Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ทำยังไงดีเมื่อถูกบูลลี่จาก Beauty Standard

Posted By Plook Magazine | 15 ต.ค. 64
11,482 Views

  Favorite

ความสวย หล่อ ดูดีตาม Beauty Standard คืออภิสิทธิ์กดทับทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และเพศอื่น ๆ ทำให้บางคนถูกเลือกปฏิบัติ เช่น ‘คนสวยนั่งฟรี หุ่นดีครึ่งราคา’ ‘น่ารักเชิญข้างหน้า คนชราเชิญด้านหลัง’  ซึ่งมันอาจทำให้บางคนต้องพยายามปรับตัวให้สวย หล่อ ดูดีตามมาตรฐานที่สังคมกำหนดจนเสียสุขภาพ

 

 

cr.www.freepik.com

 

คนไทยเรามีคำตอบที่ถูกต้อง เมื่อถูกถามว่าแบบไหนที่เรียกว่าสวยมาอย่างยาวนาน คือทุกคนในสังคมสามารถบอกได้ว่าแบบไหนคือสวย เช่น ผิวขาว หน้ารูปไข่ ตาโต ปากกระจับ จมูกโด่ง เอวเล็ก ขาเรียวยาว เเขนเล็ก ขาเล็ก ผมยาวสวย น่าจะเป็นมาตรฐานความสวยของคนไทยที่เราถูกสอนมาตลอดว่า ถ้าเราขาว รักแร้เนียน เราจะมั่นใจแค่ไหน เราจะกล้าที่จะมีชีวิตที่สนุกสนาน แฮปปี้ หรือสามารถการันตีได้ว่าถ้าเรามีทุกอย่างตาม Beauty Standard ก็จะมีผู้คนมาตาม มารักและชอบมากขึ้น แต่ถ้าเรามีผิวดำก็จะถูกทำให้ดูเป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเองทันที ดูไม่พอใจในตัวเองอย่างมากจากภาพจำในโฆษณาขายครีมทาผิวต่าง ๆ ที่ทำให้คนผิวคล้ำหรือคนที่ไม่ตรงตาม Beauty Standard ต้องดูด้อยกว่าเสมอ

 

cr.www.freepik.com

 

หนำซ้ำสังคมในบ้านเราก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้คน ๆ หนึ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่สวย นั่นก็คือคนในครอบครัว หรือญาติพี่น้องของเราเองที่มักจะคอมเมนต์ว่าเราไม่สวยให้ได้ยินอยู่เสมอตั้งแต่เด็ก ๆ ว่า ขาใหญ่บ้าง ตัวดำบ้าง อ้วนบ้าง สิวเยอะบ้าง โดยที่เราก็ต้องยอมรับไปโดยปริยายว่า เรามันไม่สวย หน้าตาไม่ดี หุ่นไม่ปัง ไม่ตรงตาม Beauty Standard ทำให้การรักตัวเองเป็นโจทย์ที่ยากมากสำหรับเด็กผู้หญิงที่เกิดมาพร้อมเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร นำมาซึ่งการถูกเลือกปฏิบัติมากมายไม่เว้นแม้แต่พี่น้องท้องเดียวกันที่ถ้าคนพี่สวยกว่าคนน้อง คนน้องก็จะรู้สึกถูกเลือกปฏิบัติจากคนในครอบครัวหรือจากญาติ คนที่อ้วนและหน้าตาไม่ดีในประเทศนี้มักจะถูกมองข้ามเสมอเมื่อเทียบกับคนที่สวยและหุ่นดี เช่น คนสวยพูดอะไรคนก็จะฟัง ให้ความสนใจเป็นพิเศษ ได้รับการช่วยเหลือก่อนเสมอ เวลาไปสมัครงานก็มักจะถูกเลือกก่อน ทำให้สังคมเรากลายเป็นสังคมที่คนหน้าตาดีจะได้สิทธิพิเศษ กลายเป็นสังคมที่มองคนที่ภายนอกไม่ใช่ความสามารถ ทำให้คนที่ไม่สวย ไม่โดดเด่น หน้าตากลาง ๆ ที่มีความพร้อม มีความสามารถกลายเป็นกรวดหินดินทรายให้คนอื่นเหยียบย่ำ ไม่เคยได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมอย่างที่ควรจะเป็น 

