Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ข้อควรรู้ เมื่อลูกอยากเรียนโรงเรียนต่างประเทศ

Posted By Plook TCAS | 15 ก.พ. 65
5,665 Views

  Favorite

            เด็กหลายคนในวัยนี้ยุคนี้ด้วยวัยที่อยากรู้อยากเห็นอยากมีประสบการณ์ใหม่ ๆ ส่วนใหญ่มีความฝันหวังว่าจะได้ไปเรียนต่อต่างประเทศ หรือเรียนโรงเรียนอินเตอร์ หรือแม้แต่คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองบางครอบครัวเองก็อยากปูอนาคตให้โอกาสทางการศึกษาที่ดีที่สุดให้แก่ลูกหลาน ดังนั้นเราเตรียมข้อมูลที่น่าสนใจไว้ให้ง่ายขึ้นสะดวกขึ้นในการตัดสินใจส่งเด็ก ๆ ไปเรียนต่อต่างประเทศ ไปดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง

 

1. คุยสื่อสารให้เข้าใจตรงกัน

            ไม่ว่าจะเป็นความฝันของใคร จะเป็นตัวเด็ก ๆ เองหรือคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครอง คุยสื่อสารกันให้ชัดเจนว่า เด็ก ๆ อยากไปเรียนต่อเมืองนอกจริง ๆ หรือเปล่า อาจเป็นแค่เติมเต็มความฝันของคุณพ่อคุณแม่เอง หรือว่าเด็ก ๆ เฮตามกระแสตามเพื่อน ๆ หรือแค่อยากไปเที่ยวเมืองนอก ต้องคุยกันให้เข้าใจ เพราะการไปใช้ชีวิตเรียนต่อ ม.ปลายที่ต่างประเทศนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ  ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมวัฒนธรรมที่ไม่คุ้นเคย ภาษา ชีวิตประจำวันที่แตกต่าง แม้จะตื่นเต้นแต่การใช้ชีวิตมากกว่าปีสองปีนั้นเป็นเรื่องที่ต้องเตรียมพร้อมต้องชอบจริง ๆ และสุดท้ายต้องมั่นใจกับการตัดสินใจที่จะต้องไปผจญภัยเพียงลำพัง และได้รับประสบการณ์อะไรกลับมา นอกเหนือจากประกาศนียบัตรทางการศึกษา

 

2. วางเป้าหมายให้ชัดเจน

            เมื่อมั่นใจกันแล้ววางเป้าหมายให้ชัดเจน ควรช่วยเด็ก ๆ หาตัวตนให้พบ ให้แน่ใจว่าพวกเขาต้องการเรียนอะไร ต้องการทำงานอะไร  ซึ่งถ้าวางเป้าหมายแล้วจะทำให้ง่ายขึ้นในการเตรียมตัว  จะแค่เรียนหลักสูตรระยะสั้นไปดูชีวิตหาประสบการณ์ หรือต้องเรียนต่อไปถึงปริญญาตรี-โท เพื่อหางานทำตามที่ตัวเองชอบ รวมถึงแผนสำรองไว้หากเมื่อไปเรียนแล้วมีสิ่งอื่นที่น่าสนใจตรงจริตและอยากเรียนมากกว่า  เพราะในแต่ละระดับชั้นเรียนมีความแตกต่างกันในเรื่องการเตรียมตัว หาข้อมูลเรียนรู้กับประเทศนั้น ๆ เมื่อเป้าหมายชัดเจน แล้วก็มุ่งมั่นมุ่งหน้าไปหาเป้าหมายที่วางไว้

 

3. หาข้อมูล ร่วมกันวิเคราะห์

            การหาข้อมูลสะสมมาวิเคราะห์ให้ละเอียด เตรียมตัวให้พร้อมเป็นสิ่งที่สำคัญมาก  ช่วยกำหนดความชัดเจนของเป้าหมายลงไปมากยิ่งขึ้น อยากไปเรียนรู้ประสบการณ์จากประเทศไหน สนใจหลักสูตรการเรียนของประเทศใด ซึ่งแต่ละประเทศนั้นมีแผนมีระบบการศึกษาแตกต่างกัน ไม่ว่าหลักสูตรระยะสั้นหรือระยะยาว  วันเวลาเปิด/ปิดภาคเรียน วิชาที่เรียนต้องมีการปรับพื้นฐานหรือไม่หรือสามารถเข้าเรียนได้เลย เมื่อเรียนจบมัธยมปลายแล้ว หลักสูตรสามารถต่อระดับมหาวิทยาลัยได้เลยหรือไม่

