หากเรามีพฤติกรรมมาสายประจำ ลืมนัดสำคัญ ทำงานตกหล่นไม่รอบคอบ จัดระเบียบการทำงานหรือการเรียนไม่ได้ ค้างงานบ่อย ๆ ส่งทันบ้าง ไม่ทันบ้าง ถูกตำหนิว่าไม่มีความรับผิดชอบบ่อย เครียดจนนอนไม่หลับ พฤติกรรมเหล่านี้อาจบ่งบอกได้ว่าเรากำลังเป็นโรคสมาธิสั้นอยู่ก็ได้ ซึ่งหลายคนมีอาการเหล่านี้ แต่ไม่รู้ตัวว่ากำลังเป็นโรคสมาธิสั้นอยู่
โรคสมาธิสั้น (ADHD : Attention Deficit Hyperactivity Disorder) ยังไม่มีสาเหตุชัดเจนที่สามารถสรุปได้โดยชัด แต่ก็มีงานวิจัยที่ผ่านมาบ่งชี้ได้ว่า สาเหตุของสมาธิสั้นนั้นเกิดจากความผิดปกติของสารเคมีที่เป็นสารสื่อประสาทในสมองชื่อว่า โดพามีน (Dopamine) ทำงานบกพร่อง หรือมีปริมาณน้อยกว่าปกติ ซึ่งจะเป็นโรคที่เกิดในวัยเด็ก แต่จะเป็นต่อเนื่องจนถึงวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ นอกจากนี้ยังมีความผิดปกติในการทำงานของวงจรที่ควบคุมสมาธิ และการตื่นตัวที่สมองส่วนหน้า (Frontal Cortex) และจากการศึกษาส่วนใหญ่ยังพบว่ามีปัจจัยอื่น ๆ อีก เช่น พันธุกรรม สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ เป็นต้น
อาการสมาธิสั้นที่พบบ่อยในวัยรุ่น
1. มีปัญหาในการทำสิ่งที่ต้องใช้สมาธิ
2. ขี้ลืมและมีปัญหาในการจัดงานให้เป็นระบบ
3. หุนหันพลันแล่น
4. เบื่อง่าย หรืออึดอัดเวลาอยู่เฉย ๆ นาน ๆ
5. มีปัญหาทางอารมณ์ เช่น รู้สึกไม่ประสบความสำเร็จ เครียด หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า วิตกกังวล นอนไม่หลับ
1. การรักษาด้วยยา เป็นวิธีแรกที่แพทย์มักเลือกใช้ ซึ่งยาที่ใช้ในการรักษาโรคสมาธิสั้นนั้นก็มีหลากหลาย ดังนี้
• ยากระตุ้นจิตประสาท (Psychostimulant) กลุ่ม Methylphenidate จะทำให้มีสมาธิในการเรียนมากขึ้น แต่ก็อาจมีผลข้างเคียง เช่น เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ใจสั่น นอนไม่หลับ หงุดหงิด น้ำหนักตัวลดลง เป็นต้น
• ยาต้านซึมเศร้า เช่น Imiprimine, Buspirone มักจะถูกใช้ป็นยาขนานที่สองในการรักษา
• ยาลดอาการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ที่รวดเร็ว เช่น ยากลุ่ม Propanalol จะช่วยลดอาการความถี่ในการระเบิดอารมณ์ที่รุนแรง
• ยากลุ่มคลายกังวล เช่น Fluoxetine
2. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยนักจิตวิทยา จะใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการก้าวร้าวอย่างรุนแรงจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
3. การปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม (Psychosocial Intervention) โดยการฝึกทักษะทางสังคม ทำให้รู้จักสังเกตอารมณ์ของคนอื่น รู้จักการรอคอย รับฟังมากขึ้น เอาใจเขามาใส่ใจเรา เพื่อลดปัญหาการอยู่ร่วมกับผู้อื่น และยังสามารถช่วยให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีความชำนาญ ไม่มีอารมณ์เครียดมากเกินไป
