• S (Specific) – เป้าหมายต้องเจาะจงชัดเจน มีแรงจูงใจ เกิดประโยชน์ต่อตัวเองมาก ๆ
• M (Measurable) - สามารถวัดผลได้ว่าเมื่อไหร่จะสำเร็จอย่างต่อเนื่องเป็นอาทิตย์/เดือน
• A (Attainable/Achievable) – เป็นเป้าหมายที่มีคุณค่า สำคัญกับตัวเองไม่ใช่เพื่อคนอื่น
• R (Realistic) – เป็นเป้าหมายที่ทำได้ในชีวิตจริง ไม่เกินตัว ไม่ลงทุนมาก สมเหตุสมผล
• T (Time-bound) – มีการวางแผนเรื่องเวลาที่ชัดเจน กำหนดไทม์ไลน์ได้ว่าจะสำเร็จเมื่อไหร่
ตามปกติแล้ว เวลาที่คนเราจะตั้งเป้าหมายอะไรสักอย่างก็มักจะตั้งจากผลสำเร็จในระยะยาว ยกตัวอย่างเช่น
• ลดน้ำหนัก 10 กิโลฯ
• Get A ภาษาจีน
• มีแฟนดี ๆ สักคน
• เก็บเงินไปติ่งที่เกาหลี
เป้าหมายข้างต้นเป็นเป้าหมายที่ชัดเจนดีมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีนะ แต่การตั้งเป้าหมายเเค่นั้นอาจจะยังไม่พอ เพราะจากการวิจัยพบว่าการตั้งเป้าหมายจากผลลัพธ์ระยะยาวแบบนั้นจะถูกล้มเลิกได้ง่าย เพราะเป็นเป้าหมายที่ใหญ่และไม่รู้ว่าจะไปให้ถึงยังไง นักจิตวิทยาจึงแนะนำว่าเมื่อจะตั้งเป้าหมายให้เลือกตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ จะดีกว่า เช่น
• ลดน้ำหนัก 10 กิโลฯ → จะออกกำลังกายทุกวัน วันละ 30 นาที งดน้ำหวานทุกชนิด
• Get A ภาษาจีน → ฝึกภาษาจีนวันละ 2 ชั่วโมง
• มีแฟนดี ๆ สักคน → เข้าสังคมมากขึ้น เข้าชมรมที่ไม่เคยเข้าเผื่อจะได้เจอคนมากขึ้น
• เก็บเงินไปติ่งที่เกาหลี → เปิดบัญชีที่ถอนไม่ได้ เพื่อจะได้ไม่กดออกมาใช้
การที่เราตั้งเป้าหมายอะไรก็ตามที่มันใหม่และใหญ่มาก ๆ แรก ๆ มันก็ฮึบอยู่หรอก แต่นานวันเข้าเราจะเริ่มขี้เกียจและเหนื่อย (สำหรับคนที่มีวินัยไม่ค่อยจะสูง) สิ่งที่เราควรทำคือการตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ เพื่อที่จะไปให้ถึงเป้าหมายใหญ่ ๆ หรือการหั่นเป้าหมายที่ใหญ่นั้นให้เล็กลง เล็กพอที่จะทำให้เรารู้สึกว่าทำได้ไม่ยาก ทำได้ตอนนี้ ทำได้ทุกวันแบบไม่เหนื่อยมาก
เคยไหมที่เวลาจะตั้งเป้าหมายอะไรสักอย่าง มันต้องบอกให้ชาวโซเชียลรู้ไว้ก่อน ? บางคนอาจจะคิดว่า ไม่เห็นจะแปลกอะไรเลยใคร ๆ เขาก็ทำ คุณพี่อย่ามาแอนตี้สังคมหน่อยเลย ถ้าเราโพสต์ว่าจะลดน้ำหนักลงเฟซบุ๊ก เพื่อน ๆ อาจจะเข้ามาให้คำแนะนำดี ๆ และทำให้เราไม่หลุดออกไปจากแผนก็ได้ แต่ความจริงแล้วการโพสต์เป้าหมายลงในโซเชียลเป็นดาบสองคมนะ คือมีทั้งประโยชน์และก็โทษให้เราคิดพิจารณา
ข้อดี
เมื่อเราโพสต์เป้าหมายอะไรก็ตามให้เพื่อนรู้ มันจะส่งผลให้เกิดแรงกดดันจากสังคมเพื่อน ๆ คนรอบข้าง ซึ่งอาจจะทำให้เราค่อย ๆ ทำตามแผนไปได้เรื่อย ๆ ด้วยการแชร์ให้เพื่อนเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงจนสำเร็จได้ เพราะแรงกดดันเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ หรือที่เราเรียกว่า Social Pressure ความรู้สึกที่ว่ามีเพื่อน ๆ จับตาเฝ้าดูอยู่จะช่วยป้องกันไม่ให้เราล้มเลิกเป้าหมายกลางคันเพราะมีพยานรู้เห็น ต่างจากการที่มีเพียงเราคนเดียวเท่านั้นที่รู้ อย่างหลังนี้จะเลิกเมื่อไหร่ก็ไม่มีอะไรจะเสียเพราะรู้อยู่คนเดียวจ้า
ข้อเสีย
การโพสต์ให้คนอื่นรู้บางครั้งก็ทำให้เกิดความเครียดและไม่มีความสุขกับการทำตามเป้าหมาย และการทำอะไรก็แล้วแต่ที่ทั้งเครียดและไม่แฮปปี้ระหว่างที่ทำนั้นก็ยากที่จะสำเร็จ เนื่องจากเป็นการสร้างแรงกดดันเชิงลบจึงทำให้เราลืมเป้าหมายที่แท้จริงไป ที่ทำอยู่ก็เพื่อไม่ให้คนอื่นจับได้ว่าหลุดเท่านั้น กลายเป็นว่าเราทำเพื่อคนอื่น อวดคนอื่น ให้คนอื่นมองในแง่ดี พอทำมาก ๆ เข้าเราจะกลายเป็นคนหลอกตัวเองได้เพราะบางคนอาจจะแค่โพสต์เกินจริง เช่น ถ่ายรูปออกกำลังกายชั่วโมงนึง แต่ออกกำลังกายจริง ๆ ไม่ถึง 5 นาที
หรืออีกข้อหนึ่งที่ต้องระวังก็คือ มันอาจจะทำให้เราเกิดความตื่นเต้นและความพึงพอใจเกินเหตุ เวลาเพื่อน ๆ แห่กันมาคอมเมนต์แสดงความดีใจหรือชื่นชมเมื่อเราทำตามแผนได้สำเร็จบางขั้นตอน และนั่นอาจจะทำให้เราหลงลืมเป้าหมายที่แท้จริง ทำไม่สำเร็จสักที และใช้เวลานานกว่าที่ตั้งเอาไว้ หรือสุดท้ายก็เลิก เหมือนไม่เคยตั้งเป้าหมายเอาไว้มาก่อน…
แหล่งข้อมูล
4 Psychological Tricks to Reach Your Goals