อีกหนึ่งเกมการเล่นที่นอกจากจะให้ความสนุกแล้วยังช่วยให้ลูกฝึกกระบวนการคิด แก้ปัญหา และเชาวน์ปัญญา คือ การเล่น Card game ที่เหมาะสมกับช่วงวัย

การเล่นเกมที่เหมาะสมกับช่วงวัย ส่งผลดีทั้งต่อพัฒนาการทางสมอง กล้ามเนื้อ รวมไปถึงจิตใจและอารมณ์ของเด็ก Card game คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนเลือกนำมาใช้ เพราะสามารถดัดแปลงมาเล่นกับลูกได้ตั้งแต่วัยเด็กเล็กจนถึงเด็กโต เพียงปรับเปลี่ยนกฎกติกาบางอย่างก็ทำให้ Card game มีวิธีการเล่นที่หลากหลายไม่น่าเบื่อ

เหล่านี้คือตัวอย่าง Card game เล่นสนุก เล่นไม่ยาก อุปกรณ์ไม่มาก และสามารถดัดแปลงไปเล่นได้หลากหลายรูปแบบ

1. เกมการ์ดจับคู่ผลไม้และรูปทรง

เกมการ์ดที่เล่นได้ตั้งแต่เด็กเล็ก เป็นการจับคู่กันระหว่างภาพผักผลไม้และผลไม้ของเล่น เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ชื่อ ลักษณะ สี และชนิดของผักผลไม้ต่าง ๆ ทั้งยังรู้ความแตกต่างระหว่างผักผลไม้แต่ละชนิดอีกด้วย

2. เกมการ์ดจับคู่ตัวเลข

เกมนี้คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถให้ลูกเล่นได้ตั้งแต่ยังเด็กเช่นกัน นอกจากจะเป็นการสอนให้ลูกรู้จักลักษณะของตัวเลขแต่ละแบบแล้ว ยังสอนเรื่องจำนวนนับ สี และการเรียงลำดับของแต่ละตัวเลขได้อีกด้วย

3. เกมการ์ดต่อจิ๊กซอว์

จิ๊กซอว์มีหลากหลายรูปแบบ หนึ่งในรูปแบบที่นิยมมากในเด็กเล็กคือแบบเกมการ์ด คือเป็นภาพรูปทรง หรือสัตว์สิ่งของอย่างง่าย นำมาตัดออกเป็น 4 ชิ้น 9 ชิ้น หรือ 12 ชิ้นแบบไม่มีตัวหยักด้านใน เพื่อให้เด็กประกอบภาพเหล่านั้นได้ง่าย รวมไปถึงได้ฝึกพัฒนาการทางสมองในการเชื่อมโยงภาพและรูปทรงต่าง ๆ

4. เกมการ์ดจับคู่คำศัพท์

เกมการ์ดนี้เป็นการฝึกทักษะคำศัพท์ทางภาษาให้กับเด็ก เหมาะสำหรับเด็กโตที่เริ่มเรียนรู้และจดจำคำศัพท์ได้มากพอสมควร วิธีการเล่นคือ ให้คุณพ่อคุณแม่วางการ์ดรูปทรง สี หรือลักษณะสิ่งของต่าง ๆ ไว้บนโต๊ะ แล้วให้ลูกจับคู่กับการ์ดคำศัพท์ที่มีอยู่ หากลูกไม่รู้หรือไม่มั่นใจ คุณพ่อคุณแม่สามารถบอกคำใบ้เพื่อเสริมความมั่นใจกับลูกได้

5. เกมการ์ดจับคู่เหมือน

เป็นเกมการ์ดทดสอบความจำที่สามารถเล่นได้พร้อมกันทุกคนในครอบครัว วิธีการคือคว่ำการ์ดทุกใบลงกับพื้น หนึ่งคนจะมีสิทธิพลิกการ์ดได้ 2 ใบ ถ้าการ์ดทั้ง 2 ใบเป็นภาพเหมือนกันจะได้ 1 คะแนน แต่ถ้าเป็นภาพต่างกันต้องคว่ำการ์ดทั้งหมด แล้วให้คนต่อไปเป็นคนพลิกการ์ดเพื่อหาภาพเหมือน คนที่ความจำดีที่สุด จับคู่ภาพเหมือนได้มากที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะ

6. เกมใครเร็วชนะ

เกมทดสอบการทำงานของสายตา หู สมอง และมือ พร้อมทั้งทักษะทางภาษา โดยเกมนี้จะแบ่งการ์ดคำศัพท์ออกเป็น 2 ชุด ชุดหนึ่งวางหงายกระจายอยู่บนโต๊ะ อีกชุดหนึ่งคว่ำตั้งเป็นสำรับไว้ด้านข้าง เมื่อผู้เล่นคนแรกหยิบการ์ดในสำรับขึ้นมา ให้ขานคำศัพท์พร้อมทั้งโชว์ให้ดูว่าได้คำไหน ผู้เล่นทุกคนต้องหาคำศัพท์และภาพที่เหมือนกับที่หยิบขึ้นมา ในกองการ์ดที่กระจายอยู่บนโต๊ะ ใครหาเจอก่อนคนแรกถือเป็นผู้ชนะและได้คะแนนไป

