ซึ่งหลังจากที่เจ้าตัวได้ปรากฎตัวต่อหน้าแฟน ๆ ที่สนามบินก็ทำเอาแฟนคลับที่ตามไปรับถึงกับกรี๊ดสนั่นจนสนามบินแทบแตกกันเลยทีเดียว ใครที่เป็นแฟนซีรีย์หรือแฟนคลับของหนุ่ม อีเจฮุน ก็อย่าลืมตามไปให้กำลังใจในงานแฟนมีตติ้งกันเยอะ ๆ ด้วยนะ !
ตลอดระยะเวลา 14 ปี ในวงการของ อีเจฮุน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เจ้าตัวจะขึ้นมาเป็นพระเอกแถวหน้าของวงการบันเทิงได้อย่างสวยงามเหมือนทุกวันนี้ เพราะเขานั้นต้องผ่านการแสดงทั้งซีรีส์ และภาพยนตร์มามากกว่า 20 เรื่อง จากบทบาทหลากหลายที่ได้รับ ทำให้ อีเจฮุน ได้ฝึกฝน และพัฒนาฝีมือการแสดงไปในตัวอยู่เสมอ จนทุกวันนี้ อีเจฮุน กลายเป็นนักแสดงอีกหนึ่งคนที่ได้รับขนานนามว่า มีความเป็นมืออาชีพในระดับแถวหน้าของวงการไปแล้ว !
ตามไปอ่านประวัติ และผลงานที่ผ่านมาของหนุ่มคนนี้กันดีกว่า บอกเลยว่าฝีมือการแสดงแต่ละเรื่องไม่ธรรมดาจริง ๆ
อีเจฮุน
เกิดวันที่ 4 กรกฎาคม 1984
เกิดที่ โซล ประเทศ เกาหลีใต้
อาชีพ : นักแสดง
เข้าวงการปี : 2007
ต้นสังกัด : Saram Entertainment
การศึกษา : Korea National University of Arts - School of Drama
ช่องทางการติดตาม Instagram : leejehoon_official
อี แจฮุน (Lee Jehoon) เกิดวันที่ 4 กรกฎาคม 1984 เป็นนักแสดงชาวเกาหลีใต้ อีเจฮุน เคยเป็นนักศึกษาวิศวกรรม สาขาเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechonology) ณ Korea University ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยอันดับต้นของเกาหลี ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนสายการเรียน เพื่อเข้าสู่การเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นนักแสดงเต็มตัวด้วยการเข้าเรียนที่ Korea National University of Arts ซึ่งมีนักแสดงดังที่จบจากสถาบันเดียวกันนี้ ได้แก่ อีซอนกยุน, พัคโซดัม, คิมโกอึน, บยอนโยฮัน, คิมดงอุค, ฮันเยริ, พัคจองมิน และอีกมากมาย
อีเจฮุน เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการแสดงภาพยนตร์นอกกระแสถึง 18 เรื่อง ตั้งแต่ปี 2007 จากนั้นก็เริ่มปรากฏตัวในภาพยนตร์หลายเรื่อง อาทิเรื่อง The Front Line (2011), Architecture 101 (2012) และ My Paparotti (2013) และฝากผลงานซีรีส์ไว้อีกมากมาย เช่นเรื่อง Fashion King (2012), Secret Door (2014), Signal (2016), Tomorrow, With You (2017), Where Stars Land (2018) และ Time to Hunt (2019)
อีเจฮุน เป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงหนัง เขาประสบความสำเร็จ และมีชื่อเสียงมากขึ้นในปี 2011 โดยได้รับความนิยมจากการแสดงภาพยนตร์ระทึกขวัญเรื่อง Bleak Night ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ อีเจฮุน ได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากหลายเวทีไปครอง รวมถึงงานใหญ่อย่าง 32rd Blue Dragon Film Awards และ 48th Grand Bell Awards
