ศตวรรษที่ 21 ยุคที่โลกต้องการผู้ที่สามารถปรับตัวและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างสร้างสรรค์ ทักษะต่าง ๆ กลายเป็นเรื่องสำคัญมากในชีวิตของทุกคน แน่นอนหากลูกหลานของคุณค้นพบความถนัดของตัวเองและสามารถพัฒนาให้เป็นทักษะและความสามารถพิเศษ เป็นจุดแข็งได้ตั้งแต่วัยมัธยม คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองมั่นใจได้เลยว่า พวกเขาจะมีทิศทางชีวิตมีการเรียนมีอาชีพมีอนาคตที่ถูกต้องชัดเจน มุ่งสู่เป้าหมายอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง พร้อมที่จะเผชิญกับสังคมโลกแห่งการแข่งขันในวันนี้ และในอนาคตโดยที่คุณไม่ต้องเป็นห่วงเป็นกังวลและหนักใจแต่อย่างใดเลย
ก่อนอื่นเรามาคลายความข้องใจของผู้ปกครองหลาย ๆ ท่าน เกี่ยวกับความสามารถ ความถนัดของเด็ก ๆ แต่เดิมเราเคยเข้าใจว่าความสามารถความถนัดของเด็กที่พิเศษแตกต่างโดดเด่นจากคนอื่นนั้นเรียกว่า “พรสวรรค์” ซึ่งหลายคนเชื่อว่าพรสวรรค์เป็นความสามารถพิเศษที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด แต่ในยุคนี้เราจะเห็นว่าพรสวรรค์นั้นเป็นสิ่งที่สามารถฝึกฝนได้ เพราะพรสวรรค์ที่ขาดการฝึกฝนสม่ำเสมอ และพัฒนาต่อยอดให้เป็นทักษะเป็นจุดแข็งแล้ว ถึงมีพรสวรรค์ก็อาจใช้ชีวิตไปได้ยากกับยุคนี้
หรือเด็กบางคนอาจมีพัฒนาการค่อนข้างช้า หรือเหมือนจะไม่มีพรสวรรค์ในตอนเด็ก จนกว่าพวกเขาจะโต ซึ่งอาจช้าเกินไปกับยุคสมัยที่ต้องมีความพร้อมในการแข่งขันเช่นนี้ ดังนั้นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองต้องช่วยพวกเขากระตุ้นดึงความถนัดออกมาให้เห็นชัดเจนโดดเด่นแข็งแกร่งไว้ตั้งแต่วัยนี้
วิธีง่าย ๆ อาจจะสังเกตจากพฤติกรรมกิจวัตรประจำวัน ในแต่ละวันตั้งแต่ตื่นนอน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม เล่นของเล่น อ่านหนังสือ วาดรูป ประดิษฐ์สิ่งของเครื่องใช้ เล่นดนตรี ฟังเพลงร้องเพลง เต้นรำ ดูทีวี ช่วยทำอาหาร ช่วยทำความสะอาดบ้าน หรือแม้แต่การทำสวน เด็ก ๆ มักจะมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่พวกเขาชอบมากจนลืมสิ่งอื่น อยู่กับสิ่งนั้นได้เป็นเวลานาน ๆ ชวนพูดคุยถามถึงสิ่งที่ทำนั้นอยู่ตลอดเวลา และแน่นอนพวกเขาค่อนข้างมีความสุขมีความตื่นเต้นกระตือรือร้นในสิ่งที่ตัวเองทำกับสิ่งนั้นเป็นประจำ
เด็กหลายคนอาจชอบทำหลายสิ่งหลายอย่างจนคุณอาจสับสน หรือเหมือนว่าจะทำดีเก่งไปทุกเรื่อง แต่คุณมั่นใจได้ว่า ในหลาย ๆ สิ่งจะมีบางสิ่งที่โดดเด่นและยอดเยี่ยมรวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน อย่าลืมว่าคุณต้องสังเกตทุกกิจกรรมให้ความรู้และสนับสนุนให้พวกเขาได้ทำอย่างที่เขาชอบจริง ๆ เปิดใจรับ อย่ากดดัน และไม่คาดหวังให้เป็นอย่างใจของผู้ปกครองเอง
ผลการเรียนอาจเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยนำมาเสริมความสังเกตของผู้ปกครองได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเด็กที่เรียนไม่เก่งจะหาความสามารถความถนัดไม่เจอ เด็กบางคนอาจสนุกในการทำการบ้าน ทำแบบฝึกหัด หรือเรียนในวิชาหนึ่ง แต่ผลการเรียนวิชานั้นอาจไม่ได้สูงเลยก็ได้ ผลการเรียนจึงไม่ใช่คำตอบที่เบ็ดเสร็จ เพราะอาจมีตัวแปรอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ครู ผู้สอน บรรยากาศการเรียน คุณอาจต้องใช้เวลาสังเกต เรียนรู้และทำความเข้าใจไปพร้อมกับลูก
คราวนี้เรามาดูว่าผู้ปกครองจะช่วยสนับสนุนพัฒนาความถนัดของพวกเขาให้เป็นทักษะได้อย่างไร