7. เกมการ์ดอูโน่ (UNO)

อูโน่เป็นเกมการ์ดที่นิยมมากที่สุด เพราะทั้งสนุกสนาน ฝึกกระบวนการคิด การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และฝึกเชาวน์ปัญญาได้เป็นอย่างดี กติกาหลัก ๆ ของอูโน่คือ ผู้เล่นจะได้รับแจกการ์ดคนละ 7 ใบ แต่ละคนต้องวางการ์ดลงไปบนกองให้มีตัวเลขเดียวกับ หรือสีเดียวกับการ์ดบนโต๊ะ ถ้าไม่มีจะโดนบทลงโทษ เช่น จั่วเพิ่มจนกว่าจะมีหรือข้ามตาของตัวเองไป นอกจากการ์ดตัวเลขยังมีการ์ดพิเศษไว้สำหรับป่วนผู้เล่นคนอื่น ๆ ได้อีกด้วย ผู้ชนะของเกมอูโน่ คือคนที่การ์ดหมดมือเป็นคนแรก

8. เกมการ์ดอีแก่กินน้ำ

เป็นเกมที่เล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มี กติกาการเล่นไม่ยาก คือ ดึงไพ่ออกจากสำรับ 1 ใบ ซ่อนไว้สำหรับเป็นไพ่อีแก่ที่จะไม่มีคู่ จากนั้นแจกไพ่กับผู้เล่นทั้งหมดจนหมดสำหรับ ให้ผู้เล่นแต่ละคนจับคู่ไพ่บนมือตัวเอง ดึงออกมาวางไว้บนโต๊ะ จากนั้นให้ผู้เล่นที่ได้รับไพ่คนแรก ดึงไพ่จากมือของผู้เล่นคนข้าง ๆ 1 ใบ ถ้าจับคู่กับไพ่ในมือได้ก็ดึงออกมาวางไว้บนโต๊ะ แต่ถ้าไม่มีคู่ก็ให้คนถัดไปจับต่อ คนที่เหลือไพ่เยอะที่สุด หรือได้ไพ่อีแก่จะเป็นฝ่ายแพ้

9. เกมการ์ดทายได้ให้เลย

เกมการ์ดที่เรียกเสียงหัวเราะได้จากทุกคนในครอบครัว เด็ก ๆ จะได้ฝึกกระบวนการคิด เชื่อมโยง และแก้ปัญหาเฉพาะหน้า กติกาการเล่นคือ ผู้เล่นจะต้องหยิบการ์ดในกองขึ้นมา 1 ใบ โดยห้ามดูการ์ด แต่ให้ชูไว้เหนือศีรษะหรือเหน็บไว้กับที่คาดผมที่ทำไว้เฉพาะของเกม จากนั้นผู้เล่นคนอื่นจะต้องใบ้ลักษณะหรือความหมายของคำนั้น ๆ จนกว่าผู้เล่นจะทายถูก (สามารถเพิ่มความยากและความสนุกด้วยการใบ้แบบไม่มีเสียงได้)

10. เกมการ์ดต่อสู้วัดพลัง

เกมการ์ดแนวต่อสู้เหมาะสำหรับเด็กโต เพราะมีรายละเอียดในการเล่น รวมไปถึงกฎกติกาค่อนข้างละเอียด เป็นการนำการ์ดที่มีค่าพลังต่าง ๆ มาต่อสู้กับการ์ดของเพื่อน แต่ละการ์ดจะมีแรงก์ ค่าพลัง สเตตัส และสกิลที่แตกต่างกัน เด็ก ๆ ต้องคิดพิจารณา จัดหมวดหมู่ แก้ปัญหา และหาวิธีเอาชนะการ์ดของเพื่อนฝั่งตรงข้ามให้ได้

เกมการ์ดชนิดนี้ได้รับความนิยมแพร่หลาย จึงมีชนิดและรูปแบบการเล่นแตกต่างกันออกไป อาทิ การ์ดเวทมนตร์ การ์ดยูกิ เป็นต้น

เกมการ์ดแต่ละชนิดมีกฎกติกาการเล่นแตกต่างกันออกไป ซึ่งล้วนแต่เป็นกฎที่ไม่ตายตัว แต่ละครอบครัวสามารถประยุกต์กฎกติกาการเล่นได้ตามความเหมาะสมและการละเล่นของแต่ละครอบครัว แต่ข้อควรคำนึงคือการรู้แพ้รู้ชนะของแต่ละเกม รวมไปถึงการเคารพกฎกติกาของแต่ละเกม หากผู้เล่นเข้าใจและเคารพกันก็จะส่งผลให้การเล่นเกมสนุกและได้ประโยชน์สูงสุด