วันนี้เจ้าตัวเล็กของคุณไม่เป็นเด็กอีกต่อไป พวกเขากำลังจะเรียนต่อ ม.ปลาย เด็ก หลายคนอาจมาสอบเข้าเรียนต่อในกรุงเทพฯ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองต้องแนะนำให้พวกเขาปรับตัวไว้ตั้งแต่ตอนนี้จะได้เบาใจขึ้นหากเด็ก ๆ ต้องไปอยู่ตามลำพังกับญาติหรือพี่ ๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ ถึงแม้บางครอบครัวที่คุณพ่อคุณแม่ตามไปอยู่ดูแล แต่เอาเข้าจริงเราคงไม่อาจดูแลเขาได้ตลอดเวลา ฝึกทักษะแนะนำพวกเขาให้เตรียมพร้อมไว้ก่อนเป็นสิ่งดีที่ที่สุด
การฝึกเรียนรู้ถึงการบริหารจัดการเวลาตั้งแต่พวกเขายังเด็ก ๆ นั้น จะทำให้ไปสู่เป้าหมายความสำเร็จได้ง่ายขึ้น การมีวินัยนั้นทำให้ชีวิตของพวกเขามีระเบียบและเป็นระบบโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าเรื่องการเรียนหรือการใช้ชีวิตประจำวัน ช่วยให้เขาจัดการตัวเองและสิ่งรอบตัวได้ดีขึ้น มีตารางเรียนตารางช่วยเหลืองานบ้านและตารางเวลาเล่น เรียนรู้การเรียงลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องทำว่าอะไรก่อนอะไรหลัง คุณจะได้เบาใจหมดห่วงไร้กังวลในสารพัดเรื่องไปได้เยอะ
ยิ่งการใช้ชีวิตประจำวันในกรุงเทพฯ ด้วยแล้ว เวลาเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ผู้คนเร่งรีบต้องตื่นแต่เช้าเพื่อการเดินทางหลีกเลี่ยงการจราจรที่คับคั่ง แม้ในเมืองกรุงจะสะดวกกับการเดินทางสาธารณะก็ตาม คุณอาจพาเด็ก ๆ มารู้จักถนนหนทางวิธีการเดินทางจากบ้านไปโรงเรียนเป็นตัวช่วยอีกทางหนึ่งให้คำนวณเวลาได้ง่ายขึ้น
การมาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองจำเป็นต้องอธิบายให้เขาเข้าใจว่าจะพบเจอกับสิ่งใดบ้าง พวกเขาต้องปรับตัวให้เป็นโดยเร็วและต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลา แนะนำการประยุกต์ที่เหมาะสมกับตัวของพวกเขา ไม่ว่าจะการแข่งขันเรื่องการเรียน หรืออาจมีเพื่อนหรือใครล้อเลียนบูลลี่ พวกเขาอาจถูกกลั่นแกล้งแบบไร้สาระเปรียบเทียบความแตกต่างของเด็กต่างจังหวัด ฝึกให้พวกเขารับรู้แล้วผ่านไป อย่าเอามาใส่ใจคิดมากให้เกิดเป็นความทุกข์หรือเก็บกดกับการถูกบูลลี่ เพราะหากเด็ก ๆ อดกลั้นเก็บกดมากเกินไปอาจกลายเป็นภาวะซึมเศร้าได้ง่าย รวมถึงต้องปรับตัวและอดทนต่อความเข้มงวดของคุณครูและญาติผู้ใหญ่ที่เด็ก ๆ ไปอาศัยอยู่ด้วย ทักษะเหล่านี้คุณต้องคอยแนะนำให้กำลังใจอยู่ตลอด และต้องใช้เวลาในการฝึกฝน แต่หากพวกเขาสามารถมีทักษะแล้วนี้แล้ว มันจะเป็นสิ่งติดตัวคอยช่วยชีวิตเขาตลอดไปจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแกร่งไม่ว่าจะอยู่ในกรุงเทพฯ หรือที่ไหนก็ตาม
เด็กยิ่งไกลบ้านห่างจากคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองยิ่งต้องฝึกให้เขามีมารยาทในทุกเรื่อง การแสดงออก การพูดจา การรับประทานอาหาร และนิสัยส่วนตัวอื่น ๆ ท่องจำไว้เสมอว่า ไม่มีใครรักไม่มีใครเอ็นดูเด็กที่ก้าวร้าว ยิ่งให้พวกเขาอ่อนน้อมถ่อมตัวรู้จักการวางตัวกับผู้ใหญ่แล้ว ใคร ๆ ก็จะรักให้ความช่วยเหลือไม่ว่าญาติ คนข้างบ้าน หรือคุณครูที่โรงเรียน
การแนะนำฝึกให้เด็ก ๆ รู้จักแยกแยะผู้คน ผู้คนในปัจจุบันมีหลากหลายประเภท ทั้งคนดีคนไม่ดี ยิ่งคนในกรุงเทพฯ ปะปนมากมายผู้ใหญ่เองยังแยกออกยาก ทั้งเพื่อนในโรงเรียน หรือคนภายนอก ทักษะนี้อาจจะต้องใช้เวลานานมาก แต่ต้องมีพื้นฐานติดตัวไว้บ้าง เพราะสมัยนี้คนไม่ดี มิจฉาชีพมีอยู่รอบตัวสรรหาแนวทางเลวร้ายใหม่ ๆ ทุกรูปแบบ ฝึกให้ระวังคนแปลกหน้า แนะนำเด็ก ๆ ว่าเมื่อมีสังคมใหม่ ๆ ควรให้คุณรับรู้และช่วยกันวิเคราะห์ไปด้วยกัน
