ครั้งนี้ตั้งคำถามมาเป็นหัวข้อบทความให้น้องคิดกันเล่น ๆ บางคนอาจเคยบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อชุมชนหรือเคยเข้าร่วมกิจกรรมอาสาในโรงเรียนมาแล้ว แต่หลายคนอาจยังไม่เคยทำ หรือเคยคิดแต่คุณพ่อคุณแม่ยังไม่อนุญาตให้ไปทำกิจกรรมข้างนอก ขณะเดียวกันอาจมีน้องอีกหลายคนที่ไม่เคยมีเรื่องแบบนี้อยู่ในความคิดเลย วันนี้พี่อ้อมาชักชวนน้องให้มีส่วนร่วมกับชุมชนในพื้นที่ มาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เพื่อหาคำตอบให้ชัดเจนว่า เราจะได้อะไรหากเป็นคนดีมีจิตอาสาแล้วทำประโยชน์ให้กับผู้คนในชุมชมในท้องถิ่นกัน
มาคิดกันง่าย ๆ น้อง ๆ กำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ก้าวเดินจากครอบครัวจากบ้านจากโรงเรียนระดับประถมมัธยมและกำลังก้าวไปสู่ระดับมหาวิทยาลัย เราไม่อาจอยู่อย่างโดดเดี่ยว น้อง ๆ ต้องมีสังคม ต้องมีความสัมพันธ์กับผู้อื่นที่อาจเป็นคนแปลกหน้าไม่ใช่คนในครอบครัว ไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่คุณครู น้อง ๆ จะต้องรู้จักผู้คนที่หลากหลายและแตกต่างจากสังคมแต่ก่อน แน่นอนมันไม่ใช่แค่สังคมออนไลน์ในโลกโซเชียล หรือในกลุ่มเพื่อนเล่นเกมทั่วโลก พี่อ้อกำลังหมายถึงพื้นที่ชุมชนข้างนอกในโลกจริง ๆ ในบ้านเมืองประเทศของเรา
ชุมชนนั้นใหญ่กว่าครอบครัวแต่เล็กกว่าประเทศ ชุมชนนั้นเป็นกลุ่มคนที่มีที่อยู่อาศัยใกล้กัน หรืออาจเป็นในหมู่บ้านเดียวกัน ตำบล อำเภอ จังหวัดเดียวกัน มีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ศาสนาที่ใกล้เคียงกัน มีการพบปะกันอยู่เป็นประจำ ซึ่งไม่ต่างจากชุมชนออนไลน์ กลุ่มเพื่อนในไลน์ ในเฟซบุ้ค ในยูทูป ในเว็บเกม เพียงแต่การสื่อสารกับคนในชุมชนที่ว่านั้นอยู่ในโลกจริง ๆ จับต้องได้ มีกิจกรรมทำร่วมกันแบบลงแรงจริง ๆ
น้องหลายคนอาจมีความคิดต่อว่าแล้วไง ทำไปเพื่ออออ?? แค่ทักทายทำความรู้จักปกติไม่พอหรือไง คิดแบบนั้นก็ได้นะคะ แต่การให้ประเทศแข็งแกร่ง ทุกชุมชนนั้นต้องมีบทบาทที่เข้มแข็ง สามารถพัฒนาและเติบโต ซึ่งต้องมีความสามัคคีปรองดอง ช่วยเหลือแบ่งปันซึ่งกันและกัน ทำให้ผู้คนในพื้นที่ในชุมชนรวมถึงครอบครัวของเราดีขึ้น หน้าที่ทั้งหมดนี้จึงเป็นของทุกคนช่วยกันร่วมแรงสร้างชุมชนสังคมของเราให้แข็งแรงดูยิ่งใหญ่นะ แล้วเราอยากมีส่วนรวมในความยิ่งใหญ่ เป็นประโยชน์กับผู้คนเหมือนอย่างไอดอลคนเก่ง ๆ ที่น้อง ๆ ต่างกรี๊ดชื่นชมกันหรือไม่
ไอดอลนักร้องนักดนตรีคนโปรดของน้อง ๆ ผู้ปลุกกระแสให้คนออกมาก้าวทำความดีร่วมกับเขาในโครงการก้าวคนละก้าว พี่ตูนวิ่งทั่วประเทศเพื่อรับบริจาคจากเบตง จ.ยะลา สู่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ผ่านเส้นทางกว่า 2,215 กิโลเมตร เพื่อนำเงินมาจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับ รพ.ที่ขาดแคลน ทุกคนต่างชื่นชมกับความสำเร็จนอกเหนือจากเงินบริจาคกับสิ่งที่สำคัญคือรวมน้ำใจของคนทั้งประเทศมุ่งสู่จุดหมายเดียวกัน