เมื่อคุณพบว่าจุดเด่นของเด็ก ๆ เกี่ยวข้องกับร่างกาย สนใจตัวเอง พวกเขาดูแข็งแรง ชอบเคลื่อนไหวไม่ชอบอยู่นิ่งเฉย สามารถต่อยอดพัฒนาความถนัดด้านนี้ ฝึกเป็นทักษะการตัดสินใจ ฝึกทักษะการแก้ปัญหา หรือการเป็นนักกิจกรรม สนับสนุนให้เล่นกีฬา ออกกำลังกายเป็นประจำในครอบครัว หรือให้พวกเขามีการแสดง เต้นรำ หรือทำกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
เด็กหลายคนชอบทำกิจกรรมต่าง ๆ เพียงลำพัง ไม่ค่อยชอบการสังสรรค์เข้าสังคม พวกเขาเก่ง มุ่งมั่นในการทำงานให้ไปถึงเป้าหมาย เข้าใจตัวเองชัดเจนว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร มีความเชื่อมั่นมั่นใจในความสามารถของตัวเอง พวกเขามีแนวโน้มที่จะค้นพบตัวเองก่อนคนอื่น
ความถนัดด้านนี้จะพัฒนาไปสู่ทักษะการตัดสินใจ ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
ผู้ปกครองที่มีลูกแบบนี้อย่าเพิ่งกังวลใจ คิดว่าเขาจะแปลกแยกจากสังคม ควรเปิดโอกาสให้พวกเขาทำสิ่งต่าง ๆ ตามลำพัง ให้รู้สึกเป็นอิสระ แต่ไม่ใช่หมกมุ่นเก็บตัวจนละเลยสังคม แนะนำให้เห็นคุณค่าของตัวเองนับถือตัวเอง ขณะเดียวกันก็ต้องเข้าใจผู้อื่นด้วย สนับสนุนให้ทำกิจกรรมที่ใช้ตัวเองถ่ายทอดสิ่งต่าง ๆ เช่น ฝึกเขียนนิทาน เขียนบันทึก
เด็กหลายคนชอบการเรียนวิชาต่าง ๆ มาก แม้จะไม่ได้อยู่ในห้องเรียน พวกเขาดูเก่งทางด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ชอบคิดเลข ชอบแก้ไขปริศนา หรือสนใจภาษาอื่น ๆ ขยันท่องคำศัพท์เป็นพิเศษ สนใจที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมในสิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งความถนัดโดดเด่นด้านนี้จะสามารถพัฒนาไปสู่ทักษะการสื่อสาร ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
ผู้ปกครองควรรับฟังความคิดเห็นของพวกเขาในทุกเรื่อง แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ตอบคำถามด้วยความเต็มใจใส่ใจ และกระตือรือร้น สนับสนุนให้พวกเขาได้มีเวทีพูด อ่าน ฟัง เขียนเรื่องราวที่สนใจ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ จัดเตรียมหนังสือ คอมพิวเตอร์ สื่อมัลติเดียต่าง ๆ พาไปเรียนรู้วิธีใช้ห้องสมุด ไปพิพิธภัณฑ์ ศูนย์วิทยาศาสตร์การเรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อให้พวกเขาค้นคว้าได้ตรงตามความชอบความถนัดของตัวเอง
นำเสนอหรือใช้ชีวิตในบ้านให้เป็นเรื่องปกติโดยมีส่วนร่วมในการเล่นเกมที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหา ไขปริศนา พูดคุยกันเป็นภาษาต่างประเทศ ฟังเสียงภาษาต่างประเทศตามที่เขาสนใจ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ หนัง หรือเพลง รวมไปถึงแนะนำเรื่องการใช้จ่าย ทำบัญชีเบื้องต้น การมัธยัสถ์อดออม พวกเขาจะเรียนรู้และเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว
พวกเขาจะมีความไวต่อเสียง ตอบสนองสิ่งเร้าภายนอกได้ดี มีโลกจินตนาการเป็นของตัวเอง สามารถเชื่อมโยงและแยกแยะสิ่งต่าง ๆ ได้ ความถนัดด้านนี้จะต่อยอดไปเป็นทักษะการคิดสร้างสรรค์ประยุกต์ปรับเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ ให้เข้ากับตัวเขา อันเป็นทักษะสำคัญอย่างมากในยุคนี้
สิ่งที่ผู้ปกครองควรช่วยสนับสนุนคือ ฝึกให้เขาแยกแยะโลกจินตนาการและโลกแห่งความจริง และใช้มันได้อย่างสมดุล สนับสนุนให้เขาเลือกเล่นเครื่องดนตรีฟังเพลงวาดภาพตามความชอบความถนัด หรือจัดเวลาพาลูกไปดูการแสดงดนตรี หอศิลปะ พิพิธภัณฑ์ รวมถึงนิทรรศการต่าง ๆ และที่สำคัญแสดงความชื่นชมผลงานของพวกเขาอย่างจริงใจและมีเหตุผล แม้มันจะไม่ใช่สิ่งที่ตัวผู้ปกครองชอบก็ตาม
พวกเขาชอบการสังสรรค์มีเพื่อนมาก ชอบทำงานร่วมกับคนอื่น มีแนวโน้มของการเป็นผู้นำสูง ขณะเดียวกันก็มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น สนับสนุนให้พัฒนะเป็นจุดแข็งเป็นทักษะการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพที่ไม่ยากเลย
