‘ด้ายแดงแห่งโชคชะตา’ เป็นความเชื่อของประเทศในแถบเอเชียตะวันออก มีต้นกำเนิดความเชื่อมาจากประเทศจีน ภาษาจีนเรียกว่า 紅线 หรือ หงเชี่ยน ในตำนานกล่าวว่า หนุ่มสาวที่ถูกเทพเจ้าที่ชื่อว่า 月下老 เยว่เชี่ยเหลาหรือผู้เฒ่าแห่งจันทราเป็นผู้กำหนดโชคชะตาให้คนมาคู่กัน โดยจะมีเชือกสีแดงที่มองไม่เห็นผูกอยู่ที่ข้อเท้าของแต่ละฝ่าย ไม่ว่าจะห่างกันไปไกลแค่ไหน แต่วันหนึ่งก็จะต้องกลับมาหากันแบบไม่มีอะไรกั้น !
นั่นคือคำพูดของเยว่เชี่ยเหลา โดยความเชื่อนี้ก็ได้มีอิทธิพลมากมายให้กับคนทั่วโลกโดยเฉพาะคนเอเชียที่นิยมเอาไปสร้างเป็นหนัง เป็นละคร เช่น ซีรีส์เรื่องด้ายแดง Until We Meet Again the Series หรือเอาไปแต่งฟิคชั่นต่าง ๆ ให้คนดูฟิน หวังว่าคู่รักของเราจะอยู่ที่ไหนสักแห่ง มโนไปว่าฉันน่าจะมีด้ายแดงที่ข้อเท้าแต่แค่มองไม่เห็นเท่านั้น
ส่วนในประเทศญี่ปุ่นก็มีความเชื่อเรื่องด้ายแดงเช่นกัน เรียกว่า「運命の赤い糸」(Unmei no akai ito) แต่สำหรับความเชื่อของชาวญี่ปุ่นเชือกแดงจะผูกติดไว้ที่นิ้วก้อยข้างซ้ายแทนที่จะเป็นข้อเท้า เพราะว่านิ้วก้อยเป็นสัญลักษณ์ของคำมั่นสัญญานั่นเอง เราจะเห็นความเชื่อนี้ไปปรากฏในหนังอนิเมชั่นชื่อดังเรื่อง Your name (Kimi no na wa) ที่เรียกน้ำตาคนดูไปได้หลายลิตรทีเดียว
ส่วนในยุโรปนั้นก็มีความเชื่อเรื่องด้ายแดงในลักษณะของหนึ่งคน สองร่างว่า มนุษย์ถูกเทพเจ้าซุส (Zeus) สร้างขึ้นให้มีสี่แขน สี่ขาและสองใบหน้าในคน ๆ เดียว แต่เป็นซุสเองที่เกิดอิจฉาและหวาดกลัวพลังของมษุษย์จึงได้แยกพวกเขาออกเป็นสองส่วนกระจัดกระจายออกไปให้ไกลกันที่สุด ทำให้มนุษย์ต้องใช้ชีวิตเพื่อค้นหาอีกครึ่งของพวกเขา แล้วจะได้รักกันเหมือนในหนังสือ The Haft of it ที่โรแมนติกไม่น้อย
ฟังแล้วก็ใจชื้นขึ้นมานิดหน่อยว่าเราอาจจะถูกผูกติดไว้กับใครสักคนด้วยด้ายแดง รอเพียงแค่เวลาที่จะได้เจอกัน เมื่อด้ายแดงนั้นหดสั้นลงและระหว่างที่ยังไม่เจอเขาคนนั้น เราก็หวังว่าจะมีความสุขที่สุดเท่าที่จะมีได้
แหล่งข้อมูล
- งานวิจัยเรื่อง ศึกษาตำนานความเชื่อด้ายแดงแห่งโชคชะตาของชาวจีน Study the legend of the Chinese red thread beliefs โดย อรรคภณ วชิรวัชร์ ชนิสรา สีรือแสง
- ด้ายแดงแห่งโชคชะตา (運命の赤い糸)