ในขณะเดียวกันก็ไม่ใช่หวาดกลัวขาดความมั่นใจจนกระทั่งกลายเป็นคนเก็บตัวมากเกินไป นั่นอาจทำให้รู้สึกโดดเดี่ยวและขาดประสบการณ์ในการเรียนรู้ผู้คน และจะทำให้อยู่ในกลุ่มเพื่อน ๆ ลำบาก ยิ่งในห้องเรียนควรมีกิจกรรมกับเพื่อน ๆ มีเพื่อนสนิท เรียนรู้การช่วยเหลือในการทำการบ้าน ทำงานกลุ่ม พร้อมทั้งรู้ถึงความเหมาะสมพยายามวางตัวให้ห่างจากเด็กเกเร เด็กดื้อ หรือเด็กที่มีทีท่าชักชวนให้ไปผิดทาง ถึงแม้จะเป็นรุ่นพี่ก็ตาม
การใช้ชีวิตในกรุงเทพ ฯ นั้น ค่าครองชีพสูงกว่าที่ต่างจังหวัดมาก ทั้งยังมีสิ่งยั่วยวนให้เสียเงินมากมาย โรงหนัง ห้างสรรพสินค้า ร้านน้ำ ร้านขนม หรือแม้แต่เกมออนไลน์ เว็บขายของออนไลน์ ฯลฯ การแนะนำฝึกให้เด็ก ๆ รู้จักรับผิดชอบตัวเองให้เข้มแข็งกับสิ่งหลอกล่อเย้ายวน ช่วยฝึกทักษะในการทำบัญชีเบื้องต้นง่าย ๆ บันทึกรายรับ-รายจ่าย ฝึกให้หยอดกระปุกเป็นประจำ ฝึกเปรียบเทียบราคาของก่อนซื้อ และพิจารณาเฉพาะสิ่งที่จำเป็นกับตัวเอง หรืออาจแนะนำงานพิเศษที่ไม่หนักเกินไปสำหรับพวกเขา เพื่อจะได้ฝึกการรับผิดชอบเงินส่วนตัว อดออมไว้ใช้จ่ายในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
บางทีอาจเป็นเรื่องยากหากเด็กไปเรียนในสังคมใหม่ มีเพื่อนเป็นเด็กที่เกิดและเติบโตในกรุงเทพฯ การใช้ชีวิตอาจแตกต่างกัน คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองต้องคุยกับเด็กให้เข้าใจตรงนี้ให้ดี เพราะหลายคนอาจลำบากในการปรับตัว หรืออยากใช้จ่ายกับข้าวของราคาแพงแบบเพื่อน ๆ
สิ่งหนึ่งที่สำคัญหากเด็ก ๆ พลั้งเผลอไปคุณควรแนะนำในการใช้จ่ายที่ถูกต้อง ห้ามว่ากล่าวดุด่า หรืออ้างความลำบากในการหาเงินมาส่งเสียพวกเขา อาจทำให้เด็ก ๆ เกิดความน้อยใจและห่างจากตัวคุณไปสู่เส้นทางเลวร้ายได้
ชีวิตของเด็กนักเรียนในกรุงเทพฯ นั้นการแข่งขันสูงมาก ๆ โดยเฉพาะเรื่องการเรียน ยิ่งเป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลายแล้ว การเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยเป็นหัวใจสำคัญในช่วงเวลานี้ ต้องฝึกให้พวกเขารู้จักเวลา ฝึกความขยันหมั่นเพียรให้อยู่ในความคิดของพวกเขาตลอดเวลา เพราะหากพวกเขาละเลยอาจทำให้พลาดเป้าหมายในการเรียนต่อ คุณเองก็ต้องคอยดูแลเพิ่มเติมทักษะในสิ่งที่เด็ก ๆ ขาด และพัฒนาทักษะที่พวกเขาถนัดไว้แต่เนิ่น ๆ และคอยกระตุ้นเตือนเป็นระยะ แต่ไม่ใช่บังคับเคี่ยวเข็ญกับพวกเขาจนเกินไป
ถึงแม้ว่าเด็ก ๆ จะไปอยู่กรุงเทพฯ แล้ว และดูเหมือนว่าลูก ๆ หลาน ๆ ของคุณจะพร้อมที่ก้าวออกไปสู่โลกภายนอกใช้ชีวิตกับนักเรียนชั้นมัธยมปลายแล้วก็ตาม คุณยังคงต้องคอยฟังข่าวสารแม้จะอยู่ห่างไกลกัน กำลังใจความรักความห่วงใย เด็ก ๆ ยังคงต้องการอยู่ตลอดเวลา เช่นเดียวกับคำแนะนำให้คำปรึกษาในการปรับตัวเพื่อพัฒนาไปสู่การเติบโตในอนาคต และนั่นคือสายใยที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ได้อย่างปลอดภัยมีความสุข และไปถึงจุดหมายที่พวกเขาได้วางไว้
อังสนา ทรัพย์สิน
ข้อมูลอ้างอิง บทสัมภาษณ์/แบบสอบถาม พ่อแม่ ผู้ปกครอง คุณครู และเด็ก ๆ จาก http://www.youthradioandmedia.org, http://www.oecd.org, https://www.familylives.org.uk, https://www.amarinbabyandkids.com, https://pantip.com/forum/family