ผู้เขียน: Higashino Keigo (ฮิงาชิโนะ เคโงะ)
ผู้แปล: กนกวรรณ เกตุชัยมาศ
สำนักพิมพ์: น้ำพุ
นอกจากยอดขายกว่า 12 ล้านเล่มที่การันตีคุณภาพแล้ว ชื่อของนักเขียนอย่าง ‘ฮิงาชิโนะ เคโงะ’ ก็คือการคอนเฟิร์มว่านิยายเล่มนี้อ่านแล้ววางไม่ลงแน่นอน เรื่องย่อคือมีหัวขโมยสามคนได้เข้าไปซ่อนตัวในร้านชำร้าง ระหว่างที่พวกเขาซ่อนตัวอยู่ได้มีจดหมายลึกลับสอดเข้ามาทางช่องประตู ซึ่งเป็นจดหมายที่ใครบางคนเขียนเล่าปัญหาชีวิตและขอคำแนะนำจากเจ้าของร้านชำ หัวขโมยทั้งสามนึกสนุกจึงเขียนตอบเอง แต่จู่ ๆ จดหมายที่เขียนก็หายวับไปและมีจดหมายฉบับใหม่มาแทน สิ่งที่น่าตกใจคือจดหมายที่ว่านั้นถูกส่งมาจากอดีตเมื่อ 40 ปีก่อน ทำให้หัวขโมยทั้งสามต้องตามหาคำตอบของความลับนี้
ผู้เขียน: Makoto Shinkai, Naruki Nagakawa
ผู้แปล: ธีราภา ธีรรัตนสถิต
สำนักพิมพ์: Maxx Publishing
ไม่ต้องเป็นทาสแมวอ่านแล้วก็อินเหมือนกัน กับเรื่องสั้น 4 เรื่องที่เล่าเรื่องผ่านตัวละครผู้หญิงกับแมว มีประเด็นหลากหลายตั้งแต่เรื่องของความสัมพันธ์ สังคม และสภาพจิตใจของคนเรา สะท้อนให้เห็นถึงการมีชีวิตของคนและแมว ว่าต่างก็ต้องการพลังของความแข็งแกร่งและความเข้าใจกันเพื่อใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ อ่านแล้วทั้งอบอุ่นและรู้สึกเหงาในใจ
ผู้เขียน: Higashino Keigo (ฮิงาชิโนะ เคโงะ)
ผู้แปล: วงศ์สิริ สังขวาสี มิยาจิ
สำนักพิมพ์: ไดฟุกุ
อีกหนึ่งเล่มของ ‘ฮิงาชิโนะ เคโงะ’ ที่เนื้อเรื่องดีมากจนได้รับรางวัล Naoki Award ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดของวงการวรรณกรรมญี่ปุ่น เรื่องราวเกี่ยวกับการฆาตกรรมที่มีสูตรคณิตศาสตร์มาเกี่ยวข้อง รวมถึงความรักอันแสนบริสุทธิ์ แล้วบทสรุของการฆาตกรรมครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ขอบอกเลยว่าถ้าได้เริ่มเปิดอ่านแล้วจะวางไม่ลง เพราะทุกตัวอักษรนั้นชวนลุ้นและคาดเดาไม่ได้เลยจริง ๆ
ผู้เขียน: Lewis Carroll
ผู้แปล: จิระนันท์ พิตรปรีชา
สำนักพิมพ์: ฟรีฟอร์ม
วรรณกรรมเยาวชนที่หลายคนน่าจะรู้จัก กับเรื่องราวมหัศจรรย์ของ ‘อลิซ’ ที่ซ่อนเงื่อนงำลึกซึ้งไว้มากมาย เนื้อเรื่องยิ่งอ่านก็ยิ่งเหมือนเราได้ผจญภัยไปพร้อมกับอลิซ ตอนเด็กอ่านแล้วอาจจะรู้สึกสนุกสุด ๆ แต่อยากให้ลองหยิบมาอ่านตอนที่โตขึ้นอีกรอบ แล้วเราจะตีความเรื่องราวของอลิซได้เฉียบคมมากขึ้นว่าเป็นวรรณกรรมที่ให้ข้อคิดและซ่อนเงื่อนงำไว้มากมาย
