“ศตวรรษที่ 21” คือ “สังคมความรู้” การไหลบ่าถาโถมของความรู้ใหม่รายวัน หลายช่องทาง หลากรูปแบบ และเป็น “ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง” ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม ฯลฯ การใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ ไม่ใช่สไตล์ของคน Gen นี้แล้ว เพราะแกนโลกได้เปลี่ยนไปแล้ว!
“ศตวรรษที่ 21” เป็นโลกของเทคโนโลยี นวัตกรรม เครื่องจักร และหุ่นยนต์ สิ่งเหล่านี้ถูกนำมาใช้ควบคู่ไปกับมนุษย์ นั่นแปลว่าลูกของพวกเราที่อยู่ในยุคนี้ จะต้องมีเพื่อนร่วมงานเป็นสิ่งเหล่านี้แน่นอน ดังนั้น พ่อแม่ที่มีทักษะที่รองรับต่อโลกในยุคนี้จะเป็นเมนเทอร์ที่คอยแนะนำแนวทางให้ลูกเติมทักษะบางอย่างที่เทคโนโลยีทำแทนเราไม่ได้ เช่น ทักษะการคิดสร้างสรรค์
แล้วจะเลี้ยงลูกอย่างไรให้เหมาะสมกับศตวรรษนี้ เรามาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน
ศตวรรษที่ 21 ยุคที่เทคโนโลยีก้าวล้ำ เต็มไปด้วยนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ทุกสิ่งรอบตัวเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตลอดเวลา ยิ่งช่วงโควิดด้วยแล้ว เปลี่ยนจนกลายเป็น New Normal
ตัวช่วยหนึ่งที่ช่วยให้การเลี้ยงดูเด็กในยุคสมัยใหม่นี้ เป็นเรื่องง่ายขึ้น นั่นคือการใช้ “ธรรมชาติ” เป็นตัวช่วย หากเราเข้าใจธรรมชาติมองทุกสิ่งให้เป็นเรื่องปกติ ผู้ปกครองจะรู้สึกสบายมากขึ้น ไม่ยึดติด พร้อมปรับตัว รองรับทุกความเปลี่ยนแปลง ข้อสำคัญปรับความคิดบอกตัวเองว่า “การเลี้ยงเด็ก” ไม่ใช่ภาระ ไม่ใช่แค่หน้าที่ แต่คุณมีความสุขที่ได้อยู่ร่วมกับพวกเขา
ลองมาดูว่า นิสัยไม่ดีที่ตัวคุณเองก็รู้ หลายคนก็ออกปาก แม้คนเราจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ
ไปหมด แต่มีให้น้อยที่สุดจะดีกว่า อะไรบ้างที่ไม่ดี เช่น จู้จี้ ขี้บ่น พูดมาก ขี้เกียจ โมโหร้าย ฯลฯ ใช้โอกาสพิเศษแห่งความเป็นพ่อแม่นี้ ปรับปรุง แก้ไข ทิ้งความคิดและนิสัยแบบเดิม ๆ วิธีง่าย ๆ ลองเขียนนิสัยที่ไม่ดี ไม่เหมาะสมลงในกระดาษ หรือสอบถามจากคนใกล้ชิด หรือแม้แต่ให้ลูก ๆ ช่วยวิเคราะห์ เสนอแนะ ถือเป็นการเปิดใจ แทนที่จะสอนแต่ให้เด็กแก้ไขตัวเอง แต่เราเปลี่ยนบทใหม่คือทำให้เด็กเห็นว่า เราเป็นพ่อแม่ที่พร้อมแก้ไขตัวเอง โดยรับฟังความคิดเห็นจากลูก แล้วคุณและครอบครัวจะสนุกสนานไปกับการปรับปรุงตัวเอง ที่สำคัญเราจะกลายเป็นต้นแบบแห่งการปรับตัวให้ลูก
“Time Management” เป็นทักษะที่สำคัญมากแห่งศตวรรษที่ 21 ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต้องจำเป็นต้อง
ใช้เป็นอย่างยิ่ง เป็นยุคที่มนุษย์มีทั้งเวลาจริงและเวลาเสมือน! คือเวลาในโลกออนไลน์ ที่วนไปวนมา วนกลับย้อนซ้ำได้ แต่เวลาในชีวิตจริง หมุนย้อนกลับไม่ได้! ดังนั้นเวลาในชีวิตจริง จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก แต่ถึงสำคัญอย่างไร คนมากมายก็ยังบริหารจัดการได้ไม่ดีพอ ไม่ใช่แค่เด็ก แม้แต่ผู้ใหญ่ก็เป็นปัญหา ยิ่งสำหรับคนที่ไม่เคยวางแผนมาก่อน ในช่วงแรก ๆ อาจจะยาก วิธีที่ง่ายที่สุดที่ใช้สอนลูกได้คือ ให้เด็ก ๆ เขียนสิ่งที่จะต้องทำ (อาจเป็นภารกิจ กิจกรรมที่ต้องทำในแต่ละวัน) แล้วให้พิจารณาความสำคัญก่อนหลัง กำหนดช่วงเวลา เป้าหมายประจำวัน ประจำเดือน ประจำปี เมื่อลูก ๆ เริ่มคุ้นเคยกับการบริหารจัดการเวลาแล้ว เขาจะกลายเป็นเด็กที่มีระเบียบมีวินัยมากยิ่งขึ้น