 

cr.www.freepik.com

 

น้อง ๆ หลายคนมีเปอร์เซ็นต์สูงมากที่จะเกลียดตัวเองและรู้สึกถึงผลกระทบของ Beauty Standard หนัก ๆ เมื่อเข้ามหาวิทยาลัยปี 1 เพราะเมื่อเราต้องจากโรงเรียนมัธยมซึ่งอาจเป็นสังคมเล็ก ๆ ที่ไม่อนุญาตให้เด็กแต่งหน้าแต่งตัวมากนัก นั่นจึงทำให้การขึ้นมหาวิทยาลัยเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ เราจะเจอสังคมที่ใหญ่ขึ้น ผู้คนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเรามากมาย และการที่เราดูไม่เป็นสาวเหมือนเพื่อนจะทำให้เรารู้สึกด้อยกว่า เราจะรู้สึกว่า คนนั้นก็สวย คนนี้ก็หุ่นดี หน้าใสมาก ทำไมเพื่อนไม่มีสิวเหมือนเราเลย ผิวก็ดี ในขณะที่เราดำและมีสิว มองไปทางไหนก็มีแต่คนที่ดูดี ราศีจับ ออร่ามาแต่ไกล (ซึ่งเพื่อนบางคนของเราอาจเป็นดาราก็ได้) แล้วเราจะเริ่มเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นโดยอัตโนมัติ บวกกับวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยบางอย่างที่สนับสนุนให้ Beauty Standard กดทับเราอยู่ นั่นคือการเห่อรุ่นน้องที่หน้าตาดี (โดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม) เด็กที่หน้าตาไม่ดีก็จะรู้สึกได้ว่า ความรู้สึกที่ถูกมองข้าม ไม่มีตัวตนเวลานั่งอยู่ในแถววันปฐมนิเทศมันเป็นยังไง

 

 

ปัญหาที่ตามมาก็คือหากเราพยายามที่จะสวยในแบบที่คนอื่นคิดว่าสวย เราจะเหนื่อยมาก มีน้อง ๆ หลายคนพยายามกินยาลดความอ้วนที่ไม่ได้มาตรฐานซึ่งส่งผลให้เสียสุขภาพอย่างเลวร้าย มีน้องปี 1 หลายคนเป็นโรคคลั่งผอม กินแล้วต้องไปล้วงคออ้วก และอีกหลายคนที่ซื้อคอร์สดูดไขมันเพื่อลดน้ำหนัก หมดเงินไปกับการซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่จะไปให้ถึงมาตรฐานความสวยเพื่อที่จะได้เป็นที่ยอมรับ แต่เชื่อไหมว่าไม่มีใครสามารถที่จะไล่ตามมาตรฐานความสวยได้ทัน เพราะ Beauty Standard มันเปลี่ยนแปลงไปทุกยุคทุกสมัย เมื่อก่อนคนไทยในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นิยมสาวร่างเล็ก หน้าคม ผิวน้ำผึ้ง นัยน์ตาคม คิ้วโก่ง แบบแม่มะลิ อังศุมาลิน หรือไม่ก็นางสาวสยาม แต่เดี๋ยวนี้เราต้องขาวถึงจะเรียกว่าสวยและผ่าน ! 

 

Kim Tae-Hee
cr. IMDb

 

เมื่อก่อนขอแค่จมูกโด่งก็สวยแล้ว แต่เดี๋ยวนี้จมูกสวยคือต้องจมูกหยดน้ำแบบเกาหลี หน้าเรียว คางแหลมเหมือนคิมแตฮี (Kim Tae-Hee) ซึ่งเหมือนกับฝั่งตะวันตกอย่างอเมริกาที่เมื่อก่อนสวยคือต้องรูปร่างอย่าง “อเมริกันสแตนดาร์ด” คือหน้าอกใหญ่ ผิวขาว ผมลอน จริตจะก้านเย้ายวน เป็นพิมพ์นิยมของนางเอกหนังฮอลลีวูดอย่าง มาริลิน มอนโร ที่ต้องมีส่วนโค้งส่วนเว้าอันเย้ายวน เอวเล็ก สะโพกใหญ่ แต่เดี๋ยวนี้คนอเมริกันเขาพัฒนาเรื่องมาตรฐานความสวยจนไม่เหลือเค้าเดิมของมาริลิน มอนโรแล้ว ด้วยการให้นางแบบพลัสไซส์ ‘แอชลีย์ เกรแฮม’ หรือนางแบบผิวดำ ‘ไนยาคิม แกทเวค’ เดินเฉิดฉายบนรันเวย์ระดับโลก

