1. nice เป็นคำที่ใช้มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ในความหมายว่า โง่เขลา เช่นเดียวกับ ignorant หรือ foolish
2. nice มีรากศัพท์มาจากคำภาษาลาตินว่า nescius หมายถึง โง่ (ignorant)
3. nice ยังใช้อ้างถึงความรู้สึกที่ไม่ดีต่าง ๆ รวมถึงความป่าเถื่อน (wantonness), ความฟุ่มเฟือย (extravagance), การโอ้อวด (ostentation), ความใคร่ (lasciviousness), ความขี้ขลาด (cowardice) และความเกียจคร้าน (sloth)
4. ในยุคกลางความหมายในเชิงลบของ nice ก็อ่อนลง กลายเป็นคำที่ให้ความหมายว่า การโอ้อวดหรือความขี้ขลาด ถึงจะไม่ใช่ในทางลบ แต่ก็ยังไม่ใช่ในทางบวก เรียกว่าเป็นความหมายกลาง ๆ
5. ในศตวรรษที่ 17 และ 18 ผู้คนชื่นชอบความสุภาพ เรียบร้อย (สังเกตได้จากเสื้อผ้า) นั่นเป็นเหตุผลให้ nice มีความหมายในทางบวกมากขึ้น โดย Oxford ชี้ให้เห็นว่า nice เริ่มมีความหมายบ่งบอกถึง ความน่านับถือ (respectability), คุณงามความดี (virtue), สุภาพเรียบร้อย (refined) และกริยามารยาทสุภาพ
6. nice มักใช้ในภาษาพูด สามารถใช้ในการสนทนาได้ทุกวัน แต่เป็นคำต้องห้ามที่จะใช้ในงานเขียน เพราะ nice ไม่มีความหมายไปทางใดทางหนึ่ง ทำให้ไร้สีสัน ไม่มีไหวพริบ ไม่มีความหมายชัดเจนในงานเขียน อีกทั้งเพราะมีความหมายได้ทั้งในทางบวกและทางลบ ทำให้สื่อความหมายได้ไม่ชัดเจน จึงไม่เหมาะกับงานเขียนที่ต้องอธิบายให้ผู้อ่านได้จินตนาการถึงได้อย่างชัดเจน