ต่อมา อีเจฮุน ได้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการด้านการแสดงไปอีกขั้นในภาพยนตร์เรื่อง The Front Line โดยเขารับบทเป็นหัวหน้าหน่วยทหาร ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เขาได้รับความสนใจจากแฟน ๆ มากขึ้น และมีงานเรื่องอื่น ๆ ตามเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2012 อีเจฮุน มีโอกาสได้แสดงภาพยนตร์แนวรักโรแมนติกเรื่อง Architecture 101 ประกบคู่กับนางเอกสาวชื่อดัง ซูจี โดยรับบทเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยขี้อายที่ตามหาความรัก จากเรื่องนี้ทำให้ อีเจฮุน ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น
อีเจฮุน เดบิวต์ผลงานซีรีส์เรื่องแรกในปี 2010 จากซีรีส์เรื่อง Three Sisters ก่อนที่เขาจะมารับเล่นซีรีส์เต็มตัวในเรื่อง Fashion King ในปี 2012 ถึงแม้ว่าเรื่องนี้ อีเจฮุน จะได้รับการตอบรับไม่ดีเท่าที่ควรนักเมื่อเทียบกับผลงานภาพยนตร์ แต่ อีเจฮุน ก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถ และทักษะการแสดงซีรีส์ที่พัฒนาขึ้นจากเดิมของซีรีส์เรื่องนี้
หลังจากนั้นไม่นาน อีเจฮุน ได้เข้ารับราชการทหารในปี 2012 โดยประจำการในหน่วยงานตำรวจปราบจลาจลของสำนักงานตำรวจนครบาลกรุงโซล และปลดประจำการในปี 2014 ซึ่งหลังจากปลดประจำการทหารลงนั้น อีเจฮุน ก็เริ่มต้นกลับมามีผลงานการแสดงอีกครั้งในปี 2016 กับซีรีส์ย้อนยุคเรื่อง Secret Door ประชันฝีมือการแสดงร่วมกับนักแสดงชั้นครู อย่าง ฮันซอกกยู ในบทขององค์ชายรัชทายาทซาโด
และหลังจากนั้น อีเจฮุน ก็มีผลงานภาพยนตร์ และซีรีส์ออกมาอย่างต่อเนื่องเหมือนที่ผ่านมา แต่ซีรีส์ที่เป็นหนึ่งผลงานโดดเด่นหลังจากที่เขากลับมาจากเกณฑ์ทหาร นั่นก็คือเรื่อง Signal (2016) กับการสวมบทเป็นนักสืบยุคปัจจุบันที่ต้องติดต่อกับนักสืบรุ่นพ่อในอดีต ด้วยการไขคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่ปิดไม่ลง ผ่านการติดต่อกันด้วยวิทยุสื่อสาร
ซีรีส์เรื่องนี้ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้ชมด้วยเรื่องราวที่เข้มข้น และฝีมือการแสดงคุณภาพของเหล่านักแสดงนำ โดยทำเรตติ้งเฉลี่ยทั่วประเทศไว้สูงสุดถึง 12.544% เป็นหนึ่งเรื่องที่ถือเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่ทำให้ อีเจฮุน กลับมามีกระแสในแวดวงซีรีส์อีกครั้ง และทยอยมีผลงานการแสดงมาเรื่อย ๆ เป็นนักแสดงอยู่ในระดับแถวหน้าของวงการบันเทิงมาจนถึงปัจจุบัน
และในปี 2021 ก็ดูเหมือนจะเป็นอีกหนึ่งปีทองของ อีเจฮุน เพราะต้นปีนี้เขาก็ได้รับแสดงซีรีส์บทปัง ๆ เนื้อหาคุณภาพไปถึง 2 เรื่องด้วยกัน ทั้งเรื่อง Taxi Driver และ Move To Heaven
โดยเรื่อง Taxi Driver เป็นซีรีส์แนวแอคชั่น อาชญากรรม ที่สร้างจากเว็บตูน เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคนขับรถแท็กซี่ ที่ไม่ได้ทำงานในบริษัทรถแท็กซี่ทั่ว ๆ ไป แต่ว่าเป็นบริษัทที่ให้บริการพิเศษนั่นคือ การรับหน้าที่เป็นตัวแทนแก้แค้นให้กับผู้โดยสาร !
