Child Grooming คือ การสร้างความเป็นมิตร เข้ามาตีสนิทให้เด็กตายใจเพื่อล่วงละเมิดทางเพศในภายหลัง โดยคำว่า Grooming (อ่านว่ากรูมมิ่ง) หมายถึง ตระเตรียม เตรียมการอะไรบางอย่าง ดังนั้นเมื่อรวมกับคำว่า Child จึงหมายถึง การเตรียมหรือล่อลวงเด็กเพื่อวัตถุประสงค์ทางเพศ
จนเมื่อเกิดขึ้นจริง เด็กคนนั้นก็จะถูกตีตราหาว่าให้ท่าหรือสมยอมเองเพราะรู้จักผู้ใหญ่เป็นอย่างดี ยอมอยู่กันสองต่อสอง ไม่ขัดขืน นั่นก็เป็นเพราะว่าผู้ใหญ่คนนั้นได้ทำการ grooming หรือเตรียมที่จะล่อลวงมาก่อนหน้านั้นแล้ว ซึ่งอันตรายไม่แพ้ในกรณีคนแปลกหน้า การทำแบบนี้ในหลายประเทศถือเป็นความผิดทางอาญา แต่คนไทยก็จะไม่รู้และโทษเหยื่อทุกทีไป
ตัวอย่างของ Child Grooming
• เกลี้ยกล่อมด้วยความสนอกสนใจ ทำเป็นเข้าอกเข้าใจ
• ซื้อของให้ทั้งที่ไม่ใช่วันสำคัญ เช่น มือถือใหม่ เสื้อผ้า หรือเงินสด
• ชวนไปโน่นไปนี่สองต่อสอง ทักแชทมาคุยนอกเวลาแบบลับ ๆ
• ละลายพฤติกรรมด้วยการเริ่มเเตะเนื้อต้องตัว กอด สัมผัส หอมแก้ม ลูบไล้
• ชวนทำเรื่องขาดสติ เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์
• ชวนหนีเรียน ลาโรงเรียน ออกจากบ้านโดยผู้ปกครองไม่รับรู้
• เริ่มบทสนทนาเกี่ยวกับเรื่องเพศ ขอรูปลับ ๆ หรือขอให้เปิดให้ดู
• พูดเรื่องเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์จนนำไปสู่การขอมีอะไรด้วย
พฤติกรรมเหล่านี้อาจจะใช้เวลาเป็นปีหรือหลายเดือนกว่าจะเกิดขึ้น เพราะเป็นขั้นตอนในการ grooming เด็กให้ตายใจเพื่อวัตถุประสงค์ทางเพศ โดยอาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ใหญ่กับเด็กเท่านั้น แต่อาจจะเป็นเด็กด้วยกันเอง หรือในกลุ่มเพื่อน ๆ ก็ได้ แล้วอย่างนี้เราจะทำยังไงเมื่อสิ่งเหล่านี้อาจเกิดขึ้นกับเราได้
1. จำไว้ว่ามันไม่ใช่ความผิดของเรา อย่าตำหนิ อย่าโทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุของปัญหาเมื่อถูกกรูมมิ่ง เพราะต้นเหตุที่แท้จริงอยู่ที่คนที่กรูมมิ่งเรา
2. อย่าคิดตอบโต้ แก้แค้น หรือคิดว่าแก้ปัญหาด้วยตัวเองได้ เพราะเสี่ยงที่จะทำไม่สำเร็จ การตอบโต้จะทำให้สถานการณ์รุนแรงมากขึ้น
3. เก็บบันทึกหลักฐาน เก็บทุกอย่างที่เป็นหลักฐานที่เขาเริ่มพูดเรื่องเพศ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ เซฟหรือแคปหน้าจอเอาไว้เป็นหลักฐานให้หมด
4. บอกผู้กรูมมิ่งให้หยุด เเสดงเจตนาของเราให้เขารู้ว่าเราไม่ได้ยินดีหรือพอใจที่จะอยู่ในสถานการณ์นี้ และอยากให้เขาหยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่
5. ขอความช่วยเหลือโดยด่วน อย่าปล่อยไว้นานหลายชั่วโมง สิ่งเหล่านี้ต้องพูดทันทีที่เกิดขึ้นปรึกษาเพื่อนสนิทหรือคนที่ไว้ใจ ทางที่ดีที่สุดควรจะเป็นผู้ใหญ่ เช่น พ่อแม่ ญาติ หรือครู เพื่อเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟัง หรือถ้าไม่ไว้ใจใครเลย ก็ให้แจ้งหน่วยงานของรัฐหรือเอกชน มูลนิธิที่เกี่ยวข้อง เช่น มูลนิธิสายเด็ก ChildLine 1387
6. ไม่บอกรหัสผ่านโซเชียล รหัสผ่านมือถือให้กับใคร เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย หรือมีคนมาแอบอ้างตัวตนเพื่อบิดเบือนความจริง
7. บล็อคผู้กรูมมิ่ง การบล็อคจะเป็นการรายงายผู้ให้บริการสื่อโซเชียลนั้น ๆ ให้รู้ว่าบุคคลนี้เป็นภัยต่อสังคม และผู้ให้บริการจะได้รู้และจัดการได้
สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับบางคนนั้นไม่ใช่เรื่องของเวรกรรมมาแต่ชาติปางไหน แต่เป็นเพียงแค่การกระทำที่เห็นแก่ตัวและไม่มีจิตสำนึกของคนคนหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นอย่านิ่งเฉยต่อความรุนแรงทางเพศและเรียกคืนความยุติธรรมให้กับตัวเองและคนรอบข้าง
แหล่งข้อมูล
- Online Child Sexual Exploitation
- Grooming and Child Sexual Exploitation