- เป็นคำสันธาน (Conjunction) เชื่อมระหว่างสองวลีในประโยคเข้าด้วยกัน
- รูปประโยคคือ Clause1 + in case + Clause2
- วลี 2 ที่ตามหลัง in case จะบอกถึงเหตุผลหรือเหตุการณ์ที่ (อาจจะ) เกิดขึ้นได้ (Possible reason/ possibility) โดยถ้าเกิดเหตุการณ์นั้น ๆ แล้ว จะทำการกระทำของวลี 1 (Precaution action)
- ดังนั้น in case จึงให้ความหมายว่า “ถ้า” หรือ “ในกรณีที่”
Ex. I will not drive the car in case it snows.
(ฉันจะไม่ขับรถถ้าหิมะตก)
Ex. We will not go shopping today in case it rains.
(พวกเราจะไม่ไปซื้อของวันนี้ถ้าฝนตก)
*ในกรณีที่มี just in case อยู่ท้ายประโยค จะมีวิธีการใช้ดังนี้
- A clause + just in case โดยที่ไม่ต้องมี วลี2 ตามมา และในทีนี้ทำหน้าที่เป็น Adv.
- มีความหมายว่า “เผื่อ ๆ เอาไว้” โดยที่การกระทำก่อนหน้า just in case นั้นเป็นสิ่งที่ผู้พูดทำเผื่อเอาไว้ก่อน
ซึ่งพบเจอการใช้งานคำนี้ได้บ่อย ๆ
Ex. I don’t think we need to pay anything. However, you can bring money just in case.
(ฉันคิดว่าเราไม่ต้องจ่ายอะไรเองนะ แต่เธอเอาเงินไปเผื่อ ๆ ไว้ก็ได้)
- โครงสร้างการใช้คือ In case of + Noun or V-ing
- ทำหน้าที่เป็นคำบุพบท (Preposition) ใช้เชื่อมในประโยค
- ใช้เพื่อบอกว่าควรต้องทำอย่างไร ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่ตามหลัง in case of ดังนั้นจึงมีความหมายว่า ถ้า (= In the event of)
Ex. In case of fire, please leave the building as soon as possible.
(ถ้าเกิดกรณีเพลิงไหม้ ให้รีบออกจากอาคารให้เร็วที่สุด)
หรือวางรูปประโยคสลับแบบนี้ก็ได้ Please leave the building as soon as possible in case of fire.
Ex. In case of emergency, press red button.
(ในกรณีฉุกเฉิน ให้กดปุ่มสีแดง)
Ex. These lamps light in case of danger.
(ดวงไฟพวกนี้จะสว่างขึ้นในกรณีเกิดเหตุอันตราย)
เรียบเรียงโดย เบญจมาภรณ์ บุนนาค