Ex. Come on Bob, it’s not a rocket science. All you have to do is combine those number.
(ไม่เอาน่าบ็อบ มันไม่ได้ยากอะไรขนาดนั้น นายก็แค่รวมตัวเลขพวกนั้นเอง)
สำนวนไทยก็ใช้แบบนี้ นึกภาพการทำให้ใครคนนึงถึงจุดเดือด คือทำให้เขาโกรธมาก ๆ หมดความอดทน หรือหงุดหงิดแบบขั้นสุดไปเลย
Ex. Do you need to push me to my boiling point??
(เธอจำเป็นต้องทำให้ฉันหมดความอดทนใช่มะ??)
แปลตรงตัวว่า เป่าฟิวส์ สำนวนนี้มีการใช้ ฟิวส์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ในเครื่องใช้ไฟฟ้ามาใช้ โดยเจ้าของภาษาจะทำกริยาการเป่า แต่ว่าคนไทยจะเปรียบเทียบว่า มันขาดไปเลย ดังนั้นสำนวนนี้หมายถึง ฟิวส์ขาด คล้ายกับถึงจุดเดือด คือทนไม่ไหวแล้วนะ ระเบิดอารมณ์ซะเลย = to lose your temper
Ex. Mom totally blew a fuse when I told her I broke her favorite vase.
(แม่ฟิวส์ขาดเลยตอนฉันบอกว่าทำแจกันใบโปรดของแม่แตก)
*blew คือกริยาช่อง2 ของ blow
สำนวนนี้ใช้พูดถึงการไปกระตุ้น ยั่วยุให้อารมณ์เสีย หรืออีกความหมายหนึ่งจะใช้กับเรื่องทางเพศ
Ex. I hate her! She’s always trying to push my buttons and it works every time!
(ฉันเกลียดเธอ! เธอนี่พยายามยั่วยุให้อารมณ์เสียตลอด แล้วมันก็ได้ผลทุกครั้งด้วยนะ)
สำนวนที่แสดงความหมายถึงอาการมึนงงหรือสับสนกับสถานการณ์ หรือเข้าใจผิดไปอีกแบบ จำสลับกันไป เปรียบได้กับสายไฟของเราถูกคนนั้นจับพันกันไปมาจนงงไปหมด
Ex. Don’t we have Science exam tomorrow or I got my wire crossed?
(อ้าว พวกเราไม่ได้มีสอบวิทย์พรุ่งนี้เหรอ หรือว่าฉันสับสนไปเอง?)
เรียบเรียงโดย เบญจมาภรณ์ บุนนาค