การทำสมาธิขณะตั้งครรภ์ นอกจากจะช่วยให้คุณแม่จิตใจสงบและรู้สึกผ่อนคลายแล้ว ยังช่วยให้คุณแม่มีสติและส่งผลดีต่อร่างกายอีกด้วย

การทำสมาธิ คือ การทำจิตใจให้สงบนิ่ง เป็นการหยุดการทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้ร่างกายและจิตใจรู้สึกผ่อนคลาย สงบ ช่วยให้คุณแม่มีสมาธิ ลดอัตราการเต้นของหัวใจให้คงที่ ลดความตึงเครียด ช่วยให้การนอนหลับมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยจัดการระบบฮอร์โมนในร่างกายให้คงที่ และช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ

แม่ท้องที่ต้องการทำสมาธิ สามารถทำได้ง่าย ๆ จากกิจกรรมในชีวิตประจำวันเหล่านี้

1. การฟังเพลง

การฟังเพลงที่ชอบ โดยเฉพาะเพลงที่มีทำนองหรือจังหวะที่ผ่อนคลาย จะช่วยให้คุณแม่รู้สึกสงบและสบายใจมากขึ้น แนะนำให้แม่ท้องหาเวลานั่งฟังเพลงในท่าที่สบายท่ามกลางบรรยากาศที่ผ่อนคลาย จะช่วยเยียวยาจิตใจของแม่ท้องได้ดียิ่งขึ้น โดยอาจเป็นการฟังเพลงผ่านลำโพงเพื่อให้ลูกร่วมฟังเพลงไปกับคุณแม่ด้วย ก็จะช่วยให้ลูกในครรภ์อารมณ์ดี มีจิตใจแจ่มใส และช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านการฟังได้

2. อ่านหนังสือ

การอ่านหนังสือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่นอกจากแม่ท้องจะได้เพลิดเพลินไปกับตัวหนังสือและเรื่องราวในหนังสือแล้ว แม่ท้องยังสามารถฝึกสมาธิด้วยการอ่านหนังสือได้ด้วยการจดจ่ออยู่กับหน้าหนังสือ ทำจิตใจให้สงบ ไม่คิดเรื่องอื่น พยายามท่องไว้ในใจว่ากำลังอ่านหนังสืออยู่ และโฟกัสกับเนื้อหาในหนังสือแทน ทั้งนี้คุณแม่ควรเลือกอ่านหนังสือที่ชอบหรือที่มีเนื้อหาผ่อนคลาย ไม่เครียด

3. การเดิน

การเดินนอกจากจะเป็นการออกกำลังกายเบา ๆ ที่เหมาะสำหรับแม่ท้องแล้ว การกำหนดลมหายใจและกำหนดการก้าวเดินแต่ละก้าวยังช่วยให้แม่ท้องฝึกสมาธิไปในตัวได้อีกด้วย คำแนะนำคือให้แม่ท้องก้าวทีละก้าวอย่างช้า ๆ ระมัดระวัง ให้สมาธิจดจ่ออยู่กับการเดิน ไม่คิดเรื่องอื่น เพื่อป้องกันการเครียดหรือเหม่อลอยจนอาจเกิดอุบัติเหตุจากการสะดุดหรือก้าวพลาดได้

4. ฝึกโยคะ

โยคะเป็นการออกกำลังกายที่ฝึกความแข็งแรง เน้นการทำงานของหัวใจและการทำงานร่วมกันของอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยเรื่องสมาธิเป็นอย่างดีเพราะต้องโฟกัสที่ร่างกายโดยการเคลื่อนที่ช้า ๆ แต่มีประสิทธิภาพ แม่ท้องจะได้ฝึกการกำหนดลมหกายใจเข้าออก อยู่กับตัวเอง ช่วจให้จิตใจสงบนิ่ง และช่วยให้ร่างกายยืดเหยียดได้อีกด้วย

5. เล่นเกมฝึกสมาธิ

แม่ท้องหาสามารถหาเกมฝึกสมาธิมาเล่นได้ อาทิ เกมปริศนาอักษรไขว้ ต่อจิ๊กซอว์ ต่อตัวต่อ โซดูกุ ฯลฯ หรือจะเป็นกิจกรรมงานอดิเรกอื่น ๆ ที่แม่ท้องชื่นชอบก็ได้เช่นกัน อาทิ การถักโครเชต์ การปักครอสติช วาดรูป ระบายสี ทำอาหาร หรือทำงานฝีมือต่าง ๆ โดยระหว่างทำกิจกรรมแม่ท้องควรจดจ่ออยู่กับกิจกรรม ไม่คิดเรื่องอื่น เพื่อให้สภาพจิตใจของแม่ท้องรู้สึกผ่อนคลาย ไม่เครียด และสนุกไปกับกิจกรรมตรงหน้ามากที่สุด

การทำสมาธิในช่วงตั้งครรภ์ นอกจากจะช่วยเยียวยาจิตใจและช่วยให้ร่างกายของแม่ท้องรู้สึกผ่อนคลายแล้ว ยังช่วยให้ลูกในครรภ์รู้สึกถึงความสงบและสบายใจด้วยในเวลาเดียวกัน