            การหาข้อมูลคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองอาจหาจากเว็บไซต์โรงเรียนในต่างประเทศ หรือผ่านกิจกรรมของตัวแทนโรงเรียนต่างประเทศ ซึ่งมีอยู่จำนวนไม่น้อย ทั้งเป็นของโรงเรียน มหาวิทยาลัยเอง หรือจะเป็นตัวแทนเอกชนที่ทำธุรกิจด้านการศึกษาโดยเฉพาะ หรือเพื่อน ๆ ผู้ปกครองท่านอื่น รุ่นพี่ที่เคยใช้ชีวิตการเรียนในโรงเรียนประเทศนั้น ๆ  รวมถึงอาจคุยขอคำแนะนำเพิ่มจากคุณครูประจำชั้นคุณครูแนะแนวของที่โรงเรียนเอง เพื่อความสะดวกในการจัดเตรียมเอกสารสำคัญที่ต้องใช้สำหรับตัวเด็กด้วย 

 

4. เงินทุนค่าใช้จ่าย

            เรื่องใหญ่เรื่องสำคัญที่จริง ๆ แล้วสำหรับคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองต้องนำขึ้นมาพิจารณาตั้งแต่แรกก่อนคุยกับเด็ก ๆ สื่อสารกันตรง ๆ ว่าคุณพร้อมหรือไม่ คำนวณให้รอบคอบ การไปเรียนไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ ไม่ว่าหลักสูตรสั้น ๆ ปีสองปีหรือต่อเนื่องยาวในปริญญาตรี-โท-เอกนั้น ไม่มีต่ำกว่าหลักแสนเกินล้านอย่างแน่นอน ซึ่งจะกี่ล้านนั้นก็คงอยู่ที่ประเทศและระยะเวลาของการเรียน ค่าเทอม ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายส่วนตัว และอื่น ๆ ฯลฯ

            ถึงแม้เด็กจะยืนยันว่าจะสอบชิงทุน เรียนฟรี พวกเขาก็ต้องเป็นเด็กที่เก่งมาก ๆ หรือมีทักษะความเฉลียวฉลาดเพียงพอกับการแข่งขัน เช็กรายละเอียดเรื่องทุนการศึกษาให้ชัดเจนว่าแค่สนับสนุนบางเรื่อง ต้องจ่ายเงินสบทบหรือไม่ หรือฟรีเต็มจำนวนแล้วต้องทำงานใช้คืนในภายหลัง  หรือเด็กบางคนอาจบอกว่าจะทำงานไปด้วย ด้วยการเรียนในระดับมัธยมปลาย และวัยเด็ก ๆ อาจยังทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยไม่ได้ แต่เด็กที่ขยันมุ่งมั่นและตั้งใจจริงอาจมีโอกาสทำงานหาเงิน ในกิจการของคนไทยหรืองานพิเศษของโรงเรียนของมหาวิทยาลัย หรือในยุคนี้เด็กบางคนใช้โซเชียลช่วย ถ่ายภาพสถานที่ วัฒนธรรม เขียนเล่าเรื่องชีวิตการศึกษาในต่างแดน แต่งนิยาย เป็นยูทูปเบอร์ บล็อกเกอร์ สร้างรายได้ได้พอสมควร แต่มันก็ต้องใช้ระยะเวลาและแบ่งเวลาให้กับการเรียนเป็นหลัก ซึ่งเงินเหล่านั้นอาจพอเป็นเงินเก็บสะสมสำรองค่าใช้จ่ายหรืออาจช่วยคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองในเรื่องค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น

 

5. ที่พัก

            อีกหนึ่งเรื่องใหญ่เรื่องสำคัญ ด้วยวัยมัธยมต้นของพวกเขา อาจต้องตรวจสอบเรื่องที่พักให้ละเอียดรอบคอบว่าเป็นหอพักของโรงเรียนเองหรือหอพักภายนอก ซึ่งควรจะเป็นเรื่องที่ต้องหาข้อมูลวิเคราะห์ไปพร้อม ๆ กับที่เรียน เพราะเด็ก ๆ ต้องใช้เวลาหลายปีในการพักอาศัย  สำหรับครอบครัวที่ไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายอาจหาที่พักเป็นของตัวเองและมีคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองไปช่วยอยู่ดูแล หรือการให้เด็กไปพักกับญาติหรือเพื่อนสนิทที่มีบ้านมีครอบครัวอยู่ในประเทศนั้น จะช่วยเรื่องความเป็นอยู่และความปลอดภัยเป็นอย่างมาก หรือแม้แต่ทุนเองอาจมีโฮสต์เจ้าบ้านช่วยสนับสนุนในโครงการ นั่นก็ช่วยให้ผู้ปกครองมั่นใจในความปลอดภัยของบุตรหลานได้มากยิ่งขึ้นกว่าให้พวกเขาต้องอยู่ตามลำพัง ซึ่งนั่นอาจเป็นประสบการณ์ชีวิตที่หนักหนาและยากไม่แพ้เรื่องเรียน

