ลองพิจารณาดู ความทุกข์ของคนเราซึ่งปัจจุบันก็มีถึง 7,000 กว่าล้านคน แม้จะต่างชาติ ต่างภาษา แต่ความทุกข์ของมนุษย์เราทั้งหลายก็หนีไม่พ้นความทุกข์สามประการนี้
ไม่ว่าคนเราจะเจริญก้าวหน้าไปมากมายเพียงใด กี่หมื่นกี่แสนปี ความทุกข์ของคนเราก็หนีไม่พ้นสองข้อนี้เป็นเรื่องหลักเลย ยิ่งถ้ารวมข้อที่สามด้วย ปรารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้นนั่นก็เป็นทุกข์ อันนี้เรียกว่าทุกข์ของคนทั้งหลาย ไม่ว่าอดีตถึงปัจจุบันก็หนีไม่พ้นสามประการนี้
พระพุทธเจ้าตรัสว่า อันตรายของคนเรามีอยู่ 2 อย่าง คืออันตรายที่เปิดเผย กับ อันตรายที่ปกปิด
.
อันตรายที่เปิดเผย ก็คือ อันตรายที่เห็นง่าย ๆ เห็นกันอยู่นอกตัวเรา เช่น สิงห์สาราสัตว์ งูเงี้ยวเขี้ยวขอ ผู้ร้าย รวมถึงภัยธรรมชาติ พายุฝน หรือว่าแผ่นดินไหว โรคระบาด นี่เรียกว่าภัยที่เปิดเผย อันตรายที่เปิดเผย
.
อันตรายที่ปกปิด อันนี้ก็น่ากลัวไม่น้อย ก็คือ ความโกรธ ความโลภ ความถือตัว ความอิจฉา ความทะยานอยาก ความหลงตน
ทุกวันนี้อันตรายที่เปิดเผยมันมีน้อยลง เราสามารถจะควบคุมบงการธรรมชาติได้มากขึ้น จัดสวัสดิการทำให้คนหิวโหยน้อยลง โรคภัยไข้เจ็บก็คุกคามน้อยลง มีการรักษาความปลอดภัยทำให้โจรผู้ร้ายลดน้อยลง แต่ว่ามันก็ไม่ได้ช่วยทำให้อันตรายที่ปกปิดมีน้อยลงเลย เพราะมันเป็นเรื่องของตัวบุคคลมาก
ยิ่งสังคมเจริญมากขึ้น อันตรายที่ปกปิดก็ยิ่งแพร่ระบาดมากขึ้น
ยกตัวอย่างง่าย ๆ คนเราพอมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หรือว่ามีการพัฒนาประเทศกันมาก เทคโนโลยีก้าวหน้า เราจะมีความคาดหวังสูงขึ้นเรื่อย ๆ สูงขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งรวยยิ่งพัฒนา ยิ่งมีความคาดหวังสูง
เมื่อมีความคาดหวังสูง ถ้าความคาดหวังนั้นมันไม่บรรลุก็จะทุกข์ทันทีเลย
คนที่คาดหวังต่ำ เขาอาจจะมีความสุขได้ง่ายกว่าคนที่คาดหวังสูง
และคนที่คาดหวังต่ำ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่ยากจนหรืออยู่ในประเทศที่ยังไม่พัฒนา อย่างเช่น ในแอฟริกา เวลานั่งเครื่องบิน แค่เครื่องบินร่อนสู่พื้นอย่างปลอดภัย คนจะดีใจมากเลย ปรบมือ...เฮ ๆ
แต่คนในประเทศที่ร่ำรวย เพียงแต่ WIFI บนเครื่องบินมันไม่มี หรือว่ามันไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ หงุดหงิดแล้ว ทั้ง ๆ ที่เครื่องบินลำนั้นก็ปลอดภัย สามารถจะนำพาผู้คนสู่สนามบินหรือสู่พื้นดินได้อย่างปลอดภัย แต่คนรู้สึกเฉย ๆ แต่ถ้า WIFI ไม่มี ไม่แล่น ไม่เร็ว หงุดหงิดแล้ว
คนสมัยก่อน
ถ้ามีกิน มีอาหารครบสามมื้อ หรือว่าวันใดได้ปลาทูมาตัวนึง โอ๊ย...ดีใจ ได้ไข่มาลูกนึง ฟองนึง ก็มีความสุขแล้ว แต่คนสมัยนี้หรือในประเทศที่ร่ำรวย เพียงแค่โทรศัพท์มือถือบูตช้าหน่อย หรือว่า WIFI ไม่เร็วพอ หงุดหงิดแล้ว
