ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน หรือ Emergency Contraceptive Pill เป็นยาที่มีไว้ใช้เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ในกรณีที่ ‘พลาด’ หรือ ฉุกเฉินจริง ๆ เช่น ถุงยางอนามัยฉีกขาดหรือรั่ว โดนข่มขืน ลืมกินยาคุมกำเนิดแบบปกติมากกว่า 3 วัน เป็นต้น
ยาคุมฉุกเฉินที่มีขายในไทยจะมีอยู่ 2 ยี่ห้อ คือ โพสตินอร์ (Postinor) และ มาดอนนา (Madonna) ทั้ง 2 ยี่ห้อเป็นยาคุมฉุกเฉินแบบฮอร์โมนเดี่ยว ก็คือมีปริมาณฮอร์โมนเลวอนอร์เจสเตรล 0.75 มิลลิกรัม/เม็ด โดยในหนึ่งแผงจะมียาทั้งหมด 2 เม็ด
ข้อมูลทางวิชาการระบุไว้ว่าต้องกิน 2 ครั้ง คือ เม็ดแรกกินภายใน 72 ชั่วโมง และกินเม็ดที่สองใน 12 ชั่วโมงถัดไป แต่ล่าสุดองค์การอนามัยโลกได้รวบรวมข้อมูลงานวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินฮอร์โมนเดี่ยว โดยพบว่าการกินยาคุมฉุกเฉินพร้อมกันสองเม็ดในครั้งเดียวให้ประสิทธิภาพเหมือนกับการกินแยกสองครั้ง และไม่ได้ทำให้เกิดอาการข้างเคียงเพิ่มขึ้นด้วย องค์การอนามัยโลกจึงได้แนะนำว่าควรกินพร้อมกันสองเม็ดไปเลย เพื่อความสะดวกและป้องกันการหลงลืมกินยาเม็ดที่สองด้วย
สรุปแล้วยาคุมฉุกเฉินแบบฮอร์โมนเดี่ยว (ยี่ห้อโพสตินอร์ และมาดอนนา) สามารถกินได้ 2 แบบ คือ กินพร้อมกัน 2 เม็ดในครั้งเดียว หรือกินทีละ 1 เม็ด โดยเม็ดแรกต้องกินภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ และกินเม็ดที่ 2 ในอีก 12 ชั่วโมงถัดไป
อยากให้ทำความเข้าใจก่อนว่า ยาคุมฉุกเฉินคือยาที่เอาไว้ใช้ในการป้องกันการตั้งครรภ์ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินหรือพลาดจริง ๆ ในยาคุมฉุกเฉินจะมีส่วนผสมเหมือนยาคุมแบบธรรมดา แต่มีปริมาณฮอร์โมนต่อเม็ดสูงมาก ๆ และต้องกินหลังจากมีเพศสัมพันธ์ภายในเวลาที่กำหนดเท่านั้นจึงจะมีประสิทธิภาพและป้องกันการตั้งครรภ์ได้
ส่วนยาคุมกำเนิดแบบธรรมดาจะเป็นยาคุมแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด โดยเราจะต้องกินวันละ 1 เม็ดในทุก ๆ วัน เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ ถ้าหากเรารู้ว่าตัวเองมีเพศสัมพันธ์เป็นประจำและใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ ขอบอกเลยว่าการกินยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ อาจมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์มากขึ้น เมื่อเทียบกับการใช้วิธีคุมกำเนิดแบบธรรมดาวิธีอื่น เช่น ใส่ถุงยางอนามัย กินยาคุมกำเนิดแบบธรรมดา ฝังยาคุม ฯลฯ
แน่นอนว่ายาคุมฉุกเฉินไม่ใช่ยาคุมธรรมดาที่ต้องกินเป็นประจำ เพราะมันเป็นยาคุมที่มีปริมาณฮอร์โมนสูงมาก ๆ และผลิตขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินเท่านั้น
• มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ใช้วิธีคุมกำเนิดใด ๆ
• ใช้ถุงยางแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่ารั่ว แตก หรือหลุดไหม
• กินยาคุมชนิดธรรมดาอยู่ แต่ลืมกินไปวันสองวันหรือนานกว่านั้น
• นับระยะปลอดภัยผิิดพลาด
• ถูกข่มขืน มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ตั้งใจและไม่เต็มใจ
หากเกิดเหตุฉุกเฉินตามที่ว่ามาทั้งหมด และเราได้กินยาคุมฉุกเฉินอย่างถุกวิธีหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ก็จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้ 85% แต่ถ้าคิดว่าเราอาจมีเพศสัมพันธ์เป็นประจำ หรือมีเป็นระยะ ๆ ก็ควรจะใช้วิธีคุมกำเนิดแบบธรรมดาดีกว่ากินยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ
หากเราใช้ยาคุมฉุกเฉินอย่างถูกวิธีและใช้เฉพาะในกรณีฉุกเฉินจริง ๆ จะไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงใด ๆ ที่เป็นอันตราย และนี่คือเหตุผลที่ไม่อยากให้กินยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ
• ไม่ควรกินยาคุมฉุกเฉินเกิน 2 แผง หรือ 4 เม็ดต่อเดือน เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงกับรังไข่ในระยะยาวได้
• หากกินยาคุมฉุกเฉินติดต่อกันนาน ๆ จะทำให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดลดลง และอาจทำให้เกิดความผิดปกติที่รังไข่ เยื่อบุโพรงมดลูก และเพิ่มความเสี่ยงในการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ถึง 2%
บางคนอาจมีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนได้ สำหรับใครที่อาเจียนในช่วง 2 ชั่วโมงแรกหลังการกินยาเม็ดแรก ก็อาจจะต้องกินยาเม็ดแรกซ้ำอีกครั้ง หลังกินยาคุมฉุกเฉินไปแล้ว ประจำเดือนควรจะมาภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่ถ้าประจำเดือนไม่มาภายในเวลาดังกล่าว และมีอาการต่อไปนี้ เช่น ปวดท้อง เจ็บหน้าอก ปวดหัวมาก วิงเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย มองเห็นไม่ชัด ปวดน่องหรือโคนขาอย่างหนัก ให้รีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นอาการบ่งชี้ถึงการตั้งครรภ์ หรืออาการแทรกซ้อนที่จำเป็นต้องให้แพทย์วินิจฉัย
บทความที่เกี่ยวข้อง
ยาคุมฉุกเฉินกินยังไงให้ไม่พลาดท้อง
มีอะไรกับแฟนแบบถูไถ ไม่ได้สอดใส่ ต้องกินยาคุมฉุกเฉินหรือเปล่า
กินยาคุมฉุกเฉินแล้วมีเลือดออก แปลว่าไม่ท้องใช่ไหม
มีอะไรกันครั้งเดียวจะท้องไหม รวมความรู้เรื่องเซ็กซ์ ความเชื่อผิด ๆ ที่จะทำให้ท้องได้
เราพร้อมจะมีเซ็กซ์ มีอะไรครั้งแรกกับแฟนแล้วใช่ไหม ?
ชอบสด ไม่ใส่ถุงยาง เสี่ยงเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ง่ายกว่าที่คิด !
ชีวิตจะเป็นยังไง ถ้าพลาดท้องในวัยเรียน
หลั่งนอกทุกครั้งที่มีอะไรกัน เสี่ยงท้องมากน้อยแค่ไหน
แหล่งข้อมูล
ข้อเท็จจริงเรื่องยาคุมฉุกเฉิน โดยมูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง (สคส.)