นอกจากการรักษาทางการแพทย์แล้ว เรายังสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เพื่อเป็นการป้องกันสมาธิสั้นได้ ดังนี้
พยายามฝึกอารมณ์ของตัวเอง เช่น ไม่ควรดีใจหรือเสียใจเร็วเกินไป หรือถ้าเราโกรธก็ควรระบายออกมาบ้าง แต่ไม่ใช่การระบายออกมาแบบรุนแรง
จัดตารางเวลาการทำกิจกรรมต่าง ๆ ให้ชัดเจน เช่น ถ้าเราจะต้องเดินทางไปไหนก็ควรจะมีการวางแผนเอาไว้ล่วงหน้า และควรมีแผนสำรองติดตัวไว้เสมอ
จัดวางสิ่งของเครื่องใช้ให้เป็นระเบียบ เป็นการป้องกันการลืมทรัพย์สินและของมีค่าต่าง ๆ จะทำให้เราหาของได้ง่ายขึ้นและลดอาการขี้หลงขี้ลืมได้
ทำประโยชน์ให้ตัวเองและช่วยเหลือผู้อื่น ถือเป็นการสร้างความภาคภูมิใจให้กับตัวเอง และจะทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่ามากขึ้น
นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะทำให้ช่วยลดอาการหงุดหงิดลงได้มาก
ทานอาหารที่เหมาะสมกับโรค เช่น หลีกเลี่ยงอาหารประเภทน้ำตาล คาเฟอีน เลือกทานอาหารที่ไม่ผ่านการย้อมหรือขัดสี ทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสีและแมกนีเซียม เพราะวิตามินและแร่ธาตที่ผู้เป็นโรคสมาธิสั้นขาดบ่อยที่สุดคือ แมกนีเซียม ซึ่งมีผลทำให้อยู่ไม่สุข วิตกกังวล กระวนกระวาย และคลื่นไส้
หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดพลังงานส่วนเกิน และหลั่งสารเอ็นโดรฟิน (Endorphin) ให้รู้สึกแฮปปี้มากขึ้น
โรคสมาธิสั้นและอาการไม่มีสมาธินั้น ในความจริงแล้วเป็นอาการที่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด เพราะจากอาการเบื้องต้นนั้น หลายคนก็มีอาการเหล่านี้บ้างในบางครั้ง แต่ถ้าคิดว่าเราอาจจะเป็นโรคสมาธิสั้นจริง ก็ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อสุขภาพจิตที่ดีของเรานั่นเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง
อ่านหนังสือไม่ได้ เอาแต่เล่นมือถือ ระวังเป็นโรค ‘สมาธิสั้นเทียม'
โรคขาดธรรมชาติอาจทำให้สมาธิสั้นลง เคล็ดลับเชื่อมต่อกับธรรมชาติในยุค New Normal
เรียนออนไลน์แล้วไม่มีสมาธิเลย มาฝึกเพิ่มสมาธิแบบง่าย ๆ
3 วิธี ‘ฝึกสมาธิ’ เรียกคืนสติในทุกสถานการณ์
รู้จักความต่างระหว่างนักจิตวิทยา จิตแพทย์ และนักจิตบำบัด
ทำไมถึงอ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง ยิ่งอ่านยิ่งไม่มีสมาธิ ?
รวมเคล็ดลับลดความกดดันไม่ให้เสียสมาธิเวลาสอบ
If-Then Plans การวางแผนที่จะช่วยแก้นิสัยผัดวันประกันพรุ่งให้ดีขึ้นได้
เมื่อสิ่งที่คิดไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ เราจะรับมือกับความผิดหวังยังไงดี
รักตัวเองให้มากขึ้นด้วย 'Self-Care' เทรนด์ใหม่ของการดูแลตัวเอง
‘ความเครียดแฝง' อาการเครียดที่ไม่ควรมองข้าม
เคล็ดลับพัฒนาตัวเองของ 'Late Bloomer' คนที่ประสบความสำเร็จช้ากว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน
แหล่งข้อมูล
โรคสมาธิสั้น'ในวัยรุ่น-ผู้ใหญ่กรมสุขภาพจิตย้ำรักษาเร็วใช้ชีวิตร่วมผู้อื่นได้