รถเข็นเด็ก ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมสำหรับเด็กในแต่ละช่วงวัย เพราะเด็กในวัยที่แตกต่างกันจะมีสรีระ พัฒนาการ และความบอบบางแตกต่างกัน รถเข็นเด็กจึงเป็นสิ่งที่เฉพาะเจาะจงที่คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจ วันนี้เราจึงมีแนวทางการเลือกรถเข็นเด็กมาให้คุณพ่อคุณแม่พิจารณา ดังนี้
เด็กวัยทารกหรือเด็กเล็ก ไม่สามารถนั่งนาน ๆ ได้เนื่องจากคอยังไม่แข็งแรงพอ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรเลือกรถเข็นเด็กที่สามารถปรับระดับเบาะนอนได้
สำหรับเด็กวัยแรกเกิดถึง 3 ปี ควรเลือกรถเข็นเด็กที่สามารถปรับนอนราบได้ 170 องศา เพื่อให้เด็กสามารถเอนตัวนอนและหลับพักผ่อนได้
คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกรถเข็นที่วัสดุค่อนข้างดี แข็งแรง ทนทาน สามารถถอดเช็ดทำความสะอาดได้ รวมไปถึงสามารถพับเก็บและกางออกได้ง่าย เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น
ควรเลือกขนาดเบาะให้เหมาะสมกับตัวลูก ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป สอดรับกับสรีระของลูก ไม่แข็งหรือนุ่มเกินไป และควรเป็นวัสดุที่ระบายอากาศได้ดี สามารถถอดมาซักทำความสะอาดได้ง่าย นอกจากนี้เบาะของลูกยังควรมีความสูงจากพื้นมากกว่า 50 ซม. เพื่อให้ลูกห่างไกลจากสิ่งสกปรกบนพื้น และอยู่พ้นระยะความร้อนสะสมจากพื้น
ล้อรถเข็นเด็กนับเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ควรใส่ใจ ล้อรถเข็นควรมีความทนทาน เคลื่อนตัวได้ดี เข็นแล้วไม่ติดขัด สามารถบังคับทิศทางได้ง่าย และล้อคู่หน้าควรหมุนได้ 360 องศา
เพื่อป้องกันลูกจากแสงแดด ลม และฝุ่น โดยอาจเลือกที่บังแดดบังลมให้สามารถปรับระดับและทิศทางได้ เพื่อให้ยืดหยุ่นต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น
รถเข็นเด็กที่ดีควรมีระบบเบรกหรือระบบห้ามล้อที่รัดกุม คุณพ่อคุณแม่ควรตรวจสอบดูว่าในการเข็นทางราบปกติ และการเข็นทางลาดหรือพื้นเอียง ระบบเบรกทำงานดีหรือไม่ และเมื่อวางน้ำหนักในรถเข็นแล้วรถต้องไม่ไหล
ในช่วงแรกที่ลูกนั่งรถเข็นอาจจะยังไม่ชิน ยิ่งหันไปไม่เจอคุณพ่อคุณแม่อาจทำให้เขารู้สึกไม่ปลอดภัยจนส่งผลให้ร้องไห้งอแงได้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรเลือกรถเข็นที่สามารถปรับการเข็นได้ 2 ทิศทาง คือ เข็นได้ทั้งแบบที่ลูกหันหน้าเข้าหาคุณพ่อคุณแม่ กับทิศที่ลูกหันไปทิศทางเดียวกับคุณพ่อคุณแม่ เพื่อให้ลูกรู้ว่าคุณพ่อคุณแม่อยู่ใกล้ ๆ เขาเสมอ ไม่ได้หายไปไหน