อันนี้เพราะอะไร
เพราะความคาดหวังสูง พอความคาดหวังสูง แม้แต่เรื่องเล็กน้อย ถ้ามันไม่สมหวัง ไม่สมปรารถนา หรือไม่สมใจ ก็จะโกรธ จะไม่พอใจ หรือเป็นทุกข์ทันที
นี่เรียกว่า ปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้นนั่นก็เป็นทุกข์
อย่างที่เรารู้กัน ยิ่งรวย ยิ่งเจริญ ยิ่งมีการศึกษามาก ความปรารถนายิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ และพอถึงจุดหนึ่งมันสูงเกินความเป็นจริงไปแล้ว
เช่น ปรารถนาว่าจะไม่แก่ ปรารถนาจะไม่ให้พลัดพราก ขออย่าได้พลัดพราก ขออย่ามีคำว่าไม่มี
่หลายคนเวลาทำบุญก็อธิษฐาน ขออย่าได้รู้จักคำว่าไม่มี หรือว่าปรารถนาว่าขอให้ร่ำรวย ขอให้หนุ่มสาว ขอให้มีสุขภาพดีไปตลอด อย่างนี้เรียกว่า ปรารถนาเกินความจริง เพราะฉะนั้นมันก็ทุกข์ง่ายไง เพราะว่าความจริงมันไม่เป็นไปอย่างที่ปรารถนา
แล้วทำยังไงถึงจะไม่ทุกข์ใจ เราก็ลดความปรารถนาให้มันน้อยลง ให้มันสอดคล้องกับความเป็นจริงมากขึ้น เช่น ในเมื่อเรารู้ว่าความเป็นจริง มันไม่เที่ยง มันไม่แน่ไม่นอน ไม่สามารถที่จะควบคุมบังคับให้เป็นไปตามใจได้
สังขารร่างกายของเราถึงจุดหนึ่งมันก็แก่ เหี่ยว กำลังวังชาก็ลดน้อยถอยลง เมื่อเรารู้แบบนี้แล้ว เราก็คาดหวังให้มันตรงกับความเป็นจริงสักหน่อย และถึงเวลาที่ความเป็นจริงฝ่ายลบมันแสดงตัว เราก็จะได้ไม่ทุกข์ หรือว่าอาจจะไม่ได้คาดหวัง ความหลงความเพลินมันทำให้เรามีความอยาก มีความเพ้อฝันที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง พอความจริงไม่เป็นไปอย่างที่อยาก
ทุกข์ขึ้นมาก็รู้จักทำใจ การทำใจนี่ก็สำคัญนะ
คนสมัยนี้ เราไม่ค่อยได้ฝึกการทำใจเท่าไหร่ เวลามีปัญหาเราก็ไปแก้ที่ภายนอก เช่น เราไม่อยากแก่เราก็ไปพึ่งพาเทคโนโลยี เครื่องประทินโฉม ที่จะทำให้เราหนุ่มเสมอสาวเสมอ ผิวหนังตรงไหนมันเหี่ยวมันย่น ก็มีเครื่องประทินโฉม ทาให้มันดูขาวดูนวลเต่งตึง บางทีก็ไปผ่า บางทีก็ไปดูด
แต่ว่าทำยังไงมันก็ไม่มีทางที่จะเป็นอย่างที่ปรารถนาได้ จึงเกิดความทุกข์ แต่เมื่อทุกข์แล้วเนี่ย เราตั้งตัวได้ เราตั้งสติได้ เราก็ทำใจ ทำใจยอมรับ อันนี้สำคัญมากเลยนะ
คือก็รู้ว่ายังไงร่างกายนี้มันก็ต้องเสื่อมไป ทรัพย์สมบัติที่มีก็ต้องเสื่อมไป ความคาดหวังของเราเมื่อเราลดตรงกับความเป็นจริง ถึงเวลาเสื่อม ถึงเวลาพลัดพราก ก็ไม่ทุกข์ หรือถ้าเกิดว่าอาจจะเผลอไปคาดหวังในสิ่งที่มันไม่ตรงกับความเป็นจริง สวนทางกับความเป็นจริง พอมันผิดหวังขึ้นมาอย่างน้อยก็รู้จักทำใจ
................................................................
ข้อธรรม คำสอน พระไพศาล วิสาโล
ที่มา : จิตสงบได้แม้ชีวิตไม่ราบรื่น
ถอดเสียงคำบรรยาย บุบผา เซียงลี่
ที่มา https://soundcloud.com/suan-mokkh/aa55