 

สิ่งนี้บอกอะไรกับเรา ? มันบอกได้ว่าหากเราอยากวิ่งตาม Beauty Standard เราอาจจะต้องวิ่งไปตลอดชีวิต เพราะมันไม่มีทางจบลงแบบเดิมไปตลอดกาล ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปจะเปลี่ยนมาตรฐานของความสวยตามไปด้วย และเราไม่มีทางบอกให้คนอื่นเลิกบูลลี่เราได้ คนขี้บูลลี่ยังไงก็ต้องเป็นคนขี้บูลลี่อยู่วันยังค่ำ (ไม่แน่ว่าคนที่ชอบบูลลี่คนอื่นเรื่องหน้าตา เขาก็อาจเคยถูกบูลลี่มาก่อนเหมือนกัน) การเปลี่ยนคนอื่นนั้นยากกว่าการเปลี่ยนที่ตัวเราเอง หากเราเจ็บช้ำกับความไม่สวยของตัวเองมากจนทนไม่ไหวแล้ว ให้เราตั้งสติแล้วตอบคำถามข้างล่างนี้ก่อนจะเก็บตังค์ไปซื้อคอร์สทุบหน้าที่เกาหลี

 

Nyakim Gatwech
Cr. IMDb

 

คุยกับตัวเองเยอะ ๆ ก่อน

คุยกับตัวเองให้บ่อยขึ้น ให้เรามองไปที่กระจกแล้วดูที่ตัวเอง มีจุดไหนที่เราไม่พอใจในตัวเองแล้วอยากแก้ไขบ้าง มองตัวเองแล้วมีความสุขไหม ถ้าไม่เพราะอะไร ? เพราะตัวเราไม่ชอบเองหรือเพราะคนอื่นเขาไม่ชอบ เราเลยรู้สึกว่าต้องแก้ไข ถ้าคนอื่นไม่ชอบอะไรในตัวเราทั้งที่เราโอเคกับมันนั่นไม่ใช่ปัญหาของเรา แต่เป็นปัญหาของคนอื่น แต่ถ้าสังคมบอกว่าหน้าเรียวคือสวย เราผู้ที่มีหน้ากลม มีแก้มอาจรู้สึกว่าใช่ หน้าเรียวมันสวย แม้เราจะได้รับอิทธิพลจาก Beauty Standard ก็จริง แต่มันไม่เป็นไรเลยถ้าเรามีความสุขและการตัดสินใจนั้นมาจากตัวเราเองก็ไปทำซะเพื่อต่อยอดให้มั่นใจมากขึ้น  

 

 

อย่าเปลี่ยนตัวเองจากความเกลียด

เป้าหมายของการเปลี่ยนตัวเองสำคัญมาก หากคน ๆ หนึ่งอยากเปลี่ยนตัวเองเพราะเกลียดสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ เราอาจจะต้องเปลี่ยนตัวเองไปตลอดชีวิต เพราะเราจะไม่มีทางเลิกเกลียดตัวเองได้แม้ว่าเราจะเปลี่ยนอะไรไปมากแค่ไหนก็ตาม เพราะการเปลี่ยนตัวเองจากความ insecure มันก็เหมือนเราเอาร่างของตัวเองไปใส่ในร่างของคนอื่นที่เราคิดว่าสวย แต่ความคิดมันก็ยังเป็นของเรา เราก็ยังจะเกลียดตัวเองอยู่วันยังค่ำ เราต้องสร้างความ secure ในตัวเองให้ได้ก่อน แล้วเราจะรู้ว่าควรจะปรับตรงไหนให้ตัวเองพอใจได้  

 

 