สิ่งที่ผู้ปกครองควรทำคือ แนะนำให้เขาเรียนรู้ถึงลักษณะผู้คนแบบต่าง ๆ การวางตัว การพูดจากับผู้ใหญ่ กับเพื่อน ๆ กับบุคคลอื่น การเลือกคบเพื่อน รวมถึงกิจกรรมการทำงานสาธารณะที่เหมาะสมกับวัยของตน แนะนำให้เขาเรียนรู้ถึงการแบ่งปัน จริยธรรม การอยู่ในสังคมอย่างไม่เอาเปรียบผู้อื่น และไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบหรือใช้ประโยชน์มากจนเกินไป ให้พวกเขาเรียนรู้ถึงข้อดีข้อเสียของอำนาจ หน้าที่ตัวเองและผู้อื่นในทิศทางที่ถูกต้อง
นอกจากนี้ควรเชื่อมั่นในตัวเขาให้ความไว้วางใจ มอบหมายบางกิจกรรมในบ้านให้เขาเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบเป็นตัวหลัก
เด็กกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มักจะซนเป็นปกติ ชอบเรียนรู้ท่องเที่ยวผจญภัยในโลกกว้าง ชอบสำรวจสังเกตสิ่งต่าง ๆ แยกแยะสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้ดี ชอบดูแลสัตว์เลี้ยง ปลูกต้นไม้ ซึ่งความถนัดนี้สามารถพัฒนาเป็นทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะการคิดสร้างสรรค์ และยังช่วยขัดเกลาเพิ่มความอ่อนโยนให้จิตใจพวกเขาอีกด้วย
ผู้ปกครองสามารถส่งเสริมให้เขาเรียนรู้การดูแลสัตว์เลี้ยง ปลูกต้นไม้ดอกไม้ที่บ้านอย่างถูกต้อง หรืออาจพาเขาไปเรียนรู้งานเกษตรกรรม ปศุสัตว์หากเขาสนใจสิ่งเหล่านี้มากขึ้น
พาไปเที่ยวสถานที่ที่เขาสนใจ แนวป่าเขาลำเนาไพร เข้าค่ายกิจกรรมเรียนรู้สิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศน์ของธรรมชาติ น่าจะช่วยปูทางให้เขาสร้างพัฒนาการทางด้านนี้ได้เป็นอย่างดี
จะเห็นได้ว่าการสังเกตและช่วยสนับสนุนความชอบความถนัดของเด็ก ๆ ของคุณไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย จัดเวลาให้เหมาะสมคอยช่วยแนะนำดูแลคอยกระตุ้นให้พวกเขาฝึกฝนให้เป็นทักษะประจำตัวอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งฝึกฝนประสบการณ์พัฒนาทักษะเหล่านั้นให้กลายเป็นจุดแข็งตามความถนัดความสามารถของแต่ละคน เพื่อเตรียมพร้อมพัฒนาให้พวกเขามีประสิทธิภาพมีศักยภาพสำหรับการเรียนการใช้ชีวิตต่อไปในอนาคต
อังสนา ทรัพย์สิน
ข้อมูลอ้างอิง
บทสัมภาษณ์/แบบสอบถาม พ่อแม่ ผู้ปกครอง คุณครู และเด็ก ๆ
ทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 https://www.okmd.or.th/okmd-opportunity/new-gen/262/
OECD Education and Skills Today https://oecdedutoday.com/educating-healthy-happy-children-digital-age/
10 Life Skills to Teach Your Child by Age 10 https://www.parents.com/parenting/better-parenting/advice/10-life-skills-to-teach-your-child-by-age-10/
Partners in Life Skills Education https://www.who.int/mental_health/media/en/30.pdf
ทักษะอะไรบ้างที่เด็กในศตวรรษที่ 21 จำเป็นต้องมี https://www.britishcouncil.or.th/english/tips/general/miscellaneous/what-skills-do-children-need-in-the-21-century
มาค้นหาพรสวรรค์ของลูกด้วยทฤษฏีพหุปัญญา (Multiple intelligences) ของ Howard Gardner กันครับ https://pantip.com/topic/33338979
รีวิวชีวิตคนเลี้ยงลูกจากอนุบาลถึงมหาวิทยาลัย ต้องใส่ใจให้ลูกเรียนแบบไหนถึงจะให้ลูกได้ดี https://pantip.com/topic/41153971
ทำยังไงให้ลูกเจอสิ่งที่รัก รู้ว่าอยากทำงานอะไร อยากเข้าคณะอะไร แนะนำทีครับ https://pantip.com/topic/40250497
เมื่อลูกอยู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร หรืออยากเป็นอะไร คุณพ่อคุณแม่ทำยังไงกันบ้างคะ https://pantip.com/topic/38676518