น้องจ๋าไอดอลนักแสดงคนเก่ง ทำกิจกรรมอาสามาตั้งแต่เป็นเด็กมัธยม เมื่อเข้าวงการก็ใช้ความมีชื่อเสียงให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เธอเป็นเยาวชนจิตอาสาถ่ายทอดเรื่องราวของโครงการในพระราชดำริฯ ช่วยเผยแพร่วัฒนธรรมไทย เป็นครูสอนพิเศษให้กับเด็ก ๆ เป็นอาสาสมัครอ่านข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในเสียงตามสาย และอีกหลากหลายกิจกรรมที่เป็นประโยชน์กับผู้อื่น
เฌอปรางไอดอลอีกคนจากวง bnk 48 เธอมีส่วนร่วมผลักดันและประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาทางการศึกษาและวิทยาศาสตร์ เพื่อให้เด็กเยาวชนมาสนใจวิทยาศาสตร์ไม่ให้มองเป็นเรื่องไกลตัวอีกต่อไป
นักแสดงที่มากความสามารถเขาสร้างโปรเจ็กต์ Environmental Education Centre Thailand (EEC Thailand) เพื่อปลูกจิตสำนึกแห่งการอนุรักษ์ธรรมชาติให้กับเยาวชนในประเทศไทย สร้างความตระหนักรู้ถึงปัญหาและการรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเขามีความเชื่อว่าเมล็ดพันธุ์เด็ก ๆ เหล่านี้จะเติบโตเป็นพลังที่ช่วยทำให้ไฟแห่งการอนุรักษ์ธรรมชาติได้รับการแพร่กระจายออกไป และทำให้ผู้คนทั่วโลกหันมาใส่ใจกับปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
นักแสดงชื่อดังอีกคน เธอได้รับการแต่งตั้งจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ให้เป็นทูตสันถวไมตรีคนแรกของประเทศไทยและคนแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เธอทำหน้าที่เป็นตัวแทนช่วยสร้างการรับรู้เข้าใจ และระดมทุนสนับสนุนในการคุ้มครองผู้ลี้ภัยให้กับผู้คนทั่วโลก
จากตัวอย่างไอดอลที่ยกมานั้น พวกเขาต่างเป็นต้นแบบให้เราอยากเป็นคนดีอยากทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ให้กับผู้อื่น น้อง ๆ หลายคนอาจแอบเถียงอยู่ในใจว่า เพราะพวกเขาเป็นดาราถึงพร้อมทำงานอาสาบำเพ็ญประโยชน์ งั้นเรามาดูคนธรรมดาที่เป็นจิตอาสา ทำประโยชน์ให้กับคนในพื้นที่ชุมชนท้องถิ่นกันบ้าง
พี่อ้อมีโอกาสได้คุยกับ “คุณปุ๊ ธนาพงศ์ หาญกล้า” ที่ปรึกษากฎหมาย นอกเหนือจากการทำงานด้านกฎหมายแล้ว คุณปุ๊ยังทำจิตอาสานำความรู้ความสามารถทักษะด้านกฎหมายมาช่วยงานผู้คนในชุมชน ครั้งนั้นคุณปุ๊ได้กล่าวกับพี่อ้อว่า