ในศตวรรษที่ 21 ไม่ใช่ยุคแห่งการที่ผู้ใหญ่จะนำเด็ก แต่เป็นยุคแห่งการเคียงข้างก้าวไปด้วยกัน การ
ร่วมมือกับเด็กยุคใหม่ต้อง “รู้เขา รู้เรา” เด็กยุคนี้ต้องการความเข้าใจ มีเหตุมีผลมากกว่าแค่ความรักความอบอุ่น ซึ่งถือเป็นพื้นฐานของครอบครัวอยู่แล้ว เรียนรู้ เข้าใจ ติดตามการเติบโต พัฒนาการทั้งร่างกาย และจิตใจ สิ่งที่เขาชอบ สิ่งที่เขาเกลียด พร้อมเป็นผู้ฟังที่ดี เป็นเสมือนเพื่อนที่เขายังเคารพและพร้อมปฏิบัติตามในสิ่งที่เราเสนอแนะไป
นอกจากนี้การเรียนจะไม่ใช่หน้าที่ของเด็กฝ่ายเดียว แต่ต้องเป็นการเรียนรู้ร่วมกันและเติบโตไปพร้อมกัน ยกตัวอย่างเช่น ลองชวนเด็ก ๆ มาทำทีม ตั้งเป้าหมายร่วมกัน เรียนรู้โลก สังคม ทำสิ่งใหม่ ๆ กิจกรรมใหม่ ๆ หรือแม้แต่วิชาเรียนของเด็กไปพร้อมกัน คุณจะสังเกต เรียนรู้ เข้าใจพวกเขาได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสื่อสาร สร้างสายสัมพันธ์ เติมความรัก ความอบอุ่นให้กับครอบครัวได้เนียน ๆ อีกทางหนึ่ง
เมื่อคุณเป็นคนแรก ๆ ที่พวกเขาลืมตาตื่นขึ้นมาเห็น ควรทำให้เขาชื่นชอบ ชื่นชม ศรัทธา ภูมิใจ กรี๊ดในตัวคุณ ก่อนที่จะไปกรี๊ดกร๊าดมองหาไอดอลไกลตัวที่อยู่นอกบ้านหรือจากในอินเตอร์เน็ต เพราะเด็กในศตวรรษที่ 21 เป็นโรคเสพไอดอล ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่อย่ายอมแพ้ การทำตัวเป็นไอดอลขวัญใจลูก แรก ๆ อาจมีเขินอายอยู่บ้าง แต่นี่บ้านของเราซะอย่าง จัดได้เต็มที่ วิธีง่าย ๆ เช่น ให้คิดว่ามีกล้องจับภาพเราอยู่ โชว์ศักยภาพ ความสามารถให้เต็มที่ ตั้งแต่ความคิด การแต่งตัว การกระทำ การละเล่นที่อินเทรนด์ พร้อมทักษะในเรื่องต่าง ๆ รับมือและแก้ไขปัญหา รวมถึงปฏิกิริยาตอบสนองกับผู้อื่น แน่ละ! มันต้องเรียกร้องความสนใจเข้าตาลูก ๆ หลาน ๆ อย่างแน่นอน แถมอาจได้สามีหรือภรรยาคนเดิม แต่เพิ่มเติมเป็นแฟนคลับอีกด้วย
เด็กช่วงก่อนวัยรุ่นจะซึบซับพฤติกรรมจากผู้อื่นมาเลียนแบบ เพื่อสร้างเสริมตัวตนของพวกเขา และเมื่อเขายอมรับพ่อกับแม่เป็นไอดอล พวกเขาจะมองดูเราอยู่ตลอดเวลา และจุดนี้เองจะทำให้เขาเลียนแบบเรา ซึ่งคุณพ่อคุณแม่จะสามารถแนะนำอะไร จะโยกซ้าย โยกขวา ชวนลูกไปในทิศทางที่ถูกต้อง จึงไม่ใช่เรื่องยาก เป้าหมายสำคัญ ไม่ใช่เพียงแค่เป็นต้นแบบที่ดี แต่ยังช่วยให้เด็ก ๆ วิ่งเข้าหาคนในครอบครัว ไม่ใช่วิ่งหนี พวกเขาอยากให้เรารับฟัง เป็นเพื่อนพูดคุย แชร์ความรู้สึกกัน
โลกในศตวรรษที่ 21 จะเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว งดงามหรือน่ากลัว ขอให้คุณพ่อคุณแม่มีความมุ่งมั่นว่าเราพร้อมแล้วที่จะสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็ก ๆ เติบโตขึ้น เพื่อเผชิญโลกภายนอก และดำเนินชีวิตไปตามไลฟ์สไตล์ของพวกเขา พ่อแม่ให้ชีวิต แต่คนลิขิตทางเดิน คือ...ตัวของเด็กเอง
อังสนา ทรัพย์สิน
ข้อมูลอ้างอิง บทสัมภาษณ์/แบบสอบถาม พ่อแม่ ผู้ปกครอง คุณครู และเด็ก ๆ จาก http://www.youthradioandmedia.org, http://www.oecd.org, https://www.familylives.org.uk