            ก่อนไปเรียนแนะนำให้เด็ก ๆ เรียนรู้หาข้อมูลของเมืองที่เป็นที่พักเมืองอื่น ๆ เส้นทางโดยรอบการเดินทาง การใช้รถโดยสารสาธารณะ ตลาด ร้านค้า ฯลฯ จะได้สะดวกกับการใช้ชีวิตเมื่อไปถึง

 

6. ฝึกฝนทักษะภาษา

            การไปเรียนต่างประเทศไม่ว่าจะในยุโรป อเมริกา หรือแม้แต่ในเอเชียเอง เด็ก ๆ ต้องมีพื้นฐานภาษาตามหลักเกณฑ์การเรียนการสอบของประเทศนั้น ๆ บางประเทศมีภาษาถิ่น ภาษาที่สอง หรืออาจเป็นภาษาหลักของประเทศของเขาเอง เด็ก ๆ ควรฝึกฝนทักษะภาษาของเขาเพิ่มด้วย อย่างเช่น ฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฯลฯ หากเด็ก ๆ เก่งหลายภาษา หรือมีพื้นฐานก่อนไปอยู่ สามารถสื่อสารขอความช่วยเหลือได้ การใช้ชีวิตอยู่ต่างบ้านต่างเมืองย่อมมีปัญหาน้อยลงอย่างแน่นอน

 

7. ฝึกความแข็งแกร่งและการเอาตัวรอด

            คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองควรแนะนำทักษะการรับผิดชอบตัวเองในทุกๆ ด้านอีกด้วย แนะนำทัศนคติการใช้ชีวิตตามลำพัง ความขยัน ความอดทน การอ่อนน้อมถ่อมตน ทักษะพื้นฐานการอยู่ร่วมกับผู้อื่น การวางตัวกับคนแปลกหน้า  การดูแลช่วยเหลือตัวเองเวลาไม่สบายเล็ก ๆ น้อย การสร้างความแข็งแรงทางร่างกายให้ตัวเอง ในเวลาที่ต้องไปต่างบ้านต่างเมือง การเจ็บไข้ได้ป่วยจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก เพราะไม่ใช่บ้านเมืองของเรา ดังนั้นการดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจจึงเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งการฝึกทำอาหารกินเอง สอนการประหยัดอดออม ทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง การรีไซเคิลของใช้ ทักษะไหวพริบการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง การเอาตัวรอด ซึ่งทักษะเหล่านี้จะอยู่ติดกับตัวเด็ก ๆ ไปตลอดชีวิต

 

            ข้อมูลที่เราแนะนำอาจเป็นเพียงพื้นฐานเบื้องต้นเล็กน้อย รายละเอียดปลีกย่อยแต่ละขั้นตอนมีอีกมาก ซึ่งยิ่งเตรียมการล่วงหน้าได้เร็วได้ละเอียดมากเท่าใด เด็ก ๆ ก็จะมีความพร้อมในการไปเรียนต่อมากขึ้นเท่านั้น

 

            การเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับอนาคตนั้นเป็นเรื่องสำคัญ ต้องมั่นใจว่าพร้อมในทุก ๆ เรื่อง หากไม่พร้อมจริง ๆ อาจให้เด็ก ๆ รอไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยซึ่งอาจง่ายกว่าหลาย ๆ เรื่องในช่วงวัยนี้ คุยกับเด็ก ๆ ด้วยเหตุผลให้ชัดเจน กระตุ้นให้พวกเขามุ่งมั่นตั้งเป้าหมายกับชีวิตของตัวเองแล้วเขียนแผนที่อนาคตทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางสำรอง จะได้ไม่ต้องเสียเวลาปรับเปลี่ยนเส้นทางใหม่ แล้วคอยสนับสนุนให้พวกเขามุ่งมั่นมานะอดทนขยันเรียนไปในเส้นทางที่ตั้งใจไว้ให้เต็มที่ การไปเรียนต่างประเทศย่อมไปสู่ความสำเร็จในอนาคตตามความตั้งใจของพวกเขาได้อย่างแน่นอน

 

อังสนา ทรัพย์สิน

 

ข้อมูลอ้างอิง บทสัมภาษณ์/แบบสอบถาม พ่อแม่ ผู้ปกครอง คุณครู และเด็ก ๆ จาก http://www.youthradioandmedia.org, http://www.oecd.org, https://www.familylives.org.ukhttps://www.amarinbabyandkids.com, https://pantip.com/forum/family

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook TCAS
  • 29 Followers
  • Follow