“ทุกคนฟัง วันนี้ห้ามคุยกับไอ้ก้อย” คิดดูว่าคน ๆ หนึ่งมาโรงเรียนเหมือนปกติ แต่พอจะพูดกับเพื่อนในห้องกลับไม่มีใครคุยด้วย ความรู้สึกมันจะสับสนแค่ไหนที่เพื่อนทั้งห้องทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน บางคนอาจทนไม่ไหว เลือกที่จะโวยวายแล้วให้เรื่องมันจบ แต่บางคนเขาก็เลือกที่จะเงียบและโทษตัวเองว่าเขาต้องทำอะไรผิดไปเพื่อนถึงได้แบน ส่วนคนแกล้งก็คิดว่าไม่เป็นไร พรุ่งนี้ก็ทำเป็นลืมแล้วกลับมาคุยกันเหมือนเดิม แต่คนที่โดนเขาก็จะอดคิดไม่ได้ว่าทำไมต้องเป็นเขาที่โดน ทำไมถึงไม่เป็นคนอื่น ทำไมต้องเป็นเขา พรุ่งนี้เช้าพาแม่มาย้ายโรงเรียนเลยจ๊ะ
คำตอบหยุดโลกที่สุดเท่าที่เคยเจอมา จะนาน ๆ ครั้งเจอทีก็ยังเจ็บ ถ้าอยู่ในบริบทที่ทุกคนคุยกันอยู่ พอเราจะพูดบ้าง เพื่อนกลับพูดแบบนี้ใส่หน้า คนฟังจะรู้สึกโคตรจะทำตัวไม่ถูก โอเค หลายคนอาจจะเถียงว่าแบบนี้เรียกว่าแกล้งเหรอ ซึ่งมันเรียกว่าแกล้งได้นะ เพราะคุณคุยกับทุกคนเลย แต่พอเราจะพูดแสดงความเห็นบ้างกลับกันซีนกัน ทำให้ทำตัวไม่ถูก เพื่อนใจบาง ๆ บางคนก็ไม่ได้จะรับคำพูดแรง ๆ แบบนี้ได้หรอกนะ
ไม่มีใครชอบให้คนอื่นมาทำลายข้าวของของตัวเองโดยไม่มีเหตุผล อย่างเช่น หนังสือเรียนหรือสมุดจดการบ้าน หากสมุดเล่มนั้นยังเป็นสมุดที่ต้องในชีวิตประจำวัน ใช้จดงานหรือส่งการบ้านครู หากคุณไปฉีก คุณอาจจะคิดแค่ว่าเพื่อนก็แค่ต้องเอาเศษที่ถูกฉีกไปแปะเทปกาว แค่นี้ก็สิ้นเรื่อง แต่ความจริงแล้วเขาอาจต้องลอกข้อความทุกอย่างในสมุดเล่มนั้นใส่สมุดเล่มใหม่ทั้งหมด เพราะมันดูไม่เรียบร้อยที่จะใช้ส่งงานครู และครูบางคนก็รับสมุดที่ปกขาดไม่ได้ซะด้วยซิ นี่รวมไปถึงเคสเอาหนังสือเรียนไปซ่อนหรือทิ้งด้วยนะ เลิกทำเหอะ !
เวลามีเรียนพละเหตุการณ์ดึงกางเกงแกล้งเพื่อนจะฮิตเป็นพิเศษ โดยเฉพาะผู้ชายที่จะชอบแกล้งดึงกางเกงพละของเพื่อนผู้ชายด้วยกัน ซึ่งบางคนโชคไม่ดี พลาดลืมผูกกางเกงให้แน่น คนอื่นอาจได้เห็นถึงกางเกงชั้นใน และจะยิ่งเลวร้ายใหญ่ถ้าเพื่อนผู้หญิงเปิดกระโปรงเพื่อนผู้หญิงด้วยกัน เพราะผู้หญิงทุกคนต่างก็ไม่ชอบให้ใครมาเปิดกระโปรง แต่ยังไม่เลวร้ายเท่าผู้ชายเปิดกระโปรงผู้หญิง เพราะนั่นอาจทำให้เขามีปมเรื่องเพศ กลัวเพศตรงข้ามในระดับที่มากกว่าปกติจนอยู่ร่วมกันไม่ได้ในอนาคตเลยก็ได้
ไม่ว่าจะด้วยความคึกคะนองหรือความคิดน้อย ไอ้ความรู้สึกอยากถีบเพื่อนเวลาลงบันไดพร้อมกันเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ มักจะผุดขึ้นมาในหัวเสมอ คุณอาจจะคิดว่าแค่ผลักเบา ๆ คงไม่เป็นอะไรหรอก แถมบันไดมันก็แค่สองสามขั้นเอง ตกไปก็แค่เสียหลัก เพื่อนไม่น่าจะเจ็บอะไร แต่หารู้ไม่ว่าการผลักเพื่อนไม่ว่าจะเบาหรือแรงสามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ทั้งนั้น แล้วถ้าเกิดว่าเพื่อนเสียหลักจนล้มอย่างแรง ไม่ใช่แค่ถลอกแต่พิการทั้งชีวิตขึ้นมา คุณรับผิดชอบไหวเหรอ ไหนจะพ่อแม่เขาอีก คิดให้เยอะ ๆ จะได้ไม่ร้องไห้เสียใจแล้วพูดว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ทีหลัง
เห็นเพื่อนเข้าห้องน้ำนานมันคันไม้คันมือให้อยากเอาอะไรหนา ๆ ไปคล้องกลอนประตูไว้ไม่ให้เพื่อนได้ออก คิดในใจว่าสนุกที่ได้ยินเพื่อนร้องขอให้เปิดประตูหรือทุบประตูแรง ๆ พอเพื่อนออกไม่ได้มันยิ่งสะใจ ขอขังต่ออีกหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกก็เพื่อนกันเนาะ แต่ทำไมต้องไปทำลายความไว้ใจเพื่อนขนาดนั้น เพื่อนบางคนไม่ได้เข้มแข็งที่จะทนได้ บางคนโตขึ้นมากลายเป็นคนกลัวที่แคบ ขึ้นลิฟต์ไม่ได้ มีชีวิตเหมือนถูกยัดเข้าไปในกล่องเพราะการถูกเพื่อนขังในห้องน้ำตอนเด็กก็มี
เราอาจจะเคยชมพระเอกในหนักสักเรื่องที่ฆ่าผู้ร้ายตายเป็นสิบได้ด้วยปากกาแท่งเดียวว่ามันโคตรเท่ แต่ในความเป็นจริง การเอาปากกาไปทิ่มเพื่อนไม่ว่าจะส่วนไหนก็ตามมันไม่ได้เท่เหมือนในหนังหรอก แต่มันคือการทำร้ายร่างกายเพื่อนด้วยอาวุธซึ่งก็คือปากกา เพราะของแหลมขนาดนั้น ออกแรงแค่นิดหน่อยก็สามารถทะลุผ่านเนื้อได้แล้ว ซึ่งถ้าหากมันทะลุไปถึงอวัยวะภายใน มันจะสร้างความเจ็บปวดให้คนโดนแกล้งขนาดไหน ชีวิตจริงไม่เหมือนในหนังนะจะบอกให้ อย่าหาทำเชียว