันประสบการณ์การดำเนินงานของ 3 ภาคส่วนหลัก ทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน ในการร่วมกันยกระดับการศึกษาของไทย จนได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งใน Best Practice ของไทย ในด้านความร่วมมือของภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน ที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเป็นรูปธรรม ในงานวิจัย "Public Private Partnerships for Social Good"  โดย The Centre for Asian Philanthropy and Society (CAPS)

โดยได้ดำเนินการผ่าน 5 ยุทธศาสตร์หลักของมูลนิธิฯ จนเกิดเป็นผลสัมฤทธิ์ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนี้

1. การเปิดเผยข้อมูลโรงเรียนสู่สาธารณะอย่างโปร่งใส (Transparency)
2. กลไกตลาดและวัฒนธรรมการมีส่วนร่วม (Market Mechanisms)
3. การพัฒนาผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน (High Quality Principals & Teachers)
4. เด็กเป็นศูนย์กลาง เสริมสร้างคุณธรรมและความมั่นใจ (Child Centric & Curriculum)
5. การเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของสถานศึกษา (Digital Infrastructures)

ซึ่งการดำเนินงานของมูลนิธิฯ ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดจากการผลวัดระดับคุณภาพโรงเรียนหรือ School Grading ในแต่ละปีการศึกษา โดยโรงเรียนมีผลการประเมินคุณภาพเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และตัวชี้วัดโรงเรียน (KPIs) 5 ด้าน เพิ่มสูงขึ้น โดยด้านผู้สอนและผู้บริหารสถานศึกษาพัฒนามากที่สุด ทั้งนี้เพื่อเป็นแนวทางและเป็นประโยชน์สำหรับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการกำหนดนโยบายด้านการพัฒนาการทรัพยากรมนุษย์และร่วมกันพัฒนาการศึกษาของไทยต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3PzYIsk