“อยากมีชีวิตที่มีความสงบสุขไม่ถูกเอาเปรียบต้องเรียนรู้กฎหมาย เริ่มเรียนรู้จากกฎหมายในชีวิตประจำวัน กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน ที่ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน เช่น ทางสาธารณะ แม่น้ำ ลำคลอง อันเป็นสาธารณะสมบัติแผ่นดินที่ทุกคนมีสิทธิ์ใช้ประโยชน์ร่วมกันแบบเท่าเทียมกัน เรียนรู้กฎหมายแล้วจะเข้าใจดีว่า ผู้ใช้ต้องไม่รบกวนการใช้ของผู้อื่น หรือเข้าครอบครองใช้ประโยชน์เสมือนเป็นของตนเอง”
จะเห็นว่าการนำทักษะความสามารถด้านกฎหมายไปใช้ให้เป็นประโยชน์กับผู้คนในชุมชนให้เรียนรู้เข้าใจถึงข้อกฎหมายใกล้ตัวในชีวิตประจำวัน แล้วประโยชน์ที่ได้รับตามมา แน่นอน...บ้านเมืองย่อมสงบสุข
“ความเสมอภาคของสังคมมาจากการเคารพกฎหมายที่บังคับใช้กับทุก ๆ คน เมื่อเรารู้กฎหมายจะมีความกล้าที่จะเข้าช่วยดูแลสังคม กล้าเปลี่ยนสังคมรอบตัวเรา กล้าที่จะประสานให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการเพื่อบังคับและลงโทษผู้ละเมิด คนในสังคมที่เคารพกฎหมายนั้นมีสภาพชีวิตและทรัพย์สินปลอดภัยจากการละเมิดทั้งทางแพ่งและทางอาญามากขึ้น”
จากนักกฎหมายไปแล้ว คราวนี้มาถึง “เฟิร์น” อภิชญา ศรีม่วง เฟิร์นเป็นน้องอีกคนหนึ่งที่พี่อ้ออยากนำความคิดและการทำงานในชุมชนมาฝาก พี่อ้อทำงานแปลกับเฟิร์นตั้งแต่น้องเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายจนตอนนี้เฟิร์นเรียนจบมหาวิทยาลัยมาสอนพิเศษภาษาอังกฤษให้กับเด็กประถมเป็นครูเฟิร์นแล้ว
ตลอดมาทุกช่วงปิดเทอมน้องจะรับงานแปลและช่วยงานร้านก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นยาจีนครูเก่งของที่บ้าน พร้อมทั้งเป็นคนต้อนรับแกลอรี่ที่บ้านของคุณพ่อวิทยา พร้อมทั้งยังช่วยงานลงพื้นที่ชุมชนกับการตามรอยประวัติศาสตร์เมืองพิชัย
“หนูใช้สิ่งทีเรียนมาด้านภาษาไม่ว่าจะเป็นภาษาไทยหรืออังกฤษกับทักษะด้านการสื่อสารมาช่วยงานคุณพ่อ คอยต้อนรับเวลาที่มีคนมาเยี่ยมดูสถานที่ประวัติศาสตร์เมืองพิชัยและดูแกลอรี่แสดงงานศิลปะของคุณพ่อ เพราะมีผู้คนหลายหลากมาเยี่ยมชมจากทั่วประเทศและต่างประเทศ การเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ทำงานกับคุณพ่อกับคนในชุมชนในพื้นที่ ได้พบปะกับคนรุ่นเก่า ได้ไปยังพื้นที่เมืองเก่า เรียนรู้เรื่องเก่า ๆ จากผู้มีความรู้แขนงต่าง ๆ ถือเป็นความภูมิใจของตัวเองมาตลอดเลยค่ะ”
นอกจากความภูมิใจที่มีส่วนร่วมทำประโยชน์ให้กับครอบครัวให้กับชุมชนเมืองพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์แล้ว เฟิร์นยังแสดงความเห็นกับการทำประโยชน์ให้สังคมแล้วได้อะไร
“การทำประโยชน์ให้สังคมเป็นเรื่องที่ดีมากค่ะ เพราะสังคมชุมชนที่เราอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวเรามาก เป็นสิ่งแวดล้อมที่เราต้องอยู่ในทุกวันและการเห็นสังคมที่ตนเองอยู่มีการพัฒนาไปในทางที่ดีก็เป็นเรื่องที่ดีต่อทั้งตัวสังคมเองและตัวเรา เราจะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น อีกทั้งยังอยู่ร่วมกับคนในชุมชนอย่างมีความสุขด้วยค่ะ”
