เปรียบดั่ง ‘น้ำ’ ที่แอบรัก ‘พี่โชน’ ในหนังเรื่องสิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก จากลูกเป็ดขี้เหร่ที่ไม่ป๊อปต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้รุ่นพี่ที่แอบชอบมาสนใจ ต้องขัดตัว พอกหน้า ดัดฟัน ฝึกจริตจะก้านให้เป็นสาวสวยโดยมีเพื่อนรักคอยซัพพอร์ต แต่น้ำไม่รู้ตัวเลยว่าพี่โชนนั้นประทับใจในตัวเธอมาตั้งแต่แรกแล้ว (แอบถ่ายรูปเธอ ดูแลห่าง ๆ มีเธออยู่ในสายตาตลอด) เพราะน้ำไม่คิดว่าคนหล่อระดับท็อปของโรงเรียนจะมาชอบเธอได้เพราะเธอไม่ใช่คนสวย !
ผ่านไป 10 กว่าปี หนังเรื่องนี้ก็ยังคงใช้ได้ในปัจจุบัน ทุกคนยังรู้สึกถึงน้ำ รู้สึกถึงพี่โชนได้ไม่เปลี่ยน แม้แต่ ‘ความสวย’ ในตอนนั้นกับตอนนี้ก็ยังคงไม่เปลี่ยนไป เด็กผู้หญิงยังคงต้องดูแลตัวเองให้หน้าเนียนใสไร้สิว ผิวขาวอมชมพู ฟันสวย หน้าเรียวเล็ก ตาโต ปากนิด จมูกหน่อย ตัวเล็ก ขาเรียว และอีกมากมายตามมาตรฐานความสวย หรือที่เราเรียกว่า ‘Beauty Standard’ แบบไทย ๆ ที่สังคมได้ปลูกฝังและชี้นำเอาไว้ในหัวของเด็กสาวเด็กหนุ่มทุกคนว่า คนสวยต้องเป็นแบบนี้ ถ้าต่างจากนี้ก็คือไม่สวย (เป็นจุดเริ่มต้นของวลีไม่สวยแต่ตลก สายฝอ ไม่สวยแต่แซ่บ)
แต่ในโลกของความเป็นจริง ไม่ใช่ทุกคนที่จะพยายามแล้วสวยเช้งได้แบบน้ำ คนเราเกิดมาร้อยพ่อพันแม่ มรดกทางชีววิทยาที่ได้รับมาจากพ่อแม่และบรรพบุรุษของแต่ละคนย่อมไม่มีทางเหมือนกัน และถึงแม้จะเข้าใจในจุดนี้ดีแค่ไหน หลายคนก็ยังคงเจ็บปวดกับ Beauty Standard อยู่ดี โดยเฉพาะจากคนใกล้ตัวหรือคนในครอบครัวที่มักจะชอบบั่นทอนความมั่นใจที่มีอยู่แล้วน้อยนิดให้ไม่เหลือสักจุดทศนิยม
ดังนั้นการเริ่มต้นทำความเข้าใจว่าอะไรคือ Beauty Standard จึงเป็นประตูบานแรกจากหลาย ๆ บานที่จะทำให้เราค่อย ๆ หลุดพ้นได้ เพราะการที่จะหลุดออกไปจาก Beauty Standard ที่สังคมวางไว้มานานแล้วมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย การที่คนเราจะหันมาพอใจในพุงกะทิของตัวเอง กรามที่มันใหญ่ ฟันที่มันเหยิน ผมที่มันหยิก ไหล่ที่มันกว้าง น้ำหนักที่มันเกินมาตรฐาน หรือต้นแขน ต้นขาใหญ่ ๆ ที่เราเคยเกลียดจนทนมองไม่ได้มาหลายปี มันเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาและพลังมาก ๆ และถึงแม้ว่าเราจะไปถึงจุดที่คิดว่าสังคมคิดว่าสวยแล้วก็ตาม แต่วันหนึ่งมันก็จะเปลี่ยนไปอีกเรื่อย ๆ ไม่จบไม่สิ้น เหมือนอย่างคนที่ลดน้ำหนักจนผอมลงได้ คนอื่นก็พูดอีกแหละว่า ‘ทำไมผอมจัง’ หรือคนที่ทำศัลยกรรมเรื่อย ๆ เป็นต้น
อย่าพยายามไปสู้กับบรรทัดฐาน Beauty Standard เพราะไม่ช้าก็เร็วมันจะเปลี่ยนไป (ตามแฟชั่นไอคอน ตามสื่อ ตามเทรนด์ในยุคนั้น ๆ) แต่ให้สู้กับการหาจุดที่พอใจในตัวเอง สู้กับความกลัว ความไม่กล้าใส่เสื้อผ้าที่ตัวเองอยากใส่มาตลอด สู้กับอคติของคนที่สาดคำพูดร้าย ๆ มาทำลายความมั่นใจของเรา สู้กับความกลัวที่จะเสียเพื่อนที่ชอบบูลลี่หน้าตารูปร่างเรา และเปลี่ยนตัวเองเมื่อเราอยากเปลี่ยน ไม่ใช่ตามมาตรฐานความสวยของสังคม
บทความที่เกี่ยวข้อง
คำแนะนำที่จะทำให้ 'รักตัวเอง' มากขึ้น ด้วยแนวคิด Body Positive
จะทำยังไงกับ 'Beauty Privilege' ในโรงเรียน
รวมทริคดูแลตัวเองให้ดูดี เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้เต็มสิบ