- มีความหมายเช่นเดียวกับ any และเป็นการปฏิเสธที่รุนแรงกว่า not
- หลักการใช้คือ No + Noun (นาม)
Ex. I have no friends. = I don’t have any friends.
(ฉันไม่มีเพื่อนเลย)
Ex. There are no books on the desk.
(ไม่มีหนังสืออยู่บนโต๊ะเลย)
- เป็นได้ทั้ง pronoun และ adverb
- หากใช้เป็น pronoun จะไม่มี Noun (นาม) ตามหลัง และเป็นได้ทั้งเอกพจน์และพหูพจน์ โดยที่
None เอกพจน์ มีความหมายเท่ากับ not one, no one ใช้กับกริยาเอกพจน์
None พหูพจน์ มีความหมายเท่ากับ no persons/things ใช้กับกริยาพหูพจน์
Ex. None have arrived.
(ยังไม่มีใครมาถึงเลย) * None พูดถึงคน
Ex. She has three cars and I have none.
(หล่อนมีรถ 3 คัน แต่ฉันไม่มี) * None พูดถึงรถ
- None ที่เป็น adverb จะมีความหมายเหมือนกับ not at all (ไม่เลย) วางไว้หน้า too, so หรือการเปรียบเทียบขั้นกว่า (Comparative Degree)
Ex. She is none so great.
(หล่อนไม่ใช่คนสำคัญอะไรเลย)
Ex. The doctor arrived none too soon.
(คุณหมอมาถึงไม่ทัน)
- ตามหลังด้วยคำนามหรือคำสรรพนาม None of + Noun/Pronoun
- ในกรณีที่ใช้ None of เป็นประธาน ต้องใช้กริยาให้สอดคล้องกับนามเอกพจน์ นามพหูพจน์
- คำนามที่ตามหลัง None of ต้องมีคำนำหน้านามอย่าง the หรือ this ด้วย
- คำนามนับไม่ได้ เช่น money, water, sugar และคำสรรพนามเอกพจน์จะใช้กริยาเอกพจน์
- คำนามนับได้และสรรพนามพหูพจน์ (us, you, them) กริยาจะเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์ก็ได้ แต่โดยทั่วไปจะคุ้นเคยกับรูปแบบเอกพจน์ เพราะจะให้ความหมายเน้นคำนาม/สรรพนามที่ตามหลัง อย่างไรก็ตามให้นึกไว้เสมอว่าควรเป็นกริยาพหูพจน์
Ex. None of the advice was helpful.
(ไม่มีคำแนะนำใดที่เป็นประโยชน์)
Ex. None of the money was recovered.
(ไม่ได้รับเงินคืนเลย)
Ex. None of them work hard. / None of them works hard.
(ไม่มีใครทำงานอย่างจริงจังเลย) / (ไม่มีใครสักคนทำงานอย่างจริงจัง)
Ex. I am surprised to find none of you can answer my question.
(ฉันประหลาดใจที่ไม่ใครเลยที่ตอบคำถามของฉันได้)