จากตัวอย่างทั้งหมดนี้คงช่วยตอบคำถามตามหัวข้อและในใจของน้อง ๆ ให้ชัดเจนว่า สิ่งที่เราได้กลับมาเป็นส่วนตัวนั้นไม่น้อยเลย นอกเหนือจากความมั่นใจและเห็นคุณค่าในตัวเองอันก่อให้เกิดเป็นความภาคภูมิใจที่เป็นคนทำประโยชน์ให้กับผู้อื่นให้กับชุมชนแล้ว เรายังได้รับความสุขแบบที่ต้องลงมือทำด้วยตัวเอง ทำเองรู้เอง สุขเอง
การสะสมความภาคภูมิใจจากการมีส่วนร่วมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ และการมีจิตอาสานั้น มีหลากหลายประเภททั้งง่ายและยาก น้อง ๆ สามารถเริ่มได้ตั้งแต่วันนี้ หากเรามีเวลาพร้อมแบ่งปัน ไม่ว่าจะตามแบบไอดอลรุ่นพี่คนเก่งดาราคนโปรด ลองปรึกษาผู้ปกครอง คุณครู ว่าจะสามารถมีส่วนร่วมกับชุมชนช่วยทำประโยชน์ที่เหมาะสมกับตัวเราแบบใดได้บ้าง
นอกจากนี้เมื่อฝึกทำกิจกรรมอาสาไว้ให้เป็นนิสัย การเรียนรู้วิถีความสัมพันธ์การสื่อสารกับชุมชน การแบ่งปันมีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่น การคิดถึงส่วนรวม การเสียสละ การทำงานร่วมกับผู้อื่นนั้นถือเป็นการฝึกทักษะให้กับตัวเราเอง ช่วยทำให้จิตใจของเรามีความเอื้อเฟื้ออ่อนโยน เราจะมีนิสัยที่ดีและมีทักษะที่เข้มแข็งมากพอ เมื่อถึงเวลาที่เติบโตออกไปเผชิญโลกสู่สังคมกว้างขึ้น ซึ่งมันจะติดตัวเราไปตลอด ไม่ว่าไปอยู่ที่ไหน เรียนในมหาวิทยาลัยหรือจบแล้วไปทำงานต่อ เราก็จะเป็นคนดีที่มีคุณภาพเป็นที่ต้องการของผู้อื่น เป็นเด็กรุ่นใหม่อย่างที่สังคมแต่ละชุมชนของประเทศต้องการแล้ววันหนึ่งเมื่อพร้อม น้อง ๆ มีเวลาส่วนตัวมากขึ้น อย่าลืมตั้งคำถามกับตัวเองว่า...
“วันนี้เราทำประโยชน์อะไรบ้างให้กับส่วนรวม”
พี่อ้อ อังสนา
- ข้อมูลอ้างอิง -
- เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์คุณธนาพงศ์ หาญกล้า
- เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์คุณอภิชญา ศรีม่วง
- 9 ดาราต้นแบบทำดี เพื่อสังคมที่ดีขึ้น https://entertainment.trueid.net/detail/KoMRZAaJJAdw
- ไอดอลจิตอาสา เรื่องราวดี ๆ ที่อยากแชร์ https://pantip.com/topic/39714139
- Teen Role Models: Who They Are, Why They Matter https://www.barna.com/research/teen-role-models-who-they-are-why-they-matter/
- Self-esteem and teenagers https://parents.au.reachout.com/common-concerns/everyday-issues/self-esteem-and-teenagers
- What are some common teenage responsibilities? https://lifestyle.howstuffworks.com/family/parenting/tweens-teens/common-teenage-responsibilities.htm