ความอายไม่มีอยู่จริง ! คนที่ดูขี้อายสามารถเป็นคนที่กล้าแสดงออกในเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้ แถมความอายยังเป็นพลังของความเปราะบางด้วยนะ หมายความว่าหากเราไม่รู้ พูดผิด หรือเข้าใจผิดไปบ้างก็ปล่อยให้มันเป็นไป ไม่อายที่จะถาม ไม่ลังเลที่จะขอความรู้จากคนที่รู้จริง ๆ ความอายเป็นเสน่ห์ของความผิดพลาดที่คนเราให้อภัยได้
ว่ากันว่าคนเรามีอยู่ 4 บุคลิกคือ ตัวตนจริง ๆ ของเรา สองคือตัวตนที่เรารับรู้ตัวเอง (ซึ่งอาจตรงหรือไม่ตรงกับตัวตนที่แท้จริงก็ได้) สามคือตัวตนในอุดมคติ เป็นตัวตนในความฝันที่อยากจะเป็นหรือมีบุคคลต้นแบบที่อยากจะใช้ชีวิตตาม และสี่คือตัวตนที่เรารับรู้จากการมองของคนรอบข้าง ซึ่งเราสามารถเรียกความมั่นใจ ความกล้าออกมาจากบุคลิกของคนที่ชอบหรืออยากจะเป็นออกมาได้
สิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับความกล้าก็คือความกลัว ดังนั้นอย่ากลัวความกลัว ลองเปลี่ยนความกลัวเป็นความท้าทาย ทุกครั้งที่เรากล้าทำสิ่งใหม่ ๆ เราจะได้ฝึกตัวเองให้มีความกล้ามากขึ้น ก้าวออกจาก comfort zone จะได้ค้นหาความมั่นใจในตัวเอง มีความเชื่อมั่นในการตัดสินใจที่เราแทบจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรามีอยู่ แม้ว่าจะทำแล้วมันล้มเหลวหรือไม่ชนะก็ตาม แต่สิ่งเหล่านั้นคือตราประทับแห่งความกล้าหาญของตัวเรา
Risky Play คือ การเล่นแบบเสี่ยงอันตราย เช่น การปีนเขา ตั้งแคมป์ เดินป่า วิ่งเทรล เล่นสเก็ตบอร์ด ต่อยมวย เพราะผลวิจัยบอกว่า Risky Play เป็นการฝึกทักษะการประเมินอันตรายเพื่อให้เราวางแผน ไม่ตื่นตระหนก ไม่ย่อท้อ ช่วยฝึกความมั่นใจ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เรารับมือกับความเสี่ยงและความกล้าได้ดี เมื่อถึงเวลาที่เราต้องกล้าแสดงออกเราก็จะทำมันได้อย่างชิลล์ ๆ เหมือนกับที่เราเล่นแบบเสี่ยงอันตรายนั่นแหละ
เราต้องยอมรับว่า บางครั้งความไม่กล้าแสดงออกในเรื่องต่าง ๆ ก็มาจากการเลี้ยงดูเพราะผู้หญิงมักถูกเลี้ยงมาให้กลัวทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไว้ ตรงข้ามกับผู้ชายที่มักจะได้รับการสนับสนุนเสมอเมื่อต้องทำสิ่งที่ท้าทาย นั่นจึงเป็นเหตุให้ผู้หญิงมักกลัวสิ่งต่าง ๆ หรือไม่ก็ถูกสังคมคาดหวังว่าต้องกลัว (ซึ่งบางกรณีอาจจะเกิดขึ้นกับผู้ชายด้วยก็ได้) แต่ความจริงแล้วความกล้าแสดงออกเป็นของทุกเพศนะ
แหล่งข้อมูล
- การที่จะเลี้ยงลูกสาวให้มีความกล้า ต้องส่งเสริมความท้าทาย