เรื่องนี้ อีเจฮุน รับบทนำเป็น คิมโดกี อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ เชี่ยวชาญด้านการจู่โจมทางน้ำ เขาจบการศึกษาจากโรงเรียนนายเรือ แต่ชีวิตก็ต้องมาพบกับจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เมื่อแม่เขาถูกฆ่าตายด้วยฝีมือของฆาตกรโรคจิต และอาชีพใหม่ของเขาคนขับแท็กซี่ บริษัทแท็กซี่ที่บริการรับแก้แค้นให้ลูกค้า หากลูกค้าคนใดต้องการใช้บริการแก้แค้น คิมโดกี และทีมงานของเขาก็จะลงมือจัดการให้ตามที่ต้องการ
และอีกหนึ่งผลงานที่ อีเจฮุน ตีบทแตกนั่นก็คือเรื่อง Move To Heaven ซีรีส์เรื่องล่าสุดจาก Netflix ที่ลงจอให้ได้ชมกันบนแพลตฟอร์มของ Netflix โดยเฉพาะ เป็นซีรีส์แนวดราม่าสะท้อนสังคมที่ต้องการสื่อให้เห็นถึงคุณค่าของผู้ที่ได้จากโลกนี้ไปแล้ว
โดยเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจรับทำความสะอาด และจัดการข้าวของเครื่องใช้ของผู้ตาย เพื่อจะถ่ายทอดข้อความของผู้ที่จากไปและการก้าวข้ามผ่านของผู้ที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
ซึ่งในเรื่องนี้ อีเจฮุน สวมบทบาทใหม่ที่มีคาแรคเตอร์แตกต่างออกไปจากผลงานก่อน ๆ เขาได้รับบทเป็น โจซังกู อดีตนักมวย ชกมวยหาเงิน พอได้มาเจอกับตัวละครตัวอื่น ๆ ในเรื่อง ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปจากเดิม เขาก็ได้เรียนรู้ชีวิต เติบโตขึ้น และเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง
Move to Heaven เป็นหนึ่งซีรีส์ฟิลกู๊ดที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนซีรีส์ทั่วโลก ด้วยเนื้อเรื่อง และการถ่ายทอดอารมณ์ของเหล่านักแสดง ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้กลายเป็นซีรีส์สั้น 10 ตอน ที่สามารถครองใจแฟน ๆ ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว
นอกจากนี้ อีเจฮุน ยังได้ฝากผลงานภาพยนตร์เรื่องใหม่ล่าสุด Collecters ที่เล่าเรื่องราวการวางแผนจารกรรมมหาสมบัติกลางกรุงโซลแสดงร่วมกับ ชินฮเยซอน ที่ตอนนี้ก็กำลังเข้าฉายอยู่ในโรงภาพยนตร์ในประเทศไทยอยู่ด้วย
ปี 2007 They Live by Night
ปี 2007 Small Town Rivals
ปี 2008 Ah Man
ปี 2008 Holy Vacation
ปี 2009 Just Friends?
ปี 2009 언어생활
ปี 2009 When Winter Comes
ปี 2009 The Pit and the Pendulum
ปี 2010 The Influence
ปี 2010 The Servant
ปี 2010 Finding Mr. Destiny
ปี 2010 Maldives Express
ปี 2010 A Dog Came Into My Flash
ปี 2010 Miss Communication
ปี 2010 Ghost (Be With Me)
ปี 2011 Bleak Night
ปี 2011 The Front Line
ปี 2012 Architecture 101
ปี 2012 Ghost Sweepers
ปี 2012 Rise of the Guardians (พากย์เสียง Jack Frost)
ปี 2013 An Ethics Lesson
ปี 2013 My Paparotti
ปี 2016 Phantom Detective
ปี 2017 Anarchist from Colony
ปี 2017 I Can Speak
ปี 2018 Earth: One Amazing Day (เสียงพากย์บรรยาย)
ปี 2020 Time to Hunt
ปี 2020 - 2021 Collectors
ปี 2010 Three Sisters
ปี 2012 Fashion King
ปี 2014 Secret Door
ปี 2016 Signal
ปี 2017 Tomorrow, With You
ปี 2018 Where Stars Land
ปี 2019 DMZ – Prologue (เสียงพากย์บรรยาย)
ปี 2020 Hot Stove League
ปี 2021 Taxi Driver
ปี 2021 Move to Heaven
RECONNECT - Code Kunst , Simon Dominic , Choi Jung-hoon