Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

If-Then Plans การวางแผนที่จะช่วยแก้นิสัยผัดวันประกันพรุ่งให้ดีขึ้นได้

Posted By Plook Magazine | 24 มิ.ย. 64
5,893 Views

  Favorite

วันไหนที่รู้สึกขี้เกียจหรือไม่มีอารมณ์จะทำอะไรเลย เราก็อาจกระทำการผัดวันประกันพรุ่งกันบ้าง เช่น วันนี้ขี้เกียจอ่านหนังสือจังเลย เดี๋ยวค่อยอ่านวันพรุ่งนี้ละกัน หรือแม่ใช้ให้ไปกรอกน้ำ แต่เราอยากนอนดูการ์ตูนเลยตอบไปว่าเดี๋ยวก่อน เป็นต้น

 

บางครั้งเราก็มีเรื่องให้ต้องผัดวันประกันพรุ่งกันอยู่บ้าง แต่ถ้าทำบ่อย ๆ จนติดเป็นนิสัยกับทุกเรื่องในชีวิต มันจะส่งผลเสียให้กับเรามากมาย เราจะกลายเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบ เสียการเรียน และมันอาจส่งผลต่ออนาคตเมื่อเราทำงานอีกด้วย เพราะฉะนั้นใครที่กำลังติดนิสัยผัดวันประกันพรุ่งอยู่ เรามีวิธีที่จะช่วยให้บอกลานิสัยผัดวันประกันพรุ่งมาแนะนำจ้า 

 

 

cr.www.freepik.com

 

การวางแผนที่ดีช่วยได้

เทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้เราเลิกนิสัยผัดวันประกันพรุ่งก็คือการวางแผนที่ดี ในหนังสือ 9 เคล็ดลับประสบความสำเร็จด้วยวิถีฮาร์วาร์ด ที่เขียนโดย Heidi Grant Halvorson ได้บอกไว้ว่า การวางแผนล่วงหน้าจะช่วยเพิ่มโอกาสให้เราทำสำเร็จได้มากขึ้น 2-3 เท่า 

 

การวางแผนแบบกำหนดเงื่อนไข (If-Then Planning) 

การวางแผนแบบกำหนดเงื่อนไข คือ การกำหนดล่วงหน้าว่าจะลงมือทำอะไรบ้างเพื่อจะช่วยให้เราทำตามเป้าหมายที่วางไว้ได้สำเร็จ โดยเราต้องวางแผนดังนี้ “ถ้า a เกิดขึ้น เราจะทำ b” เช่น ถ้าเรายังไม่ได้ทำการบ้านก่อนห้าโมงเย็น เราจะต้องลงมือทำให้เสร็จทันทีหลังกินอาหารเย็น หรือ ถ้าเราเสียเวลามากเกินไปกับการนอนดูซีรีส์ เราจะจำกัดเวลาดูเหลือแค่วันละ 3 ชม. และแบ่งเวลาไปอ่านหนังสือ 30 นาที เป็นต้น 

 

สาเหตุที่การวางแผนแบบกำหนดเงื่อนไขใช้ได้ผลดี
เพราะมันถูกเขียนขึ้นด้วยภาษาที่สอดคล้องกับการทำงานของสมอง

cr.www.freepik.com

 

สาเหตุที่การวางแผนแบบกำหนดเงื่อนไขใช้ได้ผลดีเพราะมันถูกเขียนขึ้นด้วยภาษาที่สอดคล้องกับการทำงานของสมอง ซึ่งเป็นการตอบสนองตามเงื่อนไข เพราะคนเรามีความชำนาญในการถอดรหัสและจดจำข้อมูลในลักษณะเงื่อนไข และใช้เงื่อนไขเหล่านั้นในการกำหนดพฤติกรรมโดยไม่รู้ตัว 

 

6 Steps วางแผนแบบกำหนดเงื่อนไข

1. กำหนดสิ่งที่จะต้องลงมือทำออกมาก่อน

2. ดูว่าเราต้องลงมือทำเมื่อไหร่ ที่ไหน และอะไรคือสถานการณ์ที่เป็นเงื่อนไข 

3. เขียนประโยคที่รวมข้อมูลข้อ 1 และ 2 เข้าด้วยกัน (ถ้า a เกิดขึ้น เราจะทำ b) เช่น ถ้าเป็นวันจันทร์/พุธ/ศุกร์ เราจะต้องฝึกพูดภาษาอังกฤษ 15-20 นาที 

4. ให้คิดถึงอุปสรรคที่อาจทำให้ไปไม่ถึงเป้าหมาย เช่น สิ่งกวนใจ หรือปัจจัยอื่น ๆ เป็นต้น

5. ให้ลองจำลองสถานการณ์ขึ้นมา ถ้ามีสิ่งกวนใจหรือสิ่งรบกวนเกิดขึ้น เราจะจัดการกับมันยังไง 

6. เขียนประโยคข้อ 4 และ 5 เข้าด้วยกัน (ถ้า a เกิดขึ้น เราจะทำ b)  เช่น ถ้าระหว่างที่ต้องฝึกพูดภาษาอังกฤษแล้วเรารู้สึกท้อขึ้นมา เราจะพัก 5 นาที แล้วค่อยกลับมาฝึกใหม่จบครบตามเวลาที่กำหนดไว้ เป็นต้น 

 

เราขอแนะนำให้ลองปรับนิสัยด้วยการวางแผนแบบ If-Then Plans อย่างน้อย 3-5 เดือน ในช่วงแรก ๆ มันอาจจะยากหรือต้องฝืนตัวเองมากหน่อย แต่ถ้าฝึกทำไปเรื่อย ๆ จนติดเป็นนิสัยแล้ว เราจะสามารถแก้นิสัยผัดวันประกันพรุ่งได้และทำทุกอย่างที่กำหนดไว้ได้สำเร็จแน่นอน 


 

บทความที่เกี่ยวข้อง

6 นิสัยยอดแย่ที่จะทำให้เรียนไม่รู้เรื่อง

รู้จักสไตล์การเรียนของตัวเองผ่าน ‘VARK Model’

เทคนิคการแบ่งเวลาแบบ ‘มะเขือเทศ’ ที่จะช่วยให้การโฟกัสเป็นเรื่องง่ายขึ้น

เคล็ดลับที่จะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนชอบลงมือทำจาก Stanford

6 วิธีพัฒนาทักษะสมอง EF ในวัยรุ่นให้เก่งและดี เอาตัวรอดได้

วิธีปรับ Mindset ปลุก Passion ปลดล็อคความสามารถเจ๋ง ๆ ในตัวเอง

เคล็ดลับที่จะทำให้เราเก่งขึ้น 1% ทุกวัน

อ่านหนังสือไม่ได้ เอาแต่เล่นมือถือ ระวังเป็นโรค ‘สมาธิสั้นเทียม'

วิธีลดความกดดันในตัวเอง เมื่อคนรอบข้างคาดหวังมากเกินไป

เทคนิคพัฒนาสมอง “ช่วยเพิ่ม IQ” เพิ่มความสามารถในการเรียนรู้

3 วิธี ‘ฝึกสมาธิ’ เรียกคืนสติในทุกสถานการณ์

รู้จัก 'Impostor Syndrome' โรคคิดว่าตัวเองไม่เก่ง

 

 

แหล่งข้อมูล

Heidi Grant Halvorson. (2012). 9 เคล็ดลับประสบความสำเร็จด้วยวิถีฮาร์วาร์ด. แปลจาก 9 Things Successful People Do Differently. แปลโดยคมกฤษ ของบุญวัฒนา. กรุงเทพฯ: เอ็กซเปอร์เน็ท

 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Magazine
  • 3 Followers
  • Follow