ผู้เขียน: Jeeyeong Choi (ชเวจียอง)
ผู้แปล: พัชรวดี ประเสริฐไพบูลย์
สำนักพิมพ์: แพรว
ขอแนะนำนิยายโรแมนติกที่ #จินยองอ่าน เมื่อ ‘พันแชยุล’ หญิงสาวที่เพิ่งกลับจากออสเตรียหลังเรียนจบเอกเปียโน เธอกลับมาก็พบว่าพ่อเสียชีวิตกะทันหัน และบริษัทของพ่อก็ล้มละลาย ทำให้เธอถูกเจ้าหนี้ไล่ตาม จนวันหนึ่งเธอได้พบกับ ‘วอนดงโฮ’ อดีตนักเปียที่หลบหนีมาจากเกาหลีเหนือ และเรื่องราวความรักโรแมนติกของนักเปียโนทั้งสองก็ค่อย ๆ เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันนั้น
ผู้เขียน : Sohn Won-Pyung (ซน ว็อนพย็อง)
ผู้แปล: ภัททิรา เยาวภา
สำนักพิมพ์: ฟูริน
ในหัวของคนเรานั้นต่างก็มีอัลมอนด์อยู่ในหัวคนละสองเมล็ด และชื่อมันก็คือ ‘อะมิกดาลา’ แต่ดูเหมือนอัลมอนด์ในหัวของ ‘ชอนยุนแจ’ จะเสียเพราะเขาไม่มีความรู้สึกดีใจ เศร้า รัก หรือกลัวเลย ความรู้สึกพวกนี้เป็นเพียงสิ่งเลือนรางที่เขาสัมผัสไม่ได้ ซึ่งเขาใฝ่ฝันว่าวันหนึ่งจะรู้สึกถึงความรัก ความเกลียด และความเจ็บปวดแบบคนทั่วไปบ้าง นิยายเล่มนี้ขายดีมากในเกาหลีใต้ จนได้รับการแปลไปแล้วกว่า 13 ภาษา
ผู้เขียน: George Orwell
ผู้แปล: รัศมี เผ่าเหลืองทอง, อำนวยชัย ปฎิพัทธ์เผ่าพงศ์
สำนักพิมพ์: สมมติ
นวนิยายที่ควรค่าต่อการอ่าน อ่านแล้วจะช่วยให้เราเห็นถึงสิ่งที่สังคมจะต้องยอมแลกเพื่อให้ได้มาซึ่ง ‘ความเชื่อที่เสมอภาคกัน’ ผ่านกระบวนการโฆษณาชวนเชื่อที่ถูกวางโครงเรื่องและรูปแบบเอาไว้อย่างแยบยลโดย ‘ผู้ชี้นำ’ ของแต่ละยุคแต่ละสมัย แนะนำมาก ๆ อ่านแล้วจะได้แง่มุมใหม่ ๆ และได้รู้ถึงความน่ากลัวของสังคมแบบเผด็จการเบ็ดเสร็จ (Totalitarianism)
ผู้เขียน: José Saramago
ผู้แปล: กอบชลี
สำนักพิมพ์: Library House
นวนิยายจากเจ้าของรางวัลโนเบล ปี 1998 ‘บอด’ มีเรื่องราวเกี่ยวกับชะตากรรมและจริยธรรมของผู้คนที่สับสนพังทลาย เมื่อชายคนหนึ่งขับรถติดไฟแดง จู่ ๆ ดวงตาของเขากลับเห็นแต่สีขาว เขากลายเป็นคนตาบอด และอาการตาบอดของคนที่หนึ่ง ก็ลุกลามแพร่ระบาดไปถึงอีกหลายคน จนกระทั่งคนทั้งเมืองสูญเสียการมองเห็น ทำให้รัฐบาลพยายามกักกันผู้ติดโรค เพื่อยับยั้งอาการประหลาดด้วยมาตรฐานการเยียวยาที่แย่สุด ๆ คือไม่มีวิธีรักษา ไม่มีช่องทางสื่อสาร ทำให้เกิดความโกลาหลอลหม่านขึ้น เป็นอีกเล่มที่ควรค่าต่อการอ่าน ปังแบบเต็มสิบไม่หัก