ไปอยู่ให้ถูกจุด 

อย่าไปอยู่กับกลุ่มคนที่ไม่ได้ให้ค่าในสิ่งที่เรามี คนเราไม่สามารถที่จะ Belong ได้ทุกสังคม สังคมที่เราอยู่สำคัญกับความมั่นใจในตัวเราให้สูงหรือต่ำลงได้ กลุ่มเพื่อนที่ให้เราเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยกำลังใจดี ๆ ย่อมมีพลังกว่ากลุ่มเพื่อนที่ติให้เราเปลี่ยนตัวเองอยู่ตลอดเวลา เราต้องเลือกสังคมที่เขาอ่อนโยนกับเรา เพราะหากเราปรับเปลี่ยนตัวเราให้รักตัวเองได้แล้ว แต่เรากลับไปอยู่ในสังคมที่เขาไม่เห็นว่าเราดีพอ ยังไงเราก็จะต้องเจ็บช้ำไปตลอดอยู่ดี เช่น กลุ่มเพื่อนที่คลั่งผอมย่อมไม่เข้าใจหากเราพอใจกับรูปร่างมีเนื้อมีหนัง เราคงอยู่ไม่ได้ในสังคมที่ทุกคนชอบคนผิวขาวในขณะที่เราผิวคล้ำ เราต้องออกไปหาสังคมที่เขาเข้าใจว่าการมีผิวคล้ำมันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไรขนาดนั้น เป็นต้น

 

 

ความสวยที่มีมิติ

ความสวยถ้าเราไปโฟกัสที่มันมาก ๆ จนยกให้มันเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง (First Priority) มันจะทำให้เราหยุดหาโอกาสในการสร้างคุณค่าให้ตัวเองในด้านอื่น ความท้าทายก็คือเราจะทำยังไงให้ตัวเองดูดีทั้งภายนอกและภายในที่ไม่กลวง ดังนั้นมองความสวยแตกออกไปให้หลากหลายมิติ อย่างที่เรารู้กันว่าสมัยนี้คนเราเริ่มที่จะให้ค่าความสวยและความสามารถที่มีข้างในด้วย เมื่อเราอยากสวยก็อย่าลืมพัฒนาตัวเองในด้านอื่นให้มันโดดเด่น (Outstanding) ด้วย แต่ก็อย่าให้คำว่าสวยแล้วต้องมีสมอง หรือสวยแล้วต้องเก่ง ต้องเจ๋งมากดทับตัวเราให้มันหนักอีกที หากเราทำสิ่งที่มีคุณค่า ทำประโยชน์ให้คนอื่นได้ และเชี่ยวชาญในสิ่งที่เราเรียนมาได้ ไม่ว่ามันจะเล็กน้อยแค่ไหนนั่นก็เพียงพอแล้ว 


 

บทความที่เกี่ยวข้อง

ทำยังไงดี เมื่อรู้สึกว่าตัวเองไม่สวยตาม 'Beauty Standard'

จะทำยังไงกับ 'Beauty Privilege' ในโรงเรียน เมื่อคนหน้าตาดีทำอะไรก็ดีไปหมด

คำแนะนำที่จะทำให้ 'รักตัวเอง' มากขึ้น ด้วยแนวคิด Body Positive

รวมทริคดูแลตัวเองให้ดูดี เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้เต็มสิบ

วิธีแก้เกมเมื่อ 'โดนบูลลี่' ที่โรงเรียน

หยุดแกล้งกันมันไม่เท่ อะไรคือเหตุผลของคนที่ชอบแกล้งคนอื่น

ไอดอลเกาหลีที่โดนบูลลี่เรื่องรูปร่าง จนต้องลดน้ำหนัก

เปลี่ยนจากคนที่มองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง เป็นคนที่รักตัวเอง

9 วิธีเพิ่มความเข้มแข็งให้ตัวเอง ไม่หวั่นไหวแม้เจอเรื่องยาก ๆ


 

แหล่งข้อมูล

- ความสวยที่แท้จริงของผู้หญิงที่โคตรสวย ปอย ตรีชฎา เพชรรัตน์

- ปัญหา "มาตรฐานความงาม" ของสังคม และ "การเลือกปฏิบัติ" ต่อคนหน้าตาดีและคนหน้าตาไม่ดี  

- ทุกความสวยมีที่มา ทุกความงามมีที่ไป THE BODY PROJECT: Beauty, Brutality, and the Reasons Behind 

 
 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Magazine
  